โควิดเชียงใหม่ วันที่ 10 พ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 25 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,894 ราย ในจำนวนนี้ รักษาหายแล้ว 3,132 ราย คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 751 ราย คิดเป็นร้อยละ20 และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่11 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้นแยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย(สีเขียว)562ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 117ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 47 รายและอาการหนัก (สีแดง) 20 ราย
สำหรับการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงหรือผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน เมื่อวานนี้ (8พฤษภาคม2564) จากทุกหน่วยตรวจ 866 ราย จำนวนที่ตรวจพบน้อยลง แต่พบผลบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ4.16 โดยสัดส่วนการตรวจพบเชื้อสูงสุดยังอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอมากถึงร้อยละ 9.26 รองลงมาเป็นโรงพยาบาลเอกชนร้อยละ 8.63 และหน่วยตรวจศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ร้อยละ 6.55 เมื่อพิจารณาด้านความเสี่ยงพบว่าการสัมผัสภายในครอบครัวและการสัมผัสจากในชุมชนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการสัมผัสในที่ทำงานและนำเข้าจากต่างจังหวัดลดน้อยลง ส่วนการสัมผัสในสถานบันเทิงขณะนี้เป็น 0 เนื่องจากยังคงมีมาตรการในเรื่องของการปิดสถานบันเทิงอยู่ ขณะที่การตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงวันนี้ได้ทำการตรวจคัดกรองกลุ่มพนักงานดับเพลิงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งจะกักตัวครบ 14 วันในวันพรุ่งนี้ส่วนผลการตรวจจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป
ไม่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อกลุ่มเดิม (คลัสเตอร์) ที่อำเภอดอยสะเก็ด มีการชี้แจงเรื่องการจัดงานเลี้ยงวันเกิด พบว่าเป็นเพียงงานเลี้ยงเล็กๆ ในครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้ไม่ควรจะมีการจัดงานใดๆ ขึ้นโดยเฉพาะมีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงยิ่งต้องงดกิจกรรมทุกประการ และในวันนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้มีมติให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ในการตรวจคัดกรองเชิงรุกพนักงานขับรถทัวร์และพนักงานขับรถส่งของทุกบริษัท เพื่อเป็นการป้องกันเฝ้าระวังต่อไป
ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้ออีกกลุ่มที่อำเภอแม่วาง วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 รายเป็นการระบาดภายในครอบครัว แต่มีพื้นที่ในการระบาดเพิ่มขึ้น 4 แห่งคือตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง ตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ และจังหวัดลำพูน ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณที่พบผู้ติดเชื้อให้เฝ้าระวังตนเองสังเกตอาการหากมีอาการของโรคสามารถติดต่อปรึกษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดงดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่างและเชื่อว่าผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงและเป็นศูนย์ในเร็ววัน
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19รายใหม่อีก2 รายว่า รายแรกเป็นชายไทย อายุ 80 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคไตวายเรื้อรัง โดยปัจจัยของการติดเชื้อเกิดจากการติดเชื้อภายในครอบครัว มีอาการไข้ไอหายใจเหนื่อยตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ต่อมาวันที่ 27 เมษายน ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงดาว มีอาการหายใจหอบเหนื่อยรุนแรง แพทย์จึงได้ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ
จากนั้นได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตรวจพบจากภาพถ่ายรังสีว่ามีภาวะปอดอักเสบ แพทย์จึงได้เริ่มให้ยาต้านไวรัสและยาต้านแบคทีเรียทันที ต่อมามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง จึงได้เปลี่ยนยาปฏิชีวนะใหม่เป็นยาที่ครอบคลุมเชื้อได้มากขึ้น ในวันที่ 6 พฤษภาคมผู้ป่วยมีอาการทรุดลง มีการติดเชื้อในกระแสโลหิตและมีภาวะเลือดเป็นกรด จึงได้ให้สารน้ำทดแทนเพิ่มเติมและให้ยากระตุ้นความดันโลหิตและในวันที่ 7 พฤษภาคม อาการผู้ป่วยรุนแรงมากขึ้นระดับความรู้สึกตัวลดลงและความดันโลหิตต่ำมาก แพทย์จึงได้เพิ่มยากระตุ้นความดันโลหิตจนถึงจำนวนสูงสุดที่จะเพิ่มได้แล้วแต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยาที่ให้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นหญิงไทยอายุ 67 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง โดยปัจจัยของการติดเชื้อเกิดจาการติดเชื้อภายในครอบครัวอีกเช่นกัน ซึ่งในวันที่ 22 เมษายน ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดแล้วพบว่ามีผลเป็นบวกจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามและส่งเข้าโรงพยาบาลสันทราย จากนั้นมีอาการไอหายใจเหนื่อยจึงส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แรกรับมีอาการหายใจเร็ว เริ่มยาต้านไวรัสชนิดฉีดยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบของปอดในทันที รวมถึงได้ทำการฟอกเลือดเพื่อขับของเสียที่ส่งผลให้มีการอักเสบของปอดออกจากร่างกายรวมด้วย
วันที่ 6 พฤษภาคม ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงหายใจหอบออกซิเจนต่ำลงอย่างมาก จึงได้ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและต่อเครื่องช่วยหายใจเพื่อประคับประคองอาการทางปอด
และในวันที่ 7 พฤษภาคม ผู้ป่วยเริ่มไม่รู้สึกตัวมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งคาดว่าเกิดจากเชื้อไวรัสหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแพทย์ได้ทำให้สารน้ำยากระตุ้นความดันโลหิตและยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและท้ายที่สุดคลำชีพจรผู้ป่วยไม่ได้ แพทย์ผู้รักษาได้ทำการการปั๊มหัวใจใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจเป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
โดยขณะนี้พบว่าแม้จำนวนผู้ป่วยใหม่จะลด แต่ยังคงมีผู้ป่วยหนักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์ซึ่งทางคณะแพทย์ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อรักษาทุกชีวิตไว้ให้ได้
นาย กนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อของจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนมากเกิดจากการสัมผัสการติดเชื้อในครอบครัว และในชุมชนซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่และกฎหมายมีการลักลอบเล่นการพนัน มีการรวมกลุ่มคนถือเป็นการเพิ่มการสัมผัสที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้มีมาตรการเข้มงวดที่จะดำเนินการจับกุมและกวดขันผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย
โดยเมื่อวานนี้กลุ่มงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับทางสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จับกุมโต๊ะพนันบอลในพื้นที่ซึ่งระหว่างการตรวจค้นพบมีคนเดินเข้าออกสถานที่ดังกล่าวจำนวนมาก
ขณะเดียวกันฝ่ายปกครองอำเภอสันทราย ร่วมกับทางสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ จับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันตู้สล็อต และตู้เกมหน้าสถานบริการแห่งหนึ่ง โดยพบการรวมกลุ่มคนเช่นกันถือว่าทั้งสองจุดเป็นจุดที่มีความเสี่ยง ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล โดยเฉพาะผู้นำท้องที่ท้องถิ่นต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา มิให้มีการฝ่าฝืนและมีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างเด็ดขาด
Advertisement