เปิดปมมรณะเจ้าบ่าว ครึ่งวันยิงตัวตายหนีคำนินทา เมียท้องสุดเศร้าหวิดวิ่งให้รถทับ (คลิป)

26 เม.ย. 64

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุ นายศักดิ์ชัย หรือ ยิ้ว อายุ 32 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 7.65 มม. ยิงศีรษะตัวเอง กระสุนเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวา ภายในห้องนอนบ้านชั้นเดียว ถูกเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี-ปิยราษฏร์ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

313069

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบนที่นอน พบรอยคราบเลือดและอาวุธปืนขนาด 7.65 มม. ตกอยู่ นอกจากนี้ พบกระดาษเขียนด้วยปากกา ฝากให้ญาติดูแลเงิน โดยแจกแจงรายละเอียดไว้ จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ช่วงเช้าผู้ตายได้ทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงานกับเจ้าสาว จากนั้นช่วงบ่ายได้กลับมาบ้าน บอกกับแม่และน้องว่าขอนอนสักงีบ กระทั่งพบว่าถูกยิงพร้อมกับช่วยกันนำร่างผู้ตายส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางครอบครังได้จัดงานบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

498009

โดยคลิปในช่วงพิธีผูกข้อมือของบ่าวสาว ผู้ที่ผูกข้อมือให้คือพี่ชายพี่สาวของผู้ตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขนั้น

563808

วันที่ 26 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของผู้ตาย นายกุกหร่อย ตันติศักดิ์ศรี อายุ 64 ปี พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่ามีคนได้ยินเสียงปืนนั้นไม่จริง เนื่องจากเมื่อวานนี้หลังจากที่ผู้ตายเข้าพิธีผูกข้อมือขอกลับมานอนที่บ้าน ขณะนั้นภายในบ้านมีตน แม่ผู้ตาย พี่สาว พี่ชายฝาแฝด หลานสาววัย 5 ขวบ และหลายขายวัย 2 ขวบ อยู่ภายในบ้าน ยืนยันว่าไม่มีใครได้ยินเสียงปืน กระทั่งภรรยาผู้ตายได้มาตามผู้ตายเพื่อจะออกไปตลาด เห็นว่าผู้ตายกำลังหลับอยู่ ภรรยาผู้ตายจึงบอกว่าเดี๋ยวมาปลุกใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ภรรยาของผู้ตายก็ได้กลับมาปลุกอีกครั้งพบว่าผู้ตายยังคงนอนนิ่งในท่าเดิม เมื่อเปิดไฟจึงพบว่ามีคราบเลือดแห้งติดอยู่บนเตียง ครอบครัวจึงรับนำตัวผู้ตายส่งโรงพยาบาล

264050

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบปมของการก่อเหตุของผู้ตาย และไม่เคยทราบมาก่อนว่าผู้ตายมีปืน ขณะนี้ครัวยังคงสับสนและไม่ทราบปัญหา ตนและครอบครัวเพิ่งจะทราบว่าภรรยาของผู้ตายคั้งครรภ์ได้ 2 เดือน เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้ว่ากล่าวผู้ตาย ทางผู้ตายจึงอยากจะจัดงานผูกข้อมือให้ถูกต้องตามประเพณี ปกติผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ขยันทำงาน ไม่เคยมีลางมาก่อนว่าจะก่อเหตุ ตนเพียงรู้สึกว่าผู้ตายคิดน้อยเกินไป เพราะลูกในท้องภรรยาผู้ตายยังไม่ทันได้เห็นหน้าพ่อ ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ และขอให้ลูกชายไม่ต้องกังวล หลานในท้อง ครอบครัวจะช่วยกันดูแล

368519

สำหรับบรรยากาศภายในวัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวและเพื่อน ๆ ล้วนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ นางสาวกรกพร หรือ กิ๊บ ภรรยาของผู้ตาย ตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ ร้องไห้ออกมาตลอดพิธีรดน้ำศพ ได้แต่กล่าวว่า "ทิ้งกันทำไม ไหนว่าจะจับมือไปด้วยกัน" จนครอบครัวต้องพาไปนั่งพักสงบสติอารมณ์

900312

ส่วนพิธีเชิญดวงวิญญาณ ทางครอบครัวได้ทำพิธีไปแล้วในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมทำความสะอาดห้องที่เกิดเหตุแล้ว

388895

นายหนุ่ม พี่ชายผู้ตาย กล่าวถึงประเด็นจดหมายที่ผู้ตายเขียนทิ้งไว้ภายในห้องที่เกิดเหตุ เป็นการเขียนชื่อบุคคลพร้อมระบุจำนวนเงิน เพื่อให้ครอบครัวนำไปแจกแจงดูแลต่

124081

ทั้งนี้ ปกติแล้วน้องชายของตนเป็นคนชอบเล่นพระ และชอบเล่นของเก่า เช่น ลูกปัดโบราณที่ขุดเจอตามเมืองสุพรรณ และได้ทำการค้าหรือให้คนในครอบครัวยืมเงิน จึงเป็นที่มาของจดหมายดังกล่าว ตนเป็นพี่ชายคนโตของผู้ตาย รับรู้เรื่องราวของผู้ตายทุกอย่าง น้องชายของตนไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน เพราะกิจการเช่าพระเป็นไปได้ดี อีกทั้งยังเพิ่งเปิดร้านขายของชำกับฝ่ายหญิง น้องชายของตนมักจะเก็บเรื่องราวต่าง ๆ มาคิดโดยที่ไม่ระบายให้ใครฟัง อีกทั้งยังใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ ปัญหาที่คาดว่าน่าจะเป็นความเครียดของผู้ตายเอง

cg

พี่ชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ 25 เม.ย. 64 หลังจากที่ผูกข้อมือแล้ว 09.00 - 10.00 น. ตนและผู้ตายก็ได้นั่งพูดคุยสังสรรค์กัน โดยมีเจ้าสาวและเพื่อน ๆ นั่งอยู่ด้วย ชั่วขณะหนึ่งที่ตนสังเกตเห็นใบหน้าน้องชายตนเบลอ ๆ ส่วนบรรยากาศรอบ ๆ น้องชายตนนั้นมืดไปหมด คล้ายตอนกลางคืน หลายคนคิดว่าตนเมาจะเป็นลม แต่ตนไม่ได้เมาคิดว่าเป็นลางบอกเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ตนจะกลับบ้าน น้องชายของตนจึงอาสาจะขับรถไปส่ง ระหว่างทางน้องชายตนก็ได้บ่นกังวลท้อแท้ในรถว่า "พิธีผูกข้อมือโอเคไหม แขกขะชอบไหม..." บ่นในทำนองต่างคนต่างความคิด แม่จะอยากได้งานแบบนี้ ภรรยาอยากได้อีกแบบ ครอบครัวอยากได้อีกแบบ ตนจึงตอบไปว่า "มีครอบครัวแล้วนะ สู้ ๆ"

หลังจากนั้น ตนก็ได้รับแจ้งว่าน้องชายใช้ปืนจ่อยิงขมับตัวเอง จึงได้พาผู้ตายไปโรงพยาบาล แพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตและปั๊มหัวใจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ หากในรถเมื่อวานนี้ น้องชายตนบอกให้ตนฟังสักนิดว่าไม่ไหวแล้ว ตนจะปลอบและไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของผู้ตายที่มีพกไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะเป็นพ่อค้า จึงกลัวโดนปล้น

สำหรับกำหนดการจัดพิธีศพ ครอบครัวจะจัดพิธีสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 25 - 28 เม.ย. 64 และทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 29 เม.ย. นำอัฐิไปลอยอังคาร ขณะนี้พี่ชายฝาแฝดของผู้ตายจะขออัฐิไปเก็บไว้ เพราะไม่อยากห่างจากกัน

336288

ทีมข่าวได้สำรวจเฟซบุ๊กของผู้ตาย ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ มีเพียงแค่เพื่อน ๆ เข้ามาแสดงความอาลัย ส่วนเฟซบุ๊กของนางสาวกรกพร หรือ กิ๊บ ภรรยาของผู้ตาย มีหลายโพสต์ที่โพสต์ถึงเหตุการณ์นี้ ระบุว่า "มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้"

577574

รวมทั้งโพสต์รูปภาพสีดำที่ถ่ายคู่กับเจ้าบ่าว ขณะที่ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันในวันผูกข้อมือ ข้อความว่า "ถ้ามันคือกอดสุดท้าย หนูจะขอกอดพี่นานกว่านี้ ทำไมพี่ถึงไม่อยู่จับมือกันผ่านไป ไหนบอกเราจะสู้ทุกอย่างไปด้วยกัน ทำไมพี่ไม่บอกหนูระบายกับหนู ทุกเรื่องพี่เก็บมันไว้ทำไมคนเดียว ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้หนูนะ หนูรู้พี่เหนื่อยมามากแล้ว พี่อยากพักใช่ไหม แต่พี่พักยาวไปนะ หนูทำใจไม่ได้ ทำไมพี่ถึงจับมือหนูไม่แน่นพอนะ หรือถ้าหนูจับมือพี่ไม่แน่นหนู ขอโทษนะ หนูรักพี่พี่จะเป็นคนเดียวที่หนูจะรักและจำไว้ในหัวใจ สักวันหนูกับพี่คงจะได้เจอกัน แล้วค่อยเจอกันนะที่รัก เทอเหนื่อยมามากแล้วเทอได้พัก เสียที"

618930

เจ้าสาวได้โพสต์อีกว่า "เห็นทุกแชททุกคอมเมนต์นะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ทั้งในช่องแชทและคอมเมนต์ ขอโทษที่ไม่ได้รับสายและตอบใครเลย ตอนนี้สภาพจิตใจไม่ไหวจริง ๆ 🙏🏻", "ภาพมันติดอยู่ในหัวตลอดเวลา หนูทำใจไม่ไหวจริง ๆ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ พี่เหนื่อยก็กอดหนูสิอย่างที่เคยทำ ทำไมพี่ไม่กอดหนูให้แน่น ๆ แล้วหนูจะอยู่ยังไง 😭", "ไหนบอกเราจะจับมือกันไปนาน ๆ เราจะสู้ทุกอย่างไปด้วยกัน แล้วทำไมพี่ทิ้งหนูไว้คนเดียวแบบนี้ ทำไมพี่ไม่เข้มแข็งอย่างที่เราคุยกัน พี่ทิ้งหนูไปหนูจะอยู่ยังไง 😭"

278925

อีกทั้งเจ้าสาวยังได้โพสต์ข้อความแชตที่เคยพูดคุยกับเจ้าบ่าว ระบุว่า "ยิ้มนะที่รัก เราจะผ่านไปด้วยกัน พี่รักกิ๊ฟรักลูกนะ พี่เป็นห่วง ไม่ต้องคิดเยอะ กิ๊ฟเป็นคนบอกพี่เองว่าไม่ต้องสนใจรอบข้าง", "รู้สึกเหนื่อย อ่อนแอ น้อยใจ เบื่อเหนื่อยกับสิ่งรอบข้าง โดยเฉพาะคน ตอนนี้กลัวทุกอย่าง"

716454

นางสาวปทิตตา พงศ์นาถวัฒน์ หรือ กร อายุ 25 ปี เพื่อนของเจ้าสาว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้พิธีผูกข้อมือเริ่มขึ้นที่บ้านเจ้าสาว ในเวลา 9.00 น. แล้วเสร็จสิ้นในเวลา 10.00 น. จากนั้นทุกคนก็ได้ออกมานั่งนอกบ้าน เพื่อพูดคุยและดื่มสังสรรค์ แต่เจ้าบ้านนั้นมีท่าทีนิ่งเฉย ยิ้มบ้างในบางครั้ง ดูไม่มีความสุขสมกับเป็นงานมงคลของตัวเอง สีหน้าหมองคล้ำดูเป็นคนมีทุกข์ จากนั้นเจ้าบ่าวก็ได้ขับรถไปส่งพ่อกับแม่ที่บ้าน แล้วได้กลับมานั่งที่บ้านเจ้าสาว ขณะนั้นที่โต๊ะสังสรรค์มีคนทั้งหมด 7 คน ได้แก่ เจ้าบ่าว เจ้าสาว พี่ชายคนโตเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าว น้องสาวเจ้าสาว พี่สาวเจ้าสาว และตน ไม่นาน พี่ชายคนโตของเจ้าบ่าวก็มีอาการมึนเมา เจ้าบ่าวจึงอาสาขับรถไปส่งพี่ชาย แล้วขอตัวกลับไปนอนที่บ้าน เวลาประมาณ 13.30 น.

จากนั้นในเวลา 14.30 น. ทุกคนได้แยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือเพียง 3 คน ได้แก่ เจ้าสาว น้องสาวเจ้าสาว และตน ขณะนั้นเจ้าสาวมีความต้องการที่จะแกะซองทำบุญร่วมงานมงคล จึงได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าบ่าว แต่เจ้าบ่าวไม่รับสาย จึงคิดว่าเจ้าบ่าวนอนหลับอยู่ เจ้าสาวจึงได้ขับรถไปหาเจ้าบ่าวที่บ้าน เห็นหลับอยู่ จนกระทั่งเวลาผ่านไป เจ้าสาวได้กลับไปหาเจ้าบ่าวอีกครั้ง จึงพบว่าเจ้าบ่าวนอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้องนอนแล้ว ตนขอยืนยันว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่เคยมีปัญหากัน

ทั้งคู่รักกันดีมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าบ่าวเครียดและน้อยใจตลอด 1 สัปดาห์ก่อนพิธีผูกข้อมือ คือขี้ปากชาวบ้าน หลายคนไปพูดกับแม่เจ้าบ่าวในทำนองว่าท้องก่อนแต่ง เจ้าสาวจน คบไปได้อย่างไร เจ้าสาวอยู่บ้านเช่า ทั้งที่แท้จริงบ้านที่ทำพิธีผูกข้อมือเป็นบ้านของพ่อเจ้าสาว ไม่ใช่บ้านเช่า จึงทำให้เจ้าบ่าวเครียด เนื่องจากเจ้าบ่าวกลัวพ่อแม่จะเสียใจที่แต่งงาน เหตุการณ์นี้ครอบครัวหนึ่งต้องสูญเสียคนไป 1 คน ด้วยเรื่องไร้สาระของชาวบ้าน บางครั้งชาวบ้านไม่ได้รู้ความจริงก็นำมาพูด ส่วนเจ้าสาวก็เสียใจจนแทบจะวิ่งให้รถชน ทุกคนก็ช่วยกันปลอบใจ

679313

ด้านนายกันต์ จันทร์ประสบพร อายุ 46 ปี พ่อเจ้าสาว บอกว่า ตนไม่ทราบประเด็นของการก่อเหตุ ยอมรับว่าผู้ตายเป็นคนดี เหตุที่เกิดขึ้นค่อนข้างสะเทือนใจ ลูกสาวตนเสียใจมาก ตนรู้สึกเป็นห่วง จะให้ลูกสาวอีกคนเข้าไปนอนเป็นเพื่อน แต่ลูกสาวไม่ยอม จะขอนอนคนเดียว ตนก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวดังออกมาตลอดคืน ตื่นเข้ามาก็รีบไปเฝ้าศพผู้ตายที่วัด ขณะนี้ลูกสาวตนตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน เจ้าบ่าวได้มาสารภาพกับตนช่วงต้นเดือนเมษายนว่าลูกสาวตนตั้งครรภ์ และขอแต่งงาน ตนไม่โกรธ เพราะเจ้าบ่าวเป็นคนดี ทำมาหากิน ขยันทำงาน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ตนไม่ทราบต้นสายปลายเหตุของการก่อเหตุ ครอบครัวเจ้าบ่าวก็ยังไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน

"ตนย้อนเหตุการณ์ไม่ได้ ได้แต่ปลอบใจลูก สงสารหลานที่กำลังจะเกิดแล้วไม่ได้เห็นหน้าพ่อ เสียดายที่เจ้าบ่าวตายก่อนเวลาอันควร" พ่อตาของผู้ตาย กล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส