จากกรณีเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 29 มี.ค. 64 ตำรวจ สภ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย รับแจ้งมีเหตุยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตบริเวณทางสาธารณะในหมู่บ้านหนองกระดี่ ม.1 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง รีบรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรประจำ รพ.ศรีสังวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทพนิมิตร
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต นายสันติ จันทร์ภักดี อายุ 46 ปี สภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงยีนส์ขาสั้น นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กลางถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 กระสุนเข้าที่ลำคอ แขน หน้าอก กลางหลัง และก้น รวม 5 นัด นำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ทำการชันสูตร
ต่อมาทราบชื่อคนร้ายคือ นายศักดิ์ชัย เขียวพุฒิ หรือ โขง อายุ 36 ปี เพื่อนของคนตาย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ก่อนช่วงเช้าของวันที่ 30 มี.ค. 64 ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว พร้อมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ริมถนนจรดวิถีถ่อง หมู่บ้านหนองกระดี่ ม.1 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง พบว่าจุดที่ผู้เสียชีวิตห่างจากบริเวณริมถนนจรดวิถีถ่อง 10 เมตร ใกล้เคียงมีบ้านของประชาชน
พี่สาวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุ นิมนต์พระ 1 รูป มาทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณของน้องชาย ซึ่งอยู่ในอาการที่โศกเศร้า จุดธูปและเทียนขอให้เจ้าที่ศาลพระภูมิให้นำวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศล
นางปราณี บุญสว่าง อายุ 51 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวานนี้ ช่วงเวลา 20.30 น. นายสันติ ผู้ตาย ได้มาบอกกลับตนว่าจะออกไปนอกบ้าน เพื่อจะเดินทางไปหาเพื่อน ตนก็ตักเตือนว่าอย่ากลับดึก ต่อมาเวลา 21.00 น. นายเสน่ห์ เพื่อนของนายสันติ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บ้าน พร้อมกับแจ้งว่านายสันติถูกยิง จึงรีบเดินทางไปยังบริเวณหน้าบ้านของนายเสน่ห์ทันที
เมื่อไปถึงพบว่านายสันติเสียชีวิตแล้ว ยอมรับว่าใจหาย ไม่คิดว่านายสันติจะถูกยิงและเสียชีวิต ถามนายเสน่ห์ เพื่อนของผู้ตายระบุว่า นายศักดิ์ชัย คนร้ายเป็นผู้ก่อเหตุ และได้หลบหนีไป ซึ่งคาดว่าน่าจะทะเลาะกันเรื่องเงินที่ได้จากโครงการเราชนะ ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักกับนายศักดิ์ชัย ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน และที่ผ่านมานายสันติไม่เคยมาปรึกษาว่ามีปัญหากับใคร เพราะนายสันติค่อนข้างมีนิสัยที่ไม่ค่อยพูด ยอมรับว่านิสียโผงผาง โมโหง่าย แต่ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ
ภายหลังจากเกิดเหตุ ตนยังไม่ได้เจอและพูดคุยกับครอบครัวของนายศักดิ์ชัย คนร้าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะทุกวันนี้ผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ช่วยเหลือพี่น้อง ถึงแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัว เขาได้เลิกรากับภรรยามาแล้ว 7 ปี หากตนเจอกับคนร้าย อยากถามว่า "ไปทำเขาทำไม มีอะไรทำไมไม่คุย ถ้าคุยกับเขาไม่ได้ ก็มาคุยกับพี่เอง ไม่ต้องตัดสินกันด้วยวิธีนี้ ทุกคนรักชีวิตของตัวเอง" ตนไม่ต้องการให้ครอบครัวของเขามาขอขมา ตนอยากให้รับกรรมที่ก่อไว้
นางนก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ภรรยาของคนร้าย เผยว่า ภายหลังจากที่นายศักดิ์ชัยไปก่อเหตุ ทางกู้ภัยได้ไลฟ์เฟซบุ๊กและเพื่อนของตนโทรมาแจ้งว่านายศักดิ์ชัยไปก่อเหตุ ตนไม่มั่นใจว่าเป็นนายศักดิ์ชัยจริงหรือไม่ เพราะเขาไม่มีพฤติกรรมที่รุนแรง จากนั้นตนขอตัวเดินทางกลับมาบ้าน เมื่อมาถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมบ้านเอาไว้ สอบถามจึงทราบว่านายศักดิ์ชัยไปก่อเหตุยิงนายสันติ ก่อนหน้านั้นตนคาดว่านายศักดิ์ชัยออกไปหานก หาปลา ตามปกติ
ขณะเดียวกันตนพยายามติดต่อ และได้เดินทางไปยังบ้านของนายศักดิ์ชัย แต่ไม่พบนายศักดิ์ชัย กระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันนี้ นายศักดิ์ชัยได้ติดต่อกลับมาหา ระบุว่าให้ตนนั้นมาหาที่กระท่อมกลางนาของเขา และให้พาเขาไปมอบตัว หลังจากนั้นตนได้ประสานผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจว่านายศักดิ์ชัยติดต่อกลับมาแล้ว ด้วยความเป็นห่วงว่านายศักดิ์ชัยจะฟุ้งซ่านทำร้ายตัวเองหรือคิดสั้น ตนจึงออกไปหาในเวลา 05.00 น. ขณะที่ไปถึงกระท่อม นายศักดิ์ชัยอยู่ในอาการที่เครียด ตนได้พยายามให้กำลังใจ และให้ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งวันที่ผ่านมาที่ได้คุยกับนายศักดิ์ชัย ไม่ได้สอบถามถึงสาเหตุที่ได้ลงมือยิง เพราะกลัวว่าจะคิดสั้น หรือมีอาการเครียดกว่าเดิม แต่นายศักดิ์ชัยเอ่ยปากบอกว่า "ไม่ต้องประกันตัว"
ตำรวจ สภ.ศรีสำโรง สอบปากคำของคนร้ายยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง อ้างว่าเนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ผู้ตายได้กล่าวหาว่าทางคนร้ายได้ขโมยเงินในแอปฯ ไปจำนวนหนึ่ง จึงได้ทะเลาะกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ผู้ตายได้นำมือถือไปจำนำให้คนร้าย พยายามจะเข้าไปเคลียร์ใจกับผู้ตาย แต่ผู้ตายกลับมีพฤติกรรมที่จะทำร้ายร่างกาย ทำให้คนร้ายได้พยายามป้องกันตัว จึงควักปืนที่พกไปยิงผู้ตาย
