เพื่อนบ้านเห็นใจสาวท้องแก่เลิกขาย “อาลัวพระเครื่อง” สำนักพุทธฯ ลง พบญี่ปุ่นทำได้ (คลิป)

29 เม.ย. 64

กรณีดราม่าขนมอาลัว จากร้านมาดามชุบ ที่ทำเป็นรูปทรงพระเครื่องหลากสีสัน จำนวนกล่องละ 20 ชิ้น ราคาเพียง 100 บาท โดยทางร้านโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊กจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่สนับสนุน และไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าเป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนา ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวนั้น  

848620

ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย.64 เวลา 09.30 น. น.ส.มาลินี สวยค้าข้าว ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสงคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคนที เจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรม และฝ่ายปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ร้านมาดามชุบ ที่ตลาดเก่าบางนกแขวก เพื่อตรวจสอบการผลิตอาลัวรูปพระเครื่อง แต่พบว่าวันนี้ร้านมาดามชุบปิดร้าน ซึ่งเพื่อนบ้านระบุว่า เจ้าของร้านไปตรวจเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

153107

จากนั้นน.ส.มาลินี ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง นางโป้ง เจ้าของร้าน ระบุว่า มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามส่งเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมว่าไม่เห็นด้วยกับการผลิตอาลัวรูปพระเครื่อง เพราะมองว่าไม่เหมาะสม ตนจึงเข้ามาแจ้งถึงความไม่สบายใจ และขอความร่วมมือให้หยุดผลิตอาลัวรูปพระเครื่อง เนื่องจากพระเครื่องเป็นวัตถุมงคลที่พุทธศาสนิกชนมีความศรัทธาเชื่อถือ เป็นที่เคารพบูชา จึงมองว่าการกระทำในลักษณะนี้ไม่ค่อยเหมาะสม

468495

นางโป้ง ระบุว่า ขณะนี้ตนไม่ได้ปิดรับออร์เดอร์ขนมอาลัวรูปพระเครื่องหลายวันแล้ว รวมถึงขนมอื่นด้วย เพราะตนกำลังท้องแก่ 8 เดือน รวมถึงรับทราบถึงกระแสที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ก็จะไม่กลับมาผลิตอาลัวรูปพระเครื่องแล้ว ซึ่งแต่ก่อนพิมพ์พระเครื่องมีขายอยู่แล้ว ตนก็นำหยิบยกมาประยุกต์เท่านั้น ก่อนหน้านี้ตนเห็นว่าร้านอื่น ๆ ก็เคยผลิตขนมในลักษณะนี้ จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดขนมของตนจึงกลายเป็นประเด็นที่สังคมดราม่า

นอกจากนี้ตนก็ไม่ได้ทำรูปพระเครื่องเป็นหลัก แต่มีรูปแบบอื่น เช่น ดอกไม้ที่ทำอยู่เป็นประจำ และตนผลิตขนมอาลัวพระเครื่อง เพื่อเป็นสีสันเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นกระแสขนาดนี้ ตนก็ไม่ได้ทำเพราะอยากดัง เพราะที่ผ่านมาก็พยายามคิดหาไอเดียใหม่ ๆ มาโดยตลอด ไม่ได้หวังว่าจะให้รูปพระเครื่องเป็นกระแส

606064

นอกจากนี้ ตนเข้าใจกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว เพราะตนก็เป็นชาวพุทธ และยังเคารพในพระพุทธศาสนา แต่ตนก็อยากให้มองถึงกลุ่มที่เห็นต่าง ซึ่งให้ความสำคัญกับคำสอนของศาสนา จึงอยากให้มองเป็นกลางด้วย

น.ส.มาลินี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสงคราม กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ส่งหนังสือร้องเรียนมาเกี่ยวกับการทำอาลัวพระเครื่อง จึงมาแจ้งกับทางเจ้าของร้านว่ามีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงเข้ามาพูดคุย โดยทางเจ้าของร้าน แจ้งว่าจะยุติการทำอาลัวพระเครื่อง ซึ่งตนก็เห็นใจเจ้าของร้านที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ตนก็มองว่าสามารถสร้างสรรค์ในรูปแบบอื่น ๆ ได้ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากต้องดูสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ด้วย

807257

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสุนัน หนูน้อย 66 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า นางโป้ง เจ้าของร้านมาดามชุบ เริ่มทำขนมลูกชุบ และอาลัวขายมาประมาณ 2 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ขายทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายดี เพราะทำรสชาติอร่อย รูปแบบแปลกใหม่ เช่น ลูกชุบน้ำพริกกะปิ หรืออาลัวรูปดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายดี เพราะรสชาติอร่อยไม่หวานเกินไป

โดยเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนเห็นนางโป้ง ทำอาลัวรูปพระเครื่อง ซึ่งตนก็เห็นแล้วมองว่าสวยดี จากนั้นก็ทราบว่ามีคนสั่งอาลัวรูปพระเครื่องมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ต้องหยุดรับออร์เดอร์ไป

ส่วนตัวมองว่าการที่นางโป้งทำอาลัวรูปพระเครื่องออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่ แต่เป็นการทำขนมรูปแบบใหม่ ๆ เท่านั้น ทั้งนี้รู้สึกสงสารนางโป้งมาก เพราะกำลังท้องแก่ แล้วต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ 

403013

นอกจากนี้ดราม่าดังกล่าวยังกลายเป็นกระแสฮือฮา ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิด เสี่ยงถูกดำเนินคดี โทษถึงคุก-ปรับหนักหรือไม่ ทำให้เป็นประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ เพราะมีชาวเน็ตและพระชื่อดังออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงเพจดังต่าง ๆ

215989

โดยเฉพาะแฟนเพจที่มักจะให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นหลายเพจ ก็ออกมาเคลื่อนไหวด้วยเช่นเดียวกัน เพราะว่าประเทศญี่ปุ่น มีขนมและของฝากหลายชนิดที่เป็นรูปพระพุทธเจ้า

570690641412

โดยขนมและของฝากรูปพระพุทธรูปของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการจัดจำหน่ายภายในวัดโคโตะกุอิน สถานที่ตั้งของพระใหญ่ไดบุตซึ พระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในเมืองคามาคุระเมืองเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดถูกทำลายลงด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ทำให้เหลือแต่องค์พระใหญ่ตั้งอยู่ โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่

528560

สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวก็คือ ร้านขายของที่ระลึกในวัด ที่มีของฝากสุดแปลกให้นักท่องเที่ยวซื้อติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากพระใหญ่ไดบุตซึ ตุ๊กตาพระใหญ่ ขนมรูปพระใหญ่ รวมถึงพวงกุญแจพระใหญ่ไดบุตซึ ซึ่งชาวเน็ตคนไทยที่เคยไปเยี่ยมชมพระใหญ่ไดบุตซึ ก็ออกมาแชร์ขนมรูปใบหน้าพระใหญ่ เปรียบเทียกับขนมอาลัวพระเครื่องที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส