จากกรณีวันที่ 4 พ.ค. 64 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิต บ้านโพนงาม หมู่ 3 ซอย 5 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าครึ่งปูนครึ่งไม้หน้าบ้านพบศพ นางบังอร มีทิราด อายุ 47 ปี ชาวลาว สภาพศพนอนหงายสวมกางเกงขายาวสีม่วง สวมเสื้อแขนสั้นสีขาว บริเวณกลางหลังถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้ริมรั้ว พบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 25 ซม.
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายสมบูรณ์ เจาะจง อายุ 52 ปี แฟนของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถสามล้อเครื่องสีแดง หลบหนีลัดเลาะไปทางทะลุด้านหน้ามหาวิทยาลัยนครพนม เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเพื่อเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดี
วันที่ 5 พ.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดป่าบ้านโพนงาม ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางบังอร นางสาวบุญสงค์ เสนารัตน์ อายุ 28 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. นายสมบูรณ์ได้ขับรถสามล้อเครื่องเข้ามาที่หน้าบ้าน และมีอาการเหมือนคนเมา แล้วตะโกนเรียกให้นางบังอร ผู้ตาย ซึ่งเป็นแม่ของตนให้เข้าไปคุยด้วย แต่นางบังอรไม่ยอมคุยด้วย
ตนเลยพยายามบอกว่ารอให้สร่างเมาก่อน เพราะมาในสภาพนี้ทำให้แม่กลัว แต่นายสมบูรณ์ไม่ยอมฟัง และจะเข้ามาหานางบังอรให้ได้ ตนเลยบอกว่าถ้าเข้ามาในบ้าน ตนจะแจ้งความ
จากนั้นเขาขอให้ตนเรียกนางบังอรออกมา อยากจะคุยแค่ 2-3 คำว่านางบังอรจะเอาอย่างไรต่อ ถ้านางบังอรบอกว่าขอให้จบ นายสมบูรณ์ก็จะยอม ด้วยเหตุนี้นางบังอรจึงยอมออกมาคุย และทันทีที่ออกมานายสมบูรณ์ได้มีการฉุดดึงนางบังอรพยายามจะพาขึ้นรถ พวกตนเลยเข้ามาห้าม นายสมบูรณ์เลยเดินกลับไปที่รถ ตนเกรงว่า ถ้ายังอยู่ในบ้านกันต่อ นายสมบูรณ์คงจะมาอาละวาดทำร้ายข้าวของเป็นแน่ เลยตัดสินใจเดินขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้าน เพื่อที่จะออกไปข้างนอกกัน
แต่ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถ นายสมบูรณ์ได้หยิบมีดและปรี่เข้ามาจะแทงนางบังอร แต่ตนกับป้าของผู้ตาย และตนเดินมาบังไว้ จึงยอมถอยออก ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ทุกคนก้าวขึ้นรถเก๋ง สอดมือเข้ามาแทง 3 ครั้ง แต่โดนแค่ครั้งเดียว และโดนเข้าที่บริเวณกลางหลังของแม่ ก่อนจะขับรถสามล้อหนีไป ขณะที่ขับรถหนีได้ตะโกนบอกชาวบ้าน
ขณะนี้ ยังไม่ได้เบาะแสว่า อยู่ที่ไหน และทราบเพียงว่าหลังจากที่หลบหนีได้นำรถจักรยานไปขายให้ชาวบ้าน ตนมองว่า นายสมบูรณ์น่าจะวางแผนมาแล้ว เพราะก่อนเกิดเหตุได้โทรมาป้าของผู้ตายว่าจะเข้ามาที่บ้าน อีกทั้งก่อนเกิดเรื่อง นายสมบูรณ์ยังบอกกับนางบังอรว่า "จะตายก็ตายไปด้วยกัน" และนายสมบูรณ์ยังพูดทำนองว่า "คุกไม่ได้มีไว้ขังหมา" แม่เลยตอบกลับ "โลงก็ไม่ได้มีไว้ใส่หมา" จากนั้นก็โดนแทงทันที ส่วนสาเหตุ คิดว่าน่าจะหึงหวงแม่ของต ช่วงหลังมานี้นางบังอรพยายามตีตัวออกห่าง เพราะนายสมบูรณ์มักจะชวนทะเลาะกันตลอด ซึ่งเมื่อประมาณ 1 เดือนครึ่งตนได้มาเช่าบ้านหลังนี้ เพื่อให้นางบังอรจะได้หนีนายสมบูรณ์
สำหรับบ้านหลังนี้เคยมีประวัติคนผูกคอตาย แต่ตนมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริเวณริมรั้วบ้าน เป็นจุดที่เคยมีคนผูกคอตายตรงต้นมะม่วง อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 2 เมตรเช่นกัน ปัจจุบันนี้ไม่มีต้นมะม่วงแล้ว และเป็นพื้นดินธรรมดา
นางเทพอำพร แก้วบัวระภา อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ปกติตนอยู่กรุงเทพฯ แต่เพิ่งจะกลับมา เพราะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เจ้าของบ้านซึ่งเป็นสามีเก่าของตนที่เลิกกันไปประมาณ 20 กว่าปี กระทั่งสามีเก่าของตนเลิกกับภรรยาใหม่ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ และอยู่เพียงคนเดียวทำให้สามีเก่าของตนรู้สึกเหงา
โดยสามีเก่าของตนเคยกล่าวกับตนอยู่หลายครั้งว้า “จะผูกคอตายนะ” แต่ไม่มีใครคิดว่าจะทำจริง จนมาผูกคอตายที่ต้นมะม่วง ตนเลยให้คนมาถอนต้นมะม่วงทิ้ง ก่อนจะทำพิธีสูดถอนตามประเพณี หลังจากนั้น ตนก็ปล่อยบ้านหลังนี้ให้คนอื่นเช่าต่อ และไม่เคยมีใครเจออะไรแปลก ๆ มาก่อน ซึ่งคนปัจจุบันที่เช่าอยู่เป็นผู้เช่ารายที่ 5-6 แล้ว โดยผู้เช่ารายนี้ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว
กระทั่งมาเกิดเรื่องในครั้งนี้คนเฒ่าคนแก่เลยพูดว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ แต่ตนมองว่าไม่ใช่ เพราะถอนต้นไม้ทิ้งแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตนคงจะไม่ให้ใครเช่าบ้านแล้ว และอาจจะรื้อถอนบ้านหลังนี้ทิ้ง เพราะตนรู้สึกลำบากใจ เนื่องจากครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ต้องทำบุญให้คนที่มาตายอยู่ในบ้าน
ด้านนายอาวุธ เจาะจง อายุ 75 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ตนเห็นนายสมบูรณ์ คือเมื่อประมาณวันที่ 1-2 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ขับสามล้อผ่านหน้าบ้าน และมากับนางบังอรแต่ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกัน โดยเวลาที่นายสมบูรณ์กลับมาที่บ้าน นายสมบูรณ์มักจะมากับแฟน แต่ตนไม่เคยคุยกับแฟนของนายสมบูรณ์ และนายสมบูรณ์ไม่เคยมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ส่วนใหญ่จะมานั่งกินข้าวด้วยกันมากกว่า หลังเกิดเรื่อ นายสมศักดิ์ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา และตนไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนตัวไม่รู้จะไปตามอย่างไร
ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน แต่เป็นคนใจร้อน ชอบพูดจาเสียงดังใส่คนอื่น อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอให้นายสมบูรณ์ออกมามอบตัว และหลังจากนี้ ถ้ามีคนพาไปที่งานศพของผู้ตาย ตนก็จะไปร่วมงาน