ดวงจันทร์ สุวรรณี ยอมรับ! น้อยใจ เป็นถึงศิลปินมีเพลงดังแต่คนจำหน้าไม่ได้

30 เม.ย. 64

เป็นหนึ่งในนักร้องที่เสียงดีและประสบความสำเร็จในความฝันอีกคนก็ว่าได้ สำหรับราชินีลูกทุ่งแดนใต้ ดวงจันทร์ สุวรรณี ที่มีเพลงดังมากมาย อาทิ น้ำตาโนราห์ , โชว์เบอร์มา เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เล่าย้อนอดีตก่อนที่จะมายืนอยู่ ณ จุดนี้คือ ตัวเองเริ่มจากการเป็นช่างเสริมสวยแต่เพราะโชคดีและที่มีทำให้เข้ามาในวงการเพลงได้เพราะสองนักร้องคนดัง แต่ถึงจะมีเพลงดังมากมายแต่ ดวงจันทร์ สุวรรณี ได้เปิดใจว่ารู้สึกน้อยใจเพราะคนจำหน้าไม่ได้ ถึงขั้นท้ออยากเลิกร้องเพลง!

- "เก้า จิรายุ" เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ตั้งใจทำวง "Bad Baboon"เพราะเป็นวงในฝัน

ถาม ย้อนกลับไปตอนนั้นก่อนที่เราจะมาเป็นนักร้อง เริ่มต้นจากอะไรมาก่อน
ดวงจันทร์ : จริงๆเป็นช่างเสริมสวยค่ะ คือ แม่อยากให้ลูกผู้หญิงเรียนช่างเสริมสวยกับเย็บผ้า แล้วช่วงนั้นคือ คุณพ่อเสียพอดี แล้วคือแม่เราก็เป็นแม่ค้าขายขนมท่านเลยคิดแล้วว่าคงจะส่งเสียให้ลูกเรียนปริญญาคงไม่ไหวท่านเลยคิดว่าเรียนแต่พอมีพื้นฐาน และสามารถเอามาเป็นอาชีพได้ก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งเราก็ชอบเรื่องสวยๆงามๆ ก็เลยเรียนเป็นช่างเสริมสวยดีกว่า แต่พอเปิดร้านได้ 6 เดือน แล้วพี่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียชีวิต แล้วทีพี่นักจัดรายการ 2 ท่าน แล้วได้ยินจากภรรยาของเขาว่าช่างเสริมสวยร้านนี้ร้องเพลงเป็น (ที่เราร้องเพลงได้คงเป็นเพราะว่าได้ซึมซับมาจากแม่)

ถาม ที่เขารู้ก็เพราะว่าเวลาที่เราไดร์ผมไปก็ร้องเพลงไปด้วย ?? จนดังทำให้คนรู้จักเลย ??
ดวงจันทร์ : ใช่ค่ะ เพราะว่าในจังหวัดพัทลุง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงต่างๆงานบวช งานแต่ง งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทุกคนจะเรียกพี่ไปร้องเพลงตลอด แล้วช่วงที่พี่ผึ้ง เสียใครประกวดร้องเพลง ดวงใจ หรือ ส้มตำ ถ้าเข้ารอบอาจจะได้อัดแผ่นนะ บันทึกแผ่นเสียงเราก็รู้สึกว่าเราน่าจะร้องเพลงได้นะ แล้วก็สามี ภรรยาที่เป็นดีเจเขาก็บอกเราว่าบองบันทึกเสียงลงเทปมาให้เขาหน่อยได้ไหม เดี๋ยวเขาจะส่งเขาไปประกวดที่ กรุงเทพฯดู ซึ่งพอเขาส่งไปเราก็เข้ารอบ 30 คนจากทั่วประเทศ แต่ด้วยความที่เข้าไป 30 คนแต่เราไม่ได้ตามผลเลยจนเพื่อนโทรมาบอกเราว่าเราเข้ารอบ 30 คนนะ (แต่ครั้งนั้นเราเสียโอกาสไปนะคะ) แต่พี่สามี ภรรยา คู่นี้ที่เขาส่งเสียงเราเข้าประกวดเขาก็ยอมลงทุนให้เราบันทึกเสียง เพื่อเปิดลงในวิทยุทางภาคใต้ เพื่อถ้าใครได้ยินเสียงอาจจะมีงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อที่เราอาจจะมีรายได้เข้ามานิดนึง ซึ่งตอนนั้นโชคดีมาก พี่ยิ่งยง ไปทัวร์คอนเสิร์ตสายใต้ ซึ่งพี่ดีเจสองท่านนี้สนิทกับ พี่ยิ่งยง พี่เขาก็บอกฝากเราว่าพี่มีนักร้องเสียงดีอยู่คนหนึ่งนะ ร้องเพลงใช้ได้พี่อยากจะฝากเป็นนักร้องในวงได้ไหม แล้วก็โชคดี พี่ยิ่งยง เขาบอกว่าร้องเพลงแก้ผมไหมร้องเพลงแก้ พี่ยิ่งยง คนจะสนใจเร็วขึ้น ก็เลยได้มีโอกาสไปร้องเพลงแก้ พี่ยิ่งยง คือ ขอเพียงแค่มอง ค่ะตอนนั้น

ถาม แล้วหลังจากนั้นเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
ดวงจันทร์ : หลังจากนั้นพอ พี่ยิ่งยง กลับกรุงเทพฯ ก็เป็นความโชคดีที่เราจะได้เข้าวงการอีก พี่เอกชัย ศรีวิชัย ก็ไปคอนเสิร์ตสายใต้อีกเปิดวิทยุค่ะแล้วพี่เอก ก็ได้ยกหูไปหาดีเจท่านนี้ ก็ถามว่ารู้จักเราไหม เราเป็นใคร เพราะพี่เอกชัย ชอบแก้วเสียงของเราซึ่ง พี่เอกชัย ก็บอกว่ากับพี่ดีเจว่าถึงเรายังจะร้องไม่เก่ง แต่เขารู้สึกว่าเขาจะฝึกน้องคนนี้ได้แล้วก็โชคดีของเราคือ พี่ดีเจ ท่านนี้พาพี่เอกชัย มาเจอตัวของเราที่ร้านเสริมสวย ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเราคือคนที่โชคดีคนหนึ่งเลยเพราะว่าเราได้รับโอกาสที่ง่ายกว่าคนอื่น คือได้เจอ พี่ยิ่งยง แล้วก็ได้มาเจอพี่เอกชัย อีก พอหลังจากนั้นเราก็ได้มาเป็นนักร้องในวงแล้วก็พอดีอีกที่ พี่เอกชัย ดังเพลงหมากัดพอดีเลยในปี 40 แล้วเจ้าของบริษัทบอกว่า เอก พี่อยากได้นักร้องผู้หญิงร้องแก้ พี่เอกชัย แกก็เลือกนักร้องผู้หญิง 7 คน แต่บังเอิญเขาร้องเพลงฉ่อย ไม่ได้แล้วก็เป็นความโชคดีของเรา (เพราะเราแอบซ้อมอยู่หลายรอบมาก) จนพี่เอก เขาก็บอกเราว่าร้องเพลงนี้ให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม ก็อัดเสียงเราแล้วก็ส่งไปให้บริษัทฟังเผื่อเขาจะเลือกเรา ซึ่งทางบริษัทก็ตอบกลับมาว่าเลือกเราร้องแก้ หมากัด แล้วพอเขามาเจอตัวเราเขาไม่โอเคเพราะว่าเราอ้วนมาก (แต่พี่เอก เขาก็คอนเฟิร์มให้เรา) ว่าให้ทางบริษัทเชื่อในตัวของเราว่าเรามากับดวงจริงๆถ้าเกิดว่ายอดเทปผม 1 ล้านในวันนั้นแล้วถ้าเกิดถ้า 1 เดือนถ้าเทปวางไปถ้ายอดของเด็กคนนี้น้อยกว่า 3 แสนผมยอมลาออกจากบริษัท เป็นความโชคดีของเรามากๆๆเพราะพี่เอกชัย เอาตัวเองเป็นประกันเลย ต้องขอบคุณพี่เขามากๆเลยค่ะ แล้วพอเทปวางสรุปไม่ทันถึง 2 อาทิตย์เลยยอดเทปวาง 5 แสนเลยค่ะ

ถาม ชีวิตก็เปลี่ยนไปตามทางจนเราได้เข้าสู่วงการอย่างเต็มตัว
ดวงจันทร์ : ช่วงแรกคนรู้จักในนามนักร้องหญิงที่ร้องแก้เพลงพี่เอกชัย ก่อนในเพลงหมากัด เราร้องเพลงแก้ชื่อเพลง หมาไม่กัด แล้วพอหลังจากนั้นก็มีงานไปทัวร์คอนเสิร์ตกับพี่เอกเรื่อยๆจนต่างๆคนต่างหมดสัญญากับบริษัท แล้วพี่เอกขัย ก็ทำวง หญิงก็มีวงดนตรีอีกวง แล้ววันหนึ่ง ที่มีข่าวในทีวีผู้จัดการโดนยิงตายหลังเวทีพอหลังจากที่ผู้จัดการเราโดนยิงตายทุกสิ่งทุกอย่างของเราคือหยุดเลยแล้วหายไปจากวงการเพลงเลย เพราะเรากลัวเวทีไปเลยเพราะว่าเราได้ยิงเสียงปืนวันนั้น ก็เลยได้เห็นผู้จัดการล้มทำให้เราไม่อยากร้องเพลงอีกแล้ว แล้วพอวันหนึ่งได้รับการติดต่อจาก แกรมมี่โกลด์ ค่ะ ว่ามาร่วมร้องเพลงกับแกรมมี่โกลด์ไหมเราก็ตัดสินใจอยู่หลายเดือนมาก ก็ได้เข้าไปคุยแต่ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญานะคะ เพราะว่าเรายังตกใจอยู่ก็เลยให้เราหาน้ำตาไปเรื่อยๆก่อนแต่ยังไม่ได้ขึ้นเวทีนะคะ เราก็หาเพงร้องจนครบ 9 เพลง จนที่ใต้เขารับ น้ำตาโนราห์ ทั้งแต่แรกที่ได้ฟังอยู่แล้ว เพลง น้ำตาโนราห์ ติดก่อนแล้วพอกระแสเริ่มมา ยอดเทปเริ่มเข้าแกรมมี่แล้ว แต่เพลงที่ 10 ยังไม่มาแล้วพี่ตี่ ก็เลยบอกว่า หญิง พี่มองว่าครูสลา มีบารมีมากแต่งเพลงพี่ไมค์ น้องต่าย พี่นาง ก็ดัง อยากให้ หญิง มีเพลงของครูสลา สักเพลงเราก็รู้สึกว่าเป็นบุญมากค่ะ พี่ตี่ เพราะในชีวิตหนึ่งเราก็อยากมีเพลงที่ครูสลา แต่งให้สักเพลง ก็ได้เพลง โชว์เบอร์มา และก็จริงๆค่ะ เพลงนี้ระยะเวลาแค่ไม่ถึงเดือนที่เพลงออกไปพลิกชีวิตของเราทุกอย่าง จากที่มีเงินในบัญชีไม่ถึงพันแล้วชีวิตเราแย่สุดๆก็มีงานเข้ามาเยอะมากมาย

ถาม ถึงมีเพลงดังใจดึมากมาย แต่ก็แอบน้อยใจไหมที่คนจำหน้าเราไม่ได้
ดวงจันทร์ : เพราะว่าเรามีงานเยอะแถวภาคใต้ แล้วทำให้เราเสียโอกาสไปภาคเหนือ ภาคอีสาน ในขณะที่เขาติดต่อมาแล้วที่สำคัญที่เสียใจมากที่สุดก็คือว่ารายการทีวีที่ติดต่อเรามาเยอะมากแต่เราไม่ได้มาออกเพราะว่างานโชว์ตอนนั้นคือเยอะมาก เพราะงานโชว์มีตั้งแต่ห้าโมงเย็นไปเลย เรากลัวว่าเราบินไปกลับคือยังไงก็ไม่ทันที่เราจะมางานตัดรายการทีวีออกไปหมดเลย เราก็เลยต้องตัดรายการทีวีออกไปหมดเลย จนถึงวันนี้ คือ คนรู้จักเพลงทั่วประเทศแต่คนไม่รู้จักเรา เพราะว่าเราไม่ได้ออกสื่อเลย เลยทำให้ไม่มีใครรู้จัก จะรู้จักเราแค่ขื่อกับเพลง
ดวงจันทร์ : ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เคยพูดกับตัวเองนะคะว่า สิ่งที่เราน้อยใจบ้างทีเราอาจจะให้เป็นความรู้สึกที่ดีว่าเปิดไปช่องไหนก็มีแต่เด็กเอาเพลงของเราไปประกวด ไม่มีใครรู้จักหน้าเราไม่เป็นไร แต่มันคือที่สุดในชีวิตแล้วที่มีคนเอาเพลงของเราไปร้อง แต่เราก็อยากจะเลิกร้องเพลงแล้ว (ร้องไห้)

ถาม อยากจริงๆหรือแค่น้อยใจ
ดวงจันทร์ : น้อยใจด้วยค่ะ ที่คนจำหน้าเราไม่ได้ แต่ก็ดีใจด้วยที่เพลงเราเป็นตำนานไปแล้ว ทุกคนยังคิดถึง ทุกคนยังพูดถึง ที่ภูมิใจทุกวันนี้ ก็ภูมิใจเรื่องนี้แหละค่ะ แต่ว่าเวลาที่เราเจอพี่ๆที่เรารู้จักเขาก็ถามเราว่าเราหายไปไหน แต่จริงๆแล้วเราไม่เคยหายไปไหนเลยเรายังคงร้องเพลงปกติ แต่เราไม่รู้ว่าเราต้องติดต่อ หรือ มีช่องทางไหนที่ทำให้เรามาออกทีสีคได้ โชคดีที่ผู้ใหญ่ยังคงเมตตาอยู่บ้างนานๆได้ออกทีวีสักที

ถาม วันนี้มาอยู่ที่รายการ ต้มยำอมรินทร์ แล้ว อยากบอกอะไรกับแฟนๆทั้งประเทศบ้าง
ดวงจันทร์ : ก็อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณที่ติดตามผลงานของ หญิง มาตลอด ที่ฟังเพลงและให้กำลังใจ หญิง ขอบคุณ พี่เอกชัย พี่ยิ่งยง ให้โอกาสหญิง ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน และขอบคุณน้องๆที่เอาเพลงของหญิง ไปประกวด ให้หญิงมีกำลังใจขึ้นที่จะอยู่ต่อในวงการได้ค่ะ

ถาม เป็นคนที่สู้ คือ สู้กว่าจะเข้ามาเป็นนักร้อง และตอนนี้ยัง ทำกระเป๋าขายอีก
ดวงจันทร์ : ต้องบอกว่ากระเป๋าตอนนี้เป็นอาชีพหลักไปแล้วค่ะ เพราะว่าร้องเพลงไม่ได้มาปีกว่าแล้ว ตั้งแต่โควิดมา เพราะด้วยความที่เรามีฝีมือในงานปักอยู่บ้าง เราก็เลยคิดว่าเราได้สนับสนุน ภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยสั่งกระเป๋ามาดีกว่าแล้วเอามาปักเป็นลายในแบบของเรา สามารถสั่งซื้อกันได้ที่ ในเพจ กระเป๋ากระจูด by ดวงจันทร์

- เปิดชีวิต "ปีเตอร์ โฟดิฟาย" ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ กว่าจะดัง!! ชีวิตผ่านมรสุมหนัก
- "ติ๊ก กลิ่นสี" เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ อย่าเรียกตนว่า "หมอดู"

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส