คดีพลิก! ไฟคลอกผัวเมียที่แท้ฆ่าจัดฉากเผา เปิดจ.ม.ตัดพ้อปมมรณะ ญาติยันใจบุญ (คลิป)

11 มี.ค. 64

กรณีไฟไหม้บ้านเลขที่ 77/53 ม.4 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกไฟไหม้คืนวันทึ่ 10 มี.ค.64 เวลา 03.00 น. ทำให้นายวิโรจน์ ฉัตรสุวรรณ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นวิศวกรและผู้รับเหมาของบริษัทผู้ตรวจสอบอาคาร (ประเทศไทย) กำจัด และน.ส.ประภาพรรณ์ หูไธสง อายุ 54 ปี ภรรยา เสียชีวิตทั้งคู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

444680769462

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าทำการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ภายในบ้าน พบว่าเจอพิรุธหลายแห่ง โดยเฉพาะจุดที่เป็นปลั๊กไฟ มีคราบเลือดติดอยู่ และยังพบว่ามีแกลลอนน้ำมันถูกใช้ จึงสันนิษฐานว่าไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และได้ตรวจสภาพศพของนายวิโรจน์ มีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอก และยังพบมีดปลายแหลมอยู่ในกองเพลิง

297464482718

ล่าสุดวันที่ 11 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ อยู่ปากซอย 10 ของโครงการ มีสภาพด้านบนชั้น 2 ไหม้เป็นรอยดำ เนื่องจากบริเวณชั้นดังกล่าวเป็นต้นเพลิง และยังเป็นจุดที่พบศพทั้ง 2 นอนเสียชีวิต ทั่วบริเวณบ้านมีเศษกระจกแตกกระจายอยู่ทั่วบ้าน มีกลิ่นเหม็นไหม้พลาสติก เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นพื้นที่เอาไว้ ยังไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน

687695324003

ขณะที่บริเวณนอกรั้วบ้าน ญาติได้นำเครื่องเซ่นไหว้มาวางไว้ให้กับผู้ตาย คือ น้ำพริกกะปิปลาทู ผัดหมี่ ขนมวุ้นเป็ด น้ำเปล่า 2 ขวด ดอกไม้ ธูป ซึ่งญาติให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เป็นเมนูที่ทั้ง 2 ท่านชอบทาน จึงได้นำมาวางเอาไว้ให้วิญญาณ

856678

พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ฟักศรี ผกก.สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ทางด้านจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 ตรวจสอบภายในบ้านที่ถูกไฟไหม้ ก็พบว่าที่ผ้าห่มข้างศพผู้ชาย มีรอยเลือดจำนวนมาก และพบปลายแหลมยาวประมาณ 22 ซม. หักคาอยู่ที่ผ้าห่ม และที่ปลั๊กไฟพบรอยเลือดและมีแกลลอนน้ำมัน 5 ลิตร อยู่ที่ห้องเก็บของด้านล่าง ซึ่งมีคราบเลือดติดอยู่

cg_12

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเอาน้ำมันมาเทเพื่อเผาอำพรางศพ ซึ่งการตรวจสภาพศพผู้ชายถูกแทงที่หน้าอกด้านซ้าย และที่แขนศพของผู้หญิงมีรอยกัดทั้งสองแขน ทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามจากบ้านข้างเคียงแล้วว่า ก่อนที่จะมีไฟไหม้ได้ยินเสียงทะเลาะกัน น่าเชื่อว่าภรรยาเกิดความหึงหวงสามีที่เคยลำบากด้วยกัน และก็หนีไปมีผู้หญิงคนอื่น ซึ่งทั้งสองคนไม่มีบุตรด้วยกัน เวลาเกิดเหตุหลานผู้ตายอยู่ที่บ้านแต่ไม่ได้ยินทะเลาะกัน เห็นควันจึงพังมุงลวดและปีนลงมาด้านล่างให้เพื่อนข้างบ้านเข้ามาช่วยเหลือ

848881

ขณะที่บรรยากาศที่วัดนางคันจันทร์ตรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายวิโรจน์ และน.ส.ประภาพรรณ์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติได้ประกอบพิธีรดน้ำศพ โดยนำร่างทั้ง 2 วางนอนใกล้กัน โยงสายสิญจน์ออกมาที่ขันรถน้ำศพ หลังจากที่มีพิธีรดน้ำศพเสร็จสิ้นแล้ว ได้บรรจุร่างทั้งสองลงไปภายในโรงเย็น และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 13 มี.ค.64 ช่วงเวลา 09.00 น. จะทำพิธีฌาปนกิจศพเมีย ส่วนเวลา 15.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจศพนายวิโรจน์ 

781784

ทีมข่าวได้คุยกับ นายธรรมนูญ ฉัตรสุวรรณ อายุ 29 ปี หลานชายนายวิโรจน์ ในฐานะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ทั้งสองคนไม่เคยมีปากเสียงต่อหน้าตน ซึ่งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็รักใคร่กันดี แต่ก็ไม่รู้ว่าลับหลังจะทะเลาะกันรุนแรงมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ยอมรับว่าทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะต่อหน้า

หากย้อนกลับไปในคืนวันเกิดเหตุ 9 มี.ค.64 เวลา 00.00 น. ตนกลับเข้ามาบ้านเป็นคนสุดท้าย ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เพราะเข้านอนกันเเล้วไม่มีอะไรผิดสังเกต ในคืนนั้นคิดว่าเป็นการเข้านอนตามปกติ ตนจึงเดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้กับห้องนางวิโรจน์ ก็ไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน หรือความผิดปกติเกิดขึ้นภายในห้อง จึงได้รีบอาบน้ำและเข้านอน กระทั่งเวลา 02.49 น. เห็นกลุ่มควันเข้ามาภายในห้องตน จึงรู้ว่าที่บ้านเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ จึงรีบตัดสินใจเปิดหน้าต่างเพื่อกระโดดหนีเอาตัวรอด และในตอนนั้นคิดว่าทั้งสองคนก็คงจะเอาตัวรอดแล้ว

แต่หลังจากที่เปลวเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ และเข้าใจว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าปลั๊กไฟบริเวณห้องนอนมีลักษณะเกิดรอยไหม้เป็นจุดแรก จึงไม่ได้เอะใจว่าเป็นเหตุการณ์วางเพลิง จนกระทั่งมีการตรวจสอบตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ก็พบว่ามีพิรุธเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่ตนก็ให้การไปตามขั้นตอน เพราะตอนนี้พูดอะไรมากไม่ได้ และตนก็พร้อมให้ความร่วมมือ แม้ว่าจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ก็ตาม อีกทั้งญาติก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับใคร เพราะเชื่อว่าทั้งคู้ตายพร้อมกันไปแล้ว

654067

ในมุมความรู้สึกหนึ่ง ญาติ ๆ หลายคนอาจจะมองว่า ตนอาจจะเป็นผู้โชคดีที่รอดชีวิต จากการก่อเหตุของน.ส.ประภาพรรณ์ ที่ตัดพ้อว่าชีวิตไม่มีความสุข และหวังที่จะจบชีวิตพร้อมกันทั้งบ้าน แต่ตนกลับรอด ตนไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องโชคดี เพราะที่บ้านต้องพบกับความสูญเสีย และก็คาดไม่ถึงว่าจะตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้นได้ 

132766319120

อย่างไรก็ตาม เรื่องจดหมายที่เจอในบ้าน ในมุมญาติได้มีการพูดคุยกันแล้ว เชื่อว่าจดหมายฉบับดังกล่าวเป็นการเขียนเมื่อปี 2562 เป็นการตัดพ้อ แต่เชื่อว่าไม่ใช่จดหมายปัจจุบันที่มีการเขียนลาตาย เพราะวันเวลาไม่ใช่ปัจจุบัน จึงไม่ได้ติดใจอะไรเกี่ยวกับจดหมายฉบับดังกล่าว เพราะถ้อยคำที่เขียน มีการพูดถึงเรื่องของบาปบุญคุณโทษ

804300581081664980

เนื่องจากน.ส.ประภาพรรณ์ เป็นคนที่ธรรมะธัมโม ส่วนเรื่องบ้านเป็นชื่อของน.ส.ประภาพรรณ์ ซึ่งไม่ใช่ชื่อของตน และยังไม่มีการโอนให้กับใคร โดยหลังจากนี้ก็ต้องพูดคุยกับญาติทั้งสองฝ่ายว่าจะดำเนินการอย่างไรกับบ้าน ส่วนเรื่องของธุรกิจ ตนก็คงต้องดูแลลูกค้าต่อ เพราะมีหลายงานที่รับงานเอาไว้ กลัวว่าจะกระทบลูกค้า

716501

นางทองม้วน หูไธสง อายุ 74 ปี แม่ของน.ส.ประภาพรรณ์ หูไธสง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.บึงกาฬ เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพ และพิธีบำเพ็ญกุศลศพของลูกสาวและนายวิโรจน์

203472

นางทองม้วน เปิดใจว่า ตนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ แล้วทำให้ลูกสาวถึงแก่ความตาย แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า เป็นการฆาตกรรมอำพราง และลูกสาวเป็นผู้วางแผน ตนยอมรับว่าไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของลูก เพราะปกติลูกสาวเป็นคนอ่อนโยน เป็นคนธรรมะธรรมโม จึงคาดไม่ถึงว่าจะก่อเหตุดังกล่าวได้ แต่ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน แต่ก็ยังมีอะไรที่ขัดกับความรู้สึกของตนอยู่ เพราะลูกสาวเป็นคนชอบทำบุญ เป็นคนชอบช่วยเหลือคน จึงเชื่อมั่นว่าลูกสาวไม่กล้าก่อเหตุดังกล่าว แต่ก็อาจจะเกิดจากความอารมณ์ร้อน ดังนั้นก็ให้ว่าไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องกล่าวโทษกันอย่างไร เพราะลูกสาวก็ตายไปแล้ว

ทั้งนี้ลูกสาวเป็นคนอ่อนโยน เป็นคนดี และชอบทำบุญ งานกฐินแต่ละครั้งลูกสาวก็จะออกตัวทำตลอด และลูกสาวเป็นคนที่รักหลาน โดยจะโอนเงินมาให้ใช้ทุกเดือน 5,000-7,000 บาท เพราะลูกสาวยังไม่มีลูกจึงรักหลาน และครั้งล่าสุดก็ยังโอนเงินมาให้ 100,000 บาท ให้ตนสร้างบ้านใน จ.บึงกาฬ โดยลูกสาวเป็นคนที่กตัญญูมาก จึงคาดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในครอบครัว

316995

ในครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับลูกสาว โทรมาหาประมาณ 2 วันก่อนเกิดเหตุ โดยลูกสาวก็ไม่ได้ตัดพ้อหรือเล่าอะไรให้ฟัง ลูกสาวเพียงแต่โทรมาบอกว่าโอนเงินให้หลานแล้ว 500 บาท เป็นการพูดคุยกับลูกสาวครั้งสุดท้าย ส่วนที่ผ่านมาเวลาที่ลูกสาวและนายวิโรจน์ กลับไปที่บ้านใน จ.บึงกาฬ ก็ไม่มีเหตุการณ์เรื่องความรุนแรง หรือทะเลาะให้แม่เห็น จึงไม่รู้ว่าทั้งคู่มีเรื่องอะไรกัน แต่วันนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ก็ต้องทำใจและรับกับเหตุการณ์ เพราะไม่รู้ว่าจะไปโทษหรือโกรธใคร

816846

จากนั้นทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน พบว่าในคืนวันที่ 9 มี.ค.64 เวลา 22.10 น. รถเบนซ์สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ ซึ่งในรถมีนายวิโรจน์ และน.ส.ประภาพรรณ์ นั่งโดยสารมาด้วยกัน หลังกลับมาจากออกไปทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายที่ทั้งคู่เข้าไปภายในหมู่บ้าน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แทงกันตาย และไฟไหม้ตามมาในเวลา 03.00 น. ของคืนวันที่ 10 มี.ค.64

383335

อย่างไรก็ตาม นายสอง (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน บอกกับทีมข่าวว่า หลังจากที่นายวิโรจน์และน.ส.ประภาพรรณ์ เดินทางกลับมาในช่วงเวลาประมาณ 21.00-22.00 น. ก็ไม่ได้กลับออกไปอีก จึงคิดว่าในคืนดังกล่าวตัดสินใจก่อเหตุ และเผาบ้านในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เพราะหลังจากที่เห็นน.ส.ประภาพรรณ์ เข้าหมู่บ้าน ก็ไม่ได้ย้อนกลับออกไปอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส