อู๋ ธรรพ์ณธร เปิดตัวตนที่แท้จริง เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ ขัดลุคนักร้องเพลงร็อค !

7 พ.ค. 64

อู๋ ธรรพ์ณธร ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เผยตัวตนจริงๆ เป็นเด็กเรียบร้อย ทำขนมไทย และล่าสุดกับการเล่นกายกรรมด้วยห่วงยักษ์ แตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่เป็นนักร้องเพลงร็อคสุดๆ พร้อมลั่นปีนี้วิวาห์แน่กับแฟนสาวที่อายุห่างกันถึง 16 ปี

s__71508727 

ถาม ต้องย้อนกลับไปถามตอนเด็กๆ พี่อู๋เป็นคนที่เรียบร้อยมาก

อู๋ ธรรพ์ณธร : ด้วยความที่คุณพ่อรับราชการด้วยมั้งครับ แล้วคุณย่าเป็นคนไทยโบราณแบบแท้ๆ ผมโตขึ้นมาบนเรือนไทยโบราณ ตื่นเช้ามาต้องทำหมากให้คุณย่า แต่เราไม่ถึงขนาดที่คลานเข่าหรือนุ่งโจงกระเบนนะครับ แล้วก็ฝึกทำขนมไทย แต่ถามว่าตอนนี้ยังทำได้ไหม บางอย่างพอทำได้ครับ ตอนเด็กๆ จะเรียบร้อยมาก เพราะถ้าไม่เรียบร้อยจะโดนตี เมื่อก่อนไม่มีการมานั่งคุยมายด์เซตอะไรแบบตอนนี้ ตีอย่างเดียว


ถาม เห็นว่าตอนแรกไม่มีความคิดว่าจะเป็นนักร้องเลย

อู๋ ธรรพ์ณธร : ใช่ครับ เพราะตอนที่ไปเรียนที่ออสเตรเลีย ผมไปเรียนด้านตกแต่ง พอเรียนจบกลับมา อยากประกอบอาชีพที่เป็นความฝันของเราตอนเด็กๆ คือเราอยากเป็นดีไซน์เนอร์ ออกแบบตกแต่งบ้าน แต่มีเพื่อนมาชวนว่าออกอัลบั้มก่อนสักอัลบั้มไหม เพราะก่อนหน้าที่ผมจะไปเรียน ผมมีอัลบั้มออกไปแล้วครับชื่ออัลบั้ม เจ ที คัท แล้วพอออกอัลบั้มนี้เสร็จ เราก็ไปเรียนต่อ


ถาม แปลว่าพี่อู๋ค้นพบความสามารถในการร้องเพลงของเราอยู่แล้ว

อู๋ ธรรพ์ณธร : ก็ต้องขอบคุณพี่ไก่ สุธี แสงเสรีชน เพราะตอนนั้นมีโอกาสได้เข้าไปทำละครเวทีอยู่แล้ว ทำเรื่องของฝ่ายฉากบ้าง แล้วพี่ไก่ก็ชวนไปร้องเพลงละครเวทีก่อน แล้วก็ชวนออกอัลบั้มก่อน


ถาม ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าเราจะมาเอาดีทางด้านร้องเพลงเลย

อู๋ ธรรพ์ณธร : ใช่ครับ แต่เรามีความสุขกับการร้องเพลงมาก เพราะว่าเพลงสามารถสื่อสารอะไรออกมาได้หลายๆ อย่างมากกว่าการเขียนรูป หรือการเล่นละครปกติ เพราะการร้องเพลงคือมันต้องใช้อินเนอร์ทั้งหมด


ถาม ซึ่งตอนนั้นพอหลังจากเรียนจบ ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นนักร้อง เพราะอยากไปทำงานบริษัท

อู๋ ธรรพ์ณธร : ใช่ครับ พอเราเรียนจบ กลับมาเราได้ทำงานหนึ่ง ไปช่วยเพื่อนตกแต่งภายในโรงแรมที่เยาวราชครับ พอกลับมาก็มีพี่คนหนึ่งบอกเราว่าลองไปร้องเพลงดู เขาก็บอกเราว่าร้องสนุกๆ ไม่อะไรหรอก เราก็ไป ซึ่งตอนนั้นที่ไปคุยคือได้คุยกับอาร์เอสครับ พอคุยก็ได้ตกลงทำสัญญากัน ก็ได้ทำเพลงทำอัลบั้มออกมา หัวใจกระดาษ พอทำอัลบั้มนี้เสร็จ เราก็คิดว่าเดี๋ยวเรากลับมาทำงานละ ซึ่งหลายคนจะมองว่าเพลงนี้มันดังมาก แต่ผมรู้สึกว่ามันคือความสำเร็จของงานของเร าอีกด้านหนึ่งคือการร้องเพลง เพราะเราคิดว่าเพลงเราตอนนี้มันก็ไม่ได้ดังแล้วมันก็เหมือนเดิม แต่ว่าความตั้งใจของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้องเพลง หรือเรื่องการดีไซน์ฯ ผมเต็มที่หมด

s__71508726

ถาม แล้วพอเพลงดังเรื่องการรับงาน เขาก็ตั้งใจทำงานนะ แต่พอรับงานแล้ว 2-3 วันต้องหยุด เพราะว่าการร้องเพลงต้องใช้เสียงสูง

อู๋ ธรรพ์ณธร : ที่ต้องรับงานแล้วต้องหยุดพัก เพราะว่าเราร้องไม่ไหว เพราะการร้องเพลงเสียงสูงมันเป็นสไตล์ของเรามาตลอดที่เราเลือกที่จะร้องคีย์แบบนี้ เพราะเราร้องเสียงต่ำไม่ค่อยได้ เสียงมันจะเหินๆ ตลอดเวลา


ถาม เพลงของพี่อู๋ดังมาก ทุกคนต้องเอามาเล่น เอามาร้องคาราโอเกะ ต้องมีเพลงของเขา แต่เชื่อไหมเพลงดังขนาดนี้ คนจำพี่อู๋ สลับกับพี่อี๊ด วงฟลาย

อู๋ ธรรพ์ณธร : ใช่ครับ เพราะยิ่งมาตอนหลังเรามาสกินเฮดด้วย เลยเหมือนไปกันใหญ่ แล้วอีกคนที่คนว่าเหมือนเราคือพี่กบ แท็กซี่ เวลาที่เราไปงานกับพี่กบ คนก็จะทักไม่ถูกเลย ส่วนใหญ่ก็จะทักพี่ครับ พี่ชาวนากับงูเห่า ใช่ไหมครับ เราก็บอกว่าใช่ครับๆ เขาจะได้ไม่เขิน


ถาม แต่สิ่งหนึ่งเลยที่หลายๆ คนไม่รู้ว่าร็อกเกอร์เข้มๆ คนนี้ทำคือกายกรรมห่วง

อู๋ ธรรพ์ณธร : เป็นแอเรียล อาโคแบตครับ กีฬาประเภทนี้เราอยากเล่นมาก เพราะว่ามันท้าทาย มันต้องใช้แรงเยอะด้วย เพราะว่าแฟนของเราเล่น เราเลยอยากเล่นตาม เพราะว่าเราติดเขาด้วย


ถาม พี่อู๋ เป็นคนที่ติดแฟนมาก จนแฟนบอกว่าไปทำอย่างอื่นบ้างก็ได้

อู๋ ธรรพ์ณธร : ใช่ๆ เขาน่าจะรำคาญเรา (หัวเราะ) เพราะด้วยช่วงโควิดที่ผ่านมาเราว่างมาก เขาก็เลยบอกว่าให้เราไปทำอย่างอื่นบ้างเถอะ ซึ่งที่เราตัวติดเขาเพราะว่าเราเปิดโรงเรียนสอนด้วยกัน ตัวเลยติดกันตลอดเวลา ตอนนี้เรามีเวลาให้เขา เราเลยให้เต็มที่ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะมีเวลาให้เขาขนาดนี้หรือเปล่า เพราะว่าบางทีอนาคตเราอาจจะมีงาน แล้วเราต้องแยกกันไปทำ แต่ตอนนี้มีเวลา เราก็เลยให้เขาเต็มที่ แต่ถ้าถามว่าใครติดใครมากกว่ากัน เราติดเขามากกว่าครับ

s__71508730

ถาม ซึ่งเห็นว่ากำลังจะมีข่าวดี

อู๋ ธรรพ์ณธร : จะมีงานแต่งงานครับ แต่ว่าปีนี้คิดว่าน่าจะทำให้เป็นพิธีที่ถูกต้องไปก่อน เดี๋ยวงานปาร์ตี้ มีทีหลังก็ได้


ถาม แต่งงานแล้วมีแพลนจะมีลูกเลยไหม

อู๋ ธรรพ์ณธร : น่าจะยังครับ เพราะว่าแฟนมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก เขาไปผ่าตัดมา เลยเหลือมดลูกอยู่ 1 ข้าง แต่เรารู้สึกว่าตอนนี้เรามีลูกอยู่หลายคนอยู่แล้วที่โรงเรียน แล้วเด็กๆ ที่โรงเรียนก็น่ารัก เราก็มีความสุขแล้วตรงนั้น อยู่กันสองคนตายายไปก่อน ตอนนี้เราก็แฮปปี้กันมากๆ อยู่แล้วครับ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส