ใจจะขาด! เผาร่างเจ้าบ่าวยิงตัวตายหนีขี้ปากคน เมียสุดอาวรณ์อุ้มท้องนอนเฝ้าศพ (คลิป)

29 เม.ย. 64

จากกรณีนายศักดิ์ชัย ตันติศักดิ์ศรี หรือ ยิ้ว อายุ 32 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 7.65 มม. ยิงศีรษะตัวเอง กระสุนเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวา ภายในห้องนอนบ้านชั้นเดียว หมู่ 9 ต.อู่ทอง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทิ้งจดหมายจัดแจกหนี้สินที่มีคนยืมไปให้ครอบครัวดูแลต่อ ทั้ง ๆ ที่ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว ผู้ตายเพิ่งเข้าพิธีผูกข้อมือกับเจ้าสาว

608401941884

วันที่ 29 เม.ย. 64 มีพิธีฌาปนกิจร่างของผู้ตาย ทางครอบครังได้ขึ้นที่วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เวลาประมาณ 13.30 น. ทางครอบครัวก็ได้นิมนต์พระจำนวน 11 รูป เพื่อสวดมนต์ให้กับผู้ตาย พร้อมกับถวายผ้าไตรบังสุกุล ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ร้องไห้ออกมาตลอดขณะอยู่ภายในวัด

702609922142

จากนั้นในเวลา 15.00 น. ทางครอบครัวก็ได้ทำการเผาหลอกร่างของผู้ตาย พร้อมได้ให้แขกร่วมวางดอกไม้จันทน์ เนื่องจากทางวัดอยากจะลดปริมาณแขกที่เข้ามาภายในเมรุ ไม่อยากให้มีแขกแออัดบริเวณหน้าเมรุ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

938052

จากนั้นนายเอกชัย พี่ชายคนโต ก็ได้เป็นผู้ถือกระถางธูปนำขบวนพาร่างของผู้ตายไปยังเมรุ มีเจ้าสาวเป็นผู้ถือรูปผู้ตายเดินตามมา เจ้าสาวนั้นกอดรูปของผู้ตายไว้แน่ นพร้อมร้องไห้สะอื้นอย่างดังออกมาตลอด เวลา 15.30 น. เจ้าสาวก็ได้เข้าไปกอดแขนนายเอกชัย พร้อมร้องไห้โฮออกมาเหมือนคนใจจะขาด จับใจความได้ว่า "หนูรักพี่นะ" จนทำให้ครอบครัวต้องเข้ามาปลอบ เพื่อให้เจ้าสาวสงบสติอารมณ์ เพราะไม่อยากให้น้ำตาหยดลงไปในโลง เพราะผู้ตายจะไปไม่สบายใจตามความเชื่อ

750850

นายเอกชัย ตันติศักดิ์ศรี หรือ หนุ่ม อายุ 38 ปี พี่ชายคนโตของผู้ตาย บอกว่า ตั้งแต่ที่น้องชายเสียชีวิตไป น้องชายไม่เคยมาเข้าฝันหรือมาครอบครัว มีเพียงหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรมในคืนแรก หลังจากที่ทุกคนกลับถึงบ้าน คุณแม่รู้สึกเหมือนผู้ตายยังคงอยู่กับครอบครัว เนื่องจากคุณแม่สนิทกับผู้ตาย คุณแม่จึงเผลอเรียกบอกให้ผู้ตายเข้าบ้านพร้อมกัน ขณะนี้ครอบครัวเริ่มทำใจได้มากขึ้น แต่เจ้าสาวยังคงมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่บ้าง ทำให้ทางครอบครัวต้องบังคับให้เจ้าสาวกินข้าว เพื่อสุขภาพของตัวเองและเด็กในครรภ์

ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพทั้งหมด ทางครอบครัวของทั้งสองฝ่ายจะคุยกันถึงรายละเอียดการดูแลเด็กในครรภ์ของเจ้าสาวต่อไป โดยตนได้บอกกับน้องชายไปแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งตนสัญญาเอาไว้ว่าจะดูแลแม่และพี่ชายฝาแฝดของผู้ตาย สำหรับอัฐิ ขณะนี้ทางครอบครัวตกลงกันเรียบร้อยแล้วจะนำไปลอยอังคารทั้งหมด เพื่อให้ผู้ตายได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมีห่วงอีก ส่วนห้องนอนของผู้ตาย ทางครอบครัวจะจัดพิธีทำบุญบ้าน และปรับเปลี่ยนห้องให้กลายเป็นห้องพระ

ตนยังคงรู้สึกใจหายที่ต้องจัดการ 2 งานภายในวันเดียว เช้างานแต่งเย็นงานศพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์หนึ่งว่าหากใครมีอะไรในใจก็ควรปรึกษากับคนรอบข้าง ตัวเราเองต้องเข้มแข็งและให้กำลังใจตัวเอง ส่วนชาวบ้านควรมีขอบเขตในการนินทาหรือพูดถึงคนอื่นด้วย

806891

นอกจากนี้ นายเอกชัย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความอาลัยถึงผู้ตาย เขียนไว้เป็นกลอนว่า
"ในวันนี้ จากกันไป ไกลเหลือเกิน
กายห่างเหิน หลงเพลิน ไปทางไหน
จากพ่อแม่ พี่น้อง ไปแสนไกล
อีกเพื่อนพ้อง ต้องอาลัย ไม่กลับคืน
ยิ้วคงจาก พรากกาย หายแต่ร่าง
ชื่อเสียงสร้าง คงอยู่ มีผู้ปลื้ม
หลับเถิดหนา อย่ากังวล คนจะลืม
ไปดูดดื่ม สรวงสวรรค์ นิรันดร
ถึง ยิ้ว น้องรักของพี่ ลงวันที่ 29 เมษายน 2564"

718765

นางสาวปทิตตา พงศ์นาถวัฒน์ หรือ กร อายุ 25 ปี เพื่อนสนิทของเจ้าสาว บอกว่า ทุกวันนี้ เจ้าสาวจะออกจากบ้านตั้งแต่ 7.00 น. และกลับบ้านในช่วงดึก หลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมีเมื่อคืนนี้ที่เจ้าสาวนอนเฝ้าร่างของเจ้าบ่าว ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจในช่วงเวลา 15.00 น. วันนี้ ตนในฐานเพื่อนสนิท สังเกตเห็นว่าเจ้าสาวนั้นกลายเป็นคนเงียบ ๆ ไม่พูดจากับใคร ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าสาวร้องไห้น้อยลงและเริ่มทำใจได้มากขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ แม้ทางครอบครัวของเจ้าบ่าวจะทำพิธีฌาปนกิจในช่าวงเย็นวันนี้ ชาวบ้านที่ชอบนินทาก็ยังไม่หยุดที่จะลือกันว่า เจ้าบ่าวไม่ได้คิดสั้นเพราะชาวบ้านนินทาว่าท้องก่อนแต่ง แต่เครียดเรื่องอื่น แล้วแต่จะสรรหามาคำมาพูดนินทา ซึ่งตนคิดว่าชาวบ้านควรจะหยุด เพราะเจ้าบ่าวก็เสียชีวิตไปแล้ว ตนอยากจะให้ชาวบ้านสงสารเจ้าสาวและเด็กที่กำลังจะเกิดมาบ้าง เนื่องจากทุกอย่างนั้นชัดเจน คนรักกันแต่งงานกัน เจ้าบ่าวไม่มีทางยิงตัวตายเพราะความรัก ตนได้แต่ปลอบเจ้าสาวว่าปล่อยเขา เพราะไม่อยากให้เจ้าสาวเครียดอีกแล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส