จากกรณีที่สังคมออนไลน์ได้แชร์คลิปหนุ่มรายหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้อาวุธมีดทำร้ายผู้ชายอีกรายที่อยู่ในคลิปจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะพบว่ามีการเผยแพร่คลิปวิดีโออีกคลิปที่ผู้ก่อเหตุได้เผยแพร่ภาพสด โดยใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับของตัวเองอีกด้วย
ล่าสุด วันนี้ (21 มิ.ย.61) พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธัญบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจาก มีคลิปโพสต์เหตุทำร้ายร่างกายภายในบ้านเอื้ออาทร ธัญบุรี คลอง 7 มีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ตำรวจได้ติดตามจับกุมได้ทั้งหมด คือ นายกฤษณะพงษ์ ขาวสำอาง อายุ 23 ปี และนายวงศกร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี โดยทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้การรับสภาพตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนคลิปที่ 2 ที่มีการใช้อาวุธปืนยิงศีรษะตัวเอง พบว่าชายในคลิปคือนายวงศกร อายุ 19 ปี ยอมรับว่า เกิดความเครียดจึงไปยืนบนสะพานข้ามคลองรังสิต หน้าหมู่บ้านเจริญลาภ คลอง 8 เฉี่ยวศีรษะ ก่อนที่จะโยนอาวุธปืนลงไปในคลอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมกันงมอาวุธปืนประดิษฐ์มาได้เพื่อเป็นหลักฐาน จึงแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน และยิงปืนในที่สาธารณะ และยังเคยมีประวัติถูกจับคดีชิงทรัพย์ เมื่อปี 2559 ด้วย
ด้าน
นางนิ่ม (นามสมมติ) แม่ค้าร้านของชำในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ระบุว่า เมื่อวาน (20 มิ.ย.61) นายวงศกรได้มาซื้อยาที่ร้าน โดยมีท่าทางคล้ายว่าเจ็บแผล ก่อนจะกลับไปนั่งทำแผลตัวเองที่บ้าน ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนอุปนิสัยใจคอของนายวงศกร นางนิ่ม บอกว่า เป็นคนค่อนข้างกวน แล้วพักอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง นานๆ ครั้งถึงจะเดินทางมาหาแม่
นอกจากนี้ นางนิ่ม บอกว่า เมื่อ 2 วันก่อน นายวงศกร ได้มาซื้อของที่ร้านของตนและขอค้างชำระไว้ก่อน แต่ตนบอกว่าไม่ได้ เนื่องจากจะค้างชำระเงินได้ไม่เกิน 500 บาท แต่เมื่อตัวเองไม่ให้ค้างชำระ นายวงศกร เดินไปปล่อยลมรถยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้าน เมื่อตนเดินออกไปพบนายวงศกรกำลังปล่อยลมรถ จึงได้ต่อว่าไป แต่นายวงศกร ก็ยอมรับและหยุดทำ พร้อมกับหันมาพูดกับตนด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า “ผมกำลังปล่อยลมรถป้าครับ” ส่วนตัวตัวคิดว่านายวงศกร นิสัยไม่ค่อยปกติ
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผู้กำกับ สภ.คลองหลวง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเชิญตัวบิดา มารดา ของผู้ก่อเหตุมาให้การที่ สภ.คลองหลวง โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้