คนกรุงน้ำตาคลอ มาเซ็นทรัลลาดพร้าวรอฉีดวัคซีนโควิดเก้อ สับสนไม่รู้ต้องลงทะเบียน “หมอพร้อม” (คลิป)

12 พ.ค. 64

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสนั่น อังอุบลกุลประธานหอการค้าไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร

648349

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ร่วมมือกับสาธารณสุข มหาดไทย หอการค้าอุตสาหกรรม ทั้งหมดขับเคลื่อนไปในทางเดียวกัน ให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติ ถือเป็นความร่วมมือในการกระจายวัคซีนของภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มี 14 แห่งและจะขยายเป็น 25 แห่ง ภายในวันนี้และจะมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อลดความแออัด ยอมรับว่าการจัดหาวัคซีนไม่ง่าย แต่ไทยมีวัคซีนมากที่สุดในอาเซียน และจะพยายามปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทั้งหมดให้ได้ภายในเดือนมิ.ย.64 ขอให้เชื่อมั่นว่าวัคซีนของไทยมีความปลอดภัย

โดยรัฐบาลจะดูแลคนไทย รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานภายในประเทศไทย ตั้งแต่แรงงานต่างด้าว นักธุรกิจ ไปถึงคณะทูต เพราะถือว่ามาช่วยสร้างเศรษฐกิจ พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตื่นกลัว บางทีรับฟังข่าวสารหลากหลายช่องหลายทาง แต่รัฐบาลมีความมุ่งหมายชัดเจนในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุกคนอย่างรวดเร็วและครบถ้วน

titled491257

ทั้งนี้รัฐบาลใช้มาตรการช่วยเหลือประชาชนลงไป แต่ไม่มากนัก อย่างน้อยก็ประทังช่วงนี้ไปก่อน เนื่องจากมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด ร้านค้า ร้านอาหารต้องดูแล ศบค. และ กทม. จะต้องดูแล พร้อมขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง จะให้รัฐบาลคิดยิบย่อยก็ไม่ไหว ต้องช่วยกัน ตนห่วงใยคนทำงาน คนเดินทางบ่อย ๆ แม้กระทั่งภาคธุรกิจต้องดูแลเขาด้วย ไม่ใช่คนรวยได้สิทธิ์ฉีดก่อน ตนเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย วันนี้รัฐบาลยินดีขอบคุณและพร้อมที่จะร่วมมือกับหน่วยงานให้ฉีดเร็วขึ้น เนื่องจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไปด้วย แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการแพร่ระบาดในครอบครัว

ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดในต่างประเทศ ขณะนี้ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข รับทราบ มีการควบคุมและคงตามด่านชายแดน เข้าออกเครื่องบิน เมื่อเข้ามาเเล้วพบว่าติดเชื้อก็ต้องนำตัวมารักษา ไม่ว่าจะเชื้ออะไรก็แล้วแต่ หลายคนบอกสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังไม่ดีมาก แต่ตนก็มองว่าดีในระดับหนึ่ง และต้องช่วยกันทำงานแข่งกับเวลา อย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการแก้ปัญหาได้ยาก ตนขอร้อง

355070475864

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้รวบอำนาจ ยังทำงานเป็นทีม และต้องฟังแพทย์ เพราะนายกฯ ไม่ได้จบหมอ แต่สามารถบริหารงานได้ โดยผ่านรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ขออย่ารังเกียจซึ่งกันและกัน เราคือคนไทยด้วยกันทั้งหมด ต้องต่อสู้กับโควิด-19 ไปด้วยกัน เพื่อชาติและประชาชนทุกหมู่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่รังเกียจทั้งสิ้น ไม่แบ่งแยกใคร ส่วนสื่อต้องช่วยกันดู ข่าวที่ไม่ใช่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ ก็อย่าไปขยาย ไม่เช่นนั้นก็ไม่จบ คนจะกลัวไม่กล้ามาฉีดวัคซีน

649940

ทั้งนี้จุดบริการ 14 แห่ง ทั่ว กทม. ประกอบด้วยดังต่อไปนี้
1.เซ็นทรัลลาดพร้าว ร่วมกับ รพ.รามาธิบดี
2.เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับ รพ.วชิรพยาบาล
3.ไอคอนสยาม ร่วมกับ รพ.ศิริราช
4.True Digital Park ร่วมมือกับ รพ.ศิริราช

768524

5.สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมมือกับ รพ.จุฬาลงกรณ์
6.SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์
7.เดอะมอลล์บางกะปิ ร่วมกับ รพ.นพรัตน์ราชธานี
8.เดอะมอลล์บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม คณะแพทยศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์

132009

9.ธัญญาพาร์ค ความร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก
10.เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
11.โรบินสันลาดกระบัง ร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
12.โลตัส มีนบุรี ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก

165258

13.บิ๊กซีบางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
14.PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก

โดยขณะนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และบุคลากร ซึ่งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพฯ หอการค้าไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ หากเปิดสถานบริการครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้วันละ 30,000-50,000 คน ซึ่งทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือนเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

944257

บรรยากาศตอลอดทั้งวัน ที่เซนทรัลลาดพร้าว ซึ่ง กทม. เเละหอการค้า เปิดให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลเป็นวันเเรก ยังคงมีเจ้าหน้าที่และประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ทยอยเดินทางเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งวันมีผู้ลงชื่อไว้จำนวน 626 คน

เเต่ขณะเดียวกัน พบว่ายังมีประชาชนที่ไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ เเละยังไม่มีชื่อฉีดวัคซีนในวันนี้ ได้เดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เเต่ก็ไม่ได้รับการฉีด ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มอาชีพเเท็กซี่ พ่อค้าเเม่ค้า รวมถึงผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว

710153

นางอนงค์รัตน สายวัฒนาสุข อายุ 52 ปี มาพร้อมกับหลานชายวัย 10 ขวบ กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนนั่งรถเมล์มาจากย่านรามคำเเหง หลังจากทราบข่าวจากสื่อโซเชียลฯ ว่า จะมีการฉีดให้กับบุคคลทั่วไปที่มีความเสี่ยง ซึ่งตนเป็นโรคมะเร็งเต้านม คิดว่าเข้าข่ายโรคประจำตัว 7 โรค ที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนโดยนำบัตรประชาชนมาติดต่อ เเต่ปรากฏว่าได้รับการปฏิเสธเพราะไม่มีชื่อ จึงรู้สึกผิดหวังมาก เพราะเดินทางมาไกล อยากฉีดจริง ๆ เเต่ไม่ได้ฉีด โดยเจ้าหน้าที่ได้เเนะนำว่าให้ไปติดต่อศูนย์ฉีดเดอะมอลล์บางกะปิ ในวันที่ 14 พ.ค.64 ตนก็เกิดความกังวลว่าจะไม่ได้ฉีดอีก

811738

เช่นเดียวกับ นายวรรณ สุวรรณเนตร อายุ 41 ปี คนขับรถเเท็กซี่ บอกว่า ตนฟังข่าวจากวิทยุว่าอาชีพเสี่ยง เช่น คนขับรถสาธารณะ รวมถึงเเท็กซี่ ให้เดินเข้ามาฉีดได้ ตนจึงเกิดความเข้าใจผิด รีบเดินทางมารอตั้งเเต่เวลา 06.00 น. เเต่เมื่อเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ กลับได้รับการปฏิเสธ เเจ้งว่าไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย ซึ่งตนมีอาชีพขับเเท็กซี่ ในเเต่ละวันต้องรับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ตนมองว่าตัวเองมีความเสี่ยงสูง วันนี้ก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ฉีด ดังนั้นจึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้มีความชัดเจนกว่านี้ เพราะเชื่อว่ามีคนอีกมากที่ยังเข้าใจผิดเช่นตน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส