สาวแฉถูกปล้ำหลังฟังธรรมพลิกลิ้นโวยสื่อเข้าใจผิด “พุทธะเทพฯ” ล่องหนศิษย์เชื่อธุดงค์ชั้นฟ้า (คลิป)

หลังจากลูกสาวได้ร้องเรียนว่า แม่สายบุญถูกหลอก หลังไปทำบุญกับพระรูปหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนพระทั่วไป อ้างว่า สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคโควิด-19 ได้ แถมยังกล่าวอ้างว่ามีอภินิหารต่างๆ จนแม่ถึงขั้นสบทบเงินทำบุญ และสร้างที่พักสงฆ์ภายในของตัวเองนั้น หลวงปู่พุทธะ สุริยะจักรวาลอ้างว่าตัวเองไม่ใช่พระ เพียงแต่ยึดหลักธรรมะเท่านั้น ล่าสุดมีหญิงอ้างว่าถูกชายปริศนาผู้ปฏิบัติธรรม ข่มขืนจนตั้งท้องแล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดเบื้องหลังพระดังกราบ "พุทธะเทพฯ" ถูกอ้างแก่พรรษา เชื่อรู้แหกตาเตือนอย่าสุงสิง
- วงแตกอีกรอบ! พุทธะเทพฯ ฉุนสื่อจี้ปมขยี้กามศิษย์ สาวโผล่อ้างถูกไอ้โม่งย่ำยีคาวัด
- ปะทะเดือด! ลูกบุกชิงตัวแม่จากลัทธินุ่งดำ ถก "เทพสุริยะ" วงแตกสาวกพาหนีสื่อ
- ลูกสุดทนแฉแม่บูชา "พุทธะเทพสุริยะ" ลัทธิใหม่นุ่งดำเสกโควิดหาย อึ้งคลิปลับดูดมะเร็ง
- เจ้าลัทธิ "เทพสุริยะ" เปิดใจโต้ลวงสาวกดูดเงิน ปัดโชว์ฤทธิ์ดูดแผ่นดิน-บินเหินฟ้า

วันที่ 20 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ดินแดนปฏิบัติธรรมพุทธะธรรมชาติ ดงพญาเย็น หมู่ 16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เป็นที่สถานที่ปฏิบัติธรรม โดยตั้งอยู่บนเขาชาวบ้านเรียกพื้นที่บริเวณนั้นว่า "หินเพลิง" ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่หลวงปู่พุทธะไม่อยู่ที่สถานที่ปฏิบัติธรรมแล้ว และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสถานที่รวมถึงที่พักอาศัยแล้ว

นายกรกฏ มุมกลาง อายุ 40 ปี ลูกศิษย์ เล่าว่า หลังจากหลวงปู่มาอยู่ที่นี่รู้สึกร่มรื่น จึงมีความศรัทธาตามความเชื่อส่วนบุคคล สำหรับกรณีหลวงปู่จะตั้งศาสนาขึ้นมามันเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี ถ้าไม่สร้างความเสียหาย ตนก็พร้อมจะร่วมอยู่กับศาสนา "พุทธะธรรมชาติ" ของหลวงปู่ต่อไป

ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่ามีการตั้งลัทธิพุทธะธรรมชาติ ตนยืนยันว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน และตนมองว่าไม่ว่าจะลัทธิใด ถ้าสอนให้เป็นคนดี ตนคงจะเข้าร่วมหมด ทั้งนี้ตนยืนยันว่าท่านไม่เคยเรี่ยไรเงิน และถึงแม้ว่าจะมีข่าวว่ากระทำชำเราลูกศิษย์ใน จ.ศรีสะเกศ จนตั้งครรภ์ ตนก็ยังคงศรัทธาและคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงทำไมไม่ไปแจ้งความ ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากจะให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และขอให้หาหลักฐานมายืนยันความจริง เพราะถ้าเป็นเรื่องงจริงตนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่

ล่าสุด นางสาวน้ำส้มปั่น (นามสมมติ) อายุ 31 ปี หญิงที่อ้างว่าถูกชายปริศนาข่มขืนจนตั้งครรภ์ และมีลูกสาววัย 4 ขวบ อยู่ที่บ้านพักส่วนตัวและมีพ่อและญาติพี่น้องมาพักอยู่ด้วย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าตนได้ไปยุ่งเกี่ยวกับนายพุทธะ และถูกลวนลามทางเพศจนตั้งท้อง และมีลูกหนึ่งคนนั้น ตนขอปฏิเสธว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตนไม่เคยรู้จักกับนายพุทธะ แต่ว่าเคยไปทำบุญที่หนองเดียงบ่อโบราณ วังพญานาค ซึ่งมีพระหลายรูปอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีความรู้จักกับนายพุทธะเป็นการส่วน และตนไม่ทราบว่าข่าวที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนการที่สำนักข่าวแห่งหนึ่งได้นำตนไปยังบริเวณที่พักสงฆ์ที่นายพุทธะเคยมาอยู่นั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่มีมูลความจริงทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวพยานยามเดินเข้าไปสอบถาม นางจ๋า ลูกศิษย์คนสนิทของเทพสุริยะ แต่งกายห่มขาว เมื่อสอบถามว่าเทพสุริยะหายไปไหน แต่เจ้าตัวไม่คุยและไม่ได้ให้คำตอบใด ๆ ได้แต่เดินหนี

โดยก่อนหน้านี้ช่วงระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่พร้อมหมอปลา พระมหาไพรวัลย์ และผู้ร้องเรียน ได้มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อลายทหาร และกางเกงขาสั้นคอยเดินตามถ่ายรูปทุกคน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบถามว่าถ่ายทำไม

นายขุน คนงานที่เข้ามาทำไร่ใกล้ที่พักสงฆ์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะมา ไม่รู้เรื่องอะไร มาดูเฉย ๆ ว่าเขาทำอะไร ส่วนสาเหตุที่เมื่อวานนี้ตนเดินตามถ่ายรูปนักข่าว เพราะตนอยากรู้ว่าทุกคนกำลังทำอะไร และถนนที่ถ่ายรูปเป็นทางสาธารณะ ใครทำอะไรก็ได้ รูปภาพที่ตนถ่ายไปยืนยันว่าถ่ายไม่ติด เพราะความจำเต็ม แต่ถ่ายไปเรื่อย ๆ เฉย ๆ ส่วนกรณีที่ ตนไปนั่งอยู่ใกล้กับหลวงปู่ ในขณะที่นักข่าวกับหมอปลาและพระมหาไพรวัลย์เข้าไปสอบถาม ตนขอชี้แจงว่าอยากจะไปฟังคำสอนว่าพูดอะไร และไม่ได้เกี่ยวการที่ตนเป็นลูกศิษย์ เพราะตนไม่ใช่ลูกศิษย์ แต่เป็นแค่คนงานที่เข้ามาทำไร่ใกล้ที่พักสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกศรัทธาหลวงปู่เพราะหลวงปู่สอนให้เป็นคนดี และหลัก ๆ จะสอนให้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข

จากการสอบถาม นายกรกฎ มุมกลาง ลูกศิษย์ เปิดเผยว่า ตนเลื่อมใสศรัทธาท่านมา 1 ปีกว่าแล้ว เพราะท่านสอนให้เป็นคนดี หลังจากเกิดเรื่อง เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00 น. ท่านได้ลงเขาไปเพื่อออกไปธุดงค์ตามปกติ ซึ่งตนยืนยันว่าท่านไม่ได้หนีตามที่มีกระแสข่าวออกมา แต่ท่านออกไปธุดงค์เหมือนกับทุกครั้งทีผ่านมา ส่วนตัวไม่เคยตามไปด้วย เพราะขี้เกียจเดิน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดท่านไม่ได้เล่าอะไร แต่บอกว่าถ้าหลวงปู่ทำให้สังคมปั่นป่วนวุ่นวายก็จะหยุดพักก่อน ส่วนในที่พักท่านก็มีสิ่งของเหลือทิ้งไว้ปกติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลและป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ หลังเกิดลัทธิความเชื่อว่า ขณะนี้เห็นว่ามีหลายลัทธิที่เกิดขึ้น ซึ่งองค์การคณะสงฆ์ต่าง ๆ ก็ได้เข้าไปดูแล อีกทั้งนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้เข้าไปดูแลตรงนี้

"ขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ ในสิ่งที่มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์มากนัก เพราะคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงสอนด้วยคำของพระพุทธองค์เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ ดังนั้นในหลาย ๆ อย่าง ผมจึงไม่อยากให้ไปหลงเชื่อหรือเชื่อถือกันมากนัก แต่ผมก็ห้ามท่านไม่ได้อยู่ดี สิ่งเหล่านี้ทุกคนต้องมีเหตุมีผลในการที่จะเชื่อหรือเคารพ อีกทั้งพฤติกรรมเลียนแบบเหล่านี้ ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะทำ" นายกฯ กล่าว