ตี๋ ดอกสะเดา เปิดเหตุผลที่ปั้นซิกแพค จนเมียสงสัยว่ามีกิ๊ก !

29 เม.ย. 64

อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้ก็ยังฮอต งานแน่นแบบจุกๆ อยู่ สำหรับ ตี๋ ดอกสะเดา นักแสดงอารมณ์ดีที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าเหตุผลว่าทำไมต้องหันมาฟิตหุ่นให้มีซิกแพค กล้ามเป็นมัดๆ ก็เพราะร่างกายของตัวเองไม่ค่อยแข็งแรง เลยต้องหันมาดูแล ส่วนเรื่องงานที่ยังคงแน่น เพราะปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอให้ทันกับเวลาที่เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องครอบครัวนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นตัวเองเป็นคุณพ่อที่ดุมาก

s__71295145_1

ถาม เข้าวงการตลกมากี่ปีแล้ว

ตี๋ ดอกสะเดา : เข้ามาตั้งแต่ปี 2528 อยู่กับพี่เด๋อ แล้วก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เลยครับ แต่ถ้าเกิดนับว่ามีคนรู้จักเรามากขึ้นก็คือ ก่อนบ่ายคลายเครียด เป็นงานแรกที่เรารู้สึกว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเรา พี่เป็ดเรียกเราไปเล่นก่อนบ่ายฯ แล้วอาโตที่เขาเป็นทีมงานที่อยู่ในรายการนี้ก็บอกว่าจำไว้นะ หลังจากนี้อีก 6 เดือน จะมีคนรู้จักเรา และก็จริงๆ ครับ เพราะหลังจากนั้น 6 เดือน ก็มีคนเข้ามาทักเราว่าไหนๆ ทำตาเหล่ให้ดูหน่อยสิ เราก็เลยเริ่มรู้สึกว่ามีคนเริ่มรู้จักเราแล้ว เพราะมุกตาเหล่ มุกที่เราเล่นจนเป็นที่จดจำของเรา เวลาไปไหนเขาก็จำจำเราในแบบนี้ คือมุกตาเหล่ เอามาจากสายัณห์ เวลาที่เราเล่นกับเขา เขาก็จะทำตาเหล่ใส่เรา เราก็ทำตามเขา แซวเขา จนเป็นเอกลักษณ์ของเราขึ้นมา


ถาม แล้วเวลาที่ทำตาเหล่ เมื่อยตาบ้างไหม

ตี๋ ดอกสะเดา : ผมเคยเล่นละครเรื่องหนึ่ง ผมต้องตาเหล่ทั้งเรื่อง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะครับที่เหล่ ในเรื่องนั้นคนที่เล่นเป็นภรรยาของผมก็เหล่ด้วย ถามว่าเสียสุขภาพสายตาไหม ถ้ามันนานๆ มาก ผมก็จะหันไปมุมที่ไม่มีกล้องจับที่ตา แล้วคลายตา แล้วก็กลับมาเล่นใหม่ มันก็ปวดตาอยู่ครับ เพราะเราต้องบังคับให้มันอยู่แบบนี้ตลอด


ถาม แต่จริงๆ ตี๋ดังก่อนที่จะเล่นก่อนบ่ายคลายเครียด เพราะตอนนั้นที่เล่นตั้งแต่ที่สมัยอยู่คาเฟ่

ตี๋ ดอกสะเดา : ตอนนั้นยังทาหน้าขาวอยู่เลยครับ เพราะทุกครั้งที่เล่นตลก ผมต้องทาหน้าขาว ไม่ทาเหมือนเราขาดอะไรไปสักอย่าง ก็เลยกลายเป็นเอกลักษณ์ตอนที่เราอยู่คาเฟ่ ตอนนั้นที่เล่นเราก็จะเป็นตัวปู ส่งมุกให้เพื่อนๆ ที่วง


ถาม และตอนนี้ต้องบอกว่าเขาคือตลกคนแรกเลย ที่มาปั้นซิกแพคให้กับตัวเอง ทำไมถึงอยากดูแลหุ่นตัวเองกลับมา

ตี๋ ดอกสะเดา : เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรง ผอม ทำงานดึก ดื่มเยอะ สูบบุหรี่ ทำให้เราดูร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง บางทีตื่นก็ไม่ค่อยไหว เราก็เริ่มจากที่เราวิดพื้นอยู่ที่บ้าน ยกเวทบ้าง ก็เริ่มมีริ้วรอย เราก็เลยเข้าฟิตเนสเลยดีกว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้เรามาออกกำลังกายเลยคือเรื่องสุขภาพครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราร่างกายไม่แข็งแรง


ถาม แล้วพอหล่อขึ้น ภรรยามีถามไหมว่ามีอะไรนอกบ้านหรือเปล่า

ตี๋ ดอกสะเดา : เขาก็ถาม ทำไมตอนนี้ดูแลตัวเองเหลือเกิน มีกิ๊กหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่มี (นานแล้ว) แต่เมื่อก่อนก็มีบ้างนิดๆ หน่อยๆ หลงทางกันบ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ กลับบ้านอย่างเดียว

s__71295149

ถาม เรียกว่า ตี๋ ดอกสะเดา สุขภาพก็ดูแล หลายๆ อย่างก็ปรับปรุง อีกสิ่งหนึ่งที่เขาก้าวข้ามผ่านเวลามาได้คืองานตอนนี้ก็ยังแน่นอยู่เลย ทำยังไงเราถึงปรับตัวมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะการเล่นตลกจากในอดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ มันต่างกันไหม

ตี๋ ดอกสะเดา : ไม่เหมือนแน่นอนครับ เพราะมาสมัยนี้เป็นตลกร่วมสมัย แต่เมื่อก่อนนี้เป็นตลกที่มุกใครมุกมัน คณะนี้ก็จะมุกของคนนี้ คณะนี้ก็จะมุกของคนนี้เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคณะ แต่พอมาสมัยนี้ผมก็ว่าเขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่อาจจะฉีกมุกกันบ้าง จะแกล้งกัน แล้วก็เน้นความเรียลขึ้น เอาความเป็นธรรมชาติและความเป็นวัยรุ่นของสมัยนี้ใส่ลงไปด้วย


ถาม มาอัปเดตเรื่องครอบครัวกันบ้างดีกว่า ลูกตอนนี้ 3 คน อายุเท่าไหร่บ้าง

ตี๋ ดอกสะเดา : ลูกสาวคนโต 29 จะ 30 แล้วครับ คนกลาง 22 ผู้ชาย คนเล็ก 14 จะ 15 ครับ เพราะผมมีลูกตอนอายุ 25 ผมเป็นพ่อเลี้ยงลูกแบบบุฟเฟ่ต์ เลี้ยงลูกแบบธรรมดามากครับ ผมโดนเลี้ยงมายังไง ผมก็เลี้ยงลูกของผมแบบนั้นครับ ให้เขาใช้ชีวิตเขา อยากทำอะไรทำไปเลย ทำแต่เรื่องดีๆ สิ่งดีๆ เราก็เตือนเขาว่าเสียใจได้นะ แต่อย่าเสียคน แล้วแต่ลูกจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าอะไรที่ไม่ดี ก็อย่าไปทำ ผมจะเป็นพ่อที่ดุครับ แต่ก็เป็นคนที่สนุกสนานนะครับ


ถาม แล้วมีกอด แสดงความรักกันบ้างไหม

ตี๋ ดอกสะเดา : ที่บ้านก็ไม่ได้หวานอะไรมากครับ นานๆ ทีจะโอบไหล่กัน เราอยู่กันปกติ มีอะไรก็คุยกัน บางครั้งแทบจะไม่ได้คุยกันเลย แค่มองหน้ากันเฉยๆ ก็มีครับ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะมานั่งคุยกัน แล้วก็เงียบกันทั้งบ้าน เพราะผมเป็นคนเสียงดัง ถ้าผมเสียงดังที่บ้านจะรู้แล้วว่าผมดุ


ถาม ที่ต้องเข้มงวดขนาดนี้ก็เพราะว่าเคยเกเรมาขนาดไหน

ตี๋ ดอกสะเดา : เกเรมากเลยครับ เกเรเรื่องเรียนไม่ยอมไปเรียน ออกจากหน้าบ้านมีโต๊ะสนุ๊ก เราก็เดินเข้าที่นั่นเลย แล้วพอเลิกเรียนเราก็กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็กลับไปที่โต๊ะสนุ๊กต่อ แล้วก็เลยโดนโรงเรียนไล่ออก แล้วก็เกเรมีตีกันอะไรกัน ส่วนมาดื่มก็ช่วงที่เราโตแล้วครับ จนบ้างร้านไม่ให้เราเข้าไปดื่มแล้วเลยครับ

s__71295150

ถาม แล้ว ณ วันนี้เรามองลูกๆ เราทั้งสามคนยังไงบ้าง

ตี๋ ดอกสะเดา : ผมก็ดีใจนะครับ คนโตก็ทำงานเกี่ยวกับธนาคาร คนกลางก็น่าเป็นห่วงตอนแรกครับ แต่เขาก็กลับตัว เขาก็ไม่ได้ถึงขั้นเกเรนะครับ แต่เขาก็จะดื้อไปกับเพื่อนฝูง แล้วเขาก็ขอสมัครมาเป็นทหารอากาศ อันนี้เราก็สบายใจมากเลยที่เขาทำความภาคภูมิใจให้กับเรา ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเขาแล้ว ส่วนคนเล็กชอบเล่นฟุตบอล ส่วนการเรียนก็ดีนะครับ ดูเขาใส่ใจเรื่องเรียน


ถาม แต่ช่วงนี้คงไม่ค่อยมีเวลาดุลูกสักเท่าไหร่ เพราะว่าตัวเองรับละครถึง 6 เรื่องเลย

ตี๋ ดอกสะเดา : ที่ผ่านมาตอนโควิดเลยครับ จันทร์ อังคาร พุธ 2 เรื่อง พฤหัสบดี ศุกร์ 2 เรื่อง จบเรื่องนี้ อีกเรื่องก็เข้ามาเลยครับ


ถาม งานละครเพียบยังไม่พอนะ เพราะตอนนี้ต้องเรียกเขาว่าพี่ตี๋ ร้อยล้าน เพราะว่าตอนนี้ทำไอศกรีมทอดด้วย

ตี๋ ดอกสะเดา : ใช่ครับ ชื่อว่า ตี๋ ดอกสะเดา เลยครับ ที่เขาบอกว่าร้อยล้านใช่ครับ เพราะว่ามีร้อยกว่าร้านที่ซื้อแฟรนไชส์ผมไป เริ่มต้นจากที่ทำสิ่งนี้ เพราะว่าเมื่อก่อนหน้านี้ผมมีรายการประจำอยู่ 4-5 รายการ แล้วอยู่ๆ ถึงเวลาที่เขาเปลี่ยนผังรายการ แล้วรายการมันก็ค่อยๆ หายไป เหลืออยู่แค่ 2 รายการ แล้วรายจ่ายของเรามันเยอะ แต่รายรับของเราน้อยลงไป ผมเครียดมากเลยนะครับตอนนั้น เราก็ทำอะไรดี เพราะพี่คนอื่นๆ เขาก็เริ่มมาขายของกัน ก็นั่งคิดๆ แล้วลูกคนกลาง เขาบอกเราว่าพ่อขายไอศกรีมทอดสิ เราก็บอกว่าเคยได้ยินแต่ไม่เคยกิน เขาก็พาไปกินก็อร่อยดี เราก็เลยไปซื้อสูตรจากแม่ค้าคนนั้น แล้วเขาก็ขายให้เรา เราก็ไปเรียนๆ แล้วเราก็มาเปิดร้านแล้วก็ขาย แฟรนไชส์ของผมไม่แพงครับ 8,900 บาท ของผมจะขายในออนไลน์ในตอนนี้ แล้วก็ไปออกตามบูธต่างๆ ตามงานอีเว้นท์ครับ หรือถ้าใครอยากซื้อแฟรนไชส์พิมพ์ว่า ไอติมทอด ตี๋ ดอกสะเดา โทร 0906496365

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส