อีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่มีธุรกิจส่วนตัวประเภทร้านอาหาร นักแสดงหนุ่ม "เพชร - กรุณพล เทียนสุวรรณ" โดยเจ้าตัวมีร้านคาเฟ่ On a Cloud cafe และยังมีร้านอาหาร บ้านจิตประภัสสร อีกด้วย
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่คาเฟ่ของหนุ่มเพชร เพื่อสอบถามสถานการณ์ของทางร้าน "เพชร กรุณพล" ถึงกับโอดโอยบอกว่า ทุกวันนี้เปิดร้านก็เหมือนไม่เปิด เพราะว่าคนก็กลัวไม่ค่อยเข้ามาใช้บริการกัน แถมร้านยังได้นั่งแค่ 25% เรียกว่าน้อยมากสำหรับพื้นที่ในร้าน ทำให้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย
ถามว่าเปิดเหมือนไม่เปิด ทำไมไม่ปิดร้านไปเลย เพราะตนคิดว่าเปิดร้านก็ยังจะพอมีรายได้บ้าง ถึงแม้จะลดลงมามากถึง 80% จากวันละหลักหมื่นเหลือแค่ 2,000 บาท บางวันก็ขายแทบไม่ได้ แต่ถ้าปิดไปเลย รายจ่ายก็ยังเท่าเดิม แต่รายได้ไม่มีเลย ถามว่าทำไมไม่เข้าร่วมในแอปต่าง ๆ ในการส่งแบบเดลิเวอรี่ บอกตามตรงเลยว่าสู้ค่า GP ไม่ไหว ทางแอปหัก 30% แล้วกำไรของทางร้านก็ไม่ได้มาก พอโดนหักแล้วก็แทบไม่เหลืออะไรเลย ตอนนี้ก็เลยขายออนไลน์เป็นหลัก แล้วส่งไปรษณีย์ ซึ่งก็พอช่วยเรื่องรายรับได้บ้าง จากขาดทุนเยอะก็ขาดทุนน้อยลง
สำหรับพนักงานที่ร้านคาเฟ่มีทั้งหมด 11 คน แต่ที่อีกร้านหนึ่งประมาณ 100 คน ทำให้ตนต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทั้ง 2 ที่ตกแล้วเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท ตนจึงได้แต่เฝ้ารอให้สถานการณ์กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว นอกจากนี้ หากถามถึงเรื่องการฉีดวัคซีน ตนรู้สึกว่าจองในแอปฯ ก็เด้งตลอด จึงรู้สึกงงเหมือนกัน เปิดให้ลงแต่ลงไม่ได้ อย่างคุณพ่อคุณแม่ตนก็เพิ่งจะลงได้ ได้คิวเดือนก.ค.64 แล้วพวกเขาอายุมากแล้ว 70 กับ 80 ปี ระหว่างนี้ถ้าเกิดติดขัดขึ้นมาจะทำอย่างไร ฉีดแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมาภาครัฐเยียวยาแค่ 4 แสนบาท ชีวิตพ่อแม่ตนมีแค่ 4 แสนบาทเหรอ
อีกอย่างตอนนี้ตนมีความมั่นใจในวัคซีนต่ำมาก แต่เอาจริง ๆ ฉีดไว้ก็ดีกว่า เพราะถ้าติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมาก็ไม่เสียชีวิต แต่คำที่ว่า “สร้างภูมิคุ้มกันหมู่” ตนว่าไม่ใช่ เพราะวัคซีนยี่ห้อ “ซิโนแวค” ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันได้ขนาดนั้น ฉีดแล้วก็ยังติดเชื้อได้ แต่ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นป้องกันได้มากกว่าถึง 80-90% เท่ากับโอกาสติดเชื้อจะต่ำกว่ามาก
นอกจากนี้ หากใครมีโรคประจำตัว แล้วกลัวมีผลข้างเคียง ตนแนะนำว่าให้รอตัวอื่นก่อนดีกว่า ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บตัว ดูแลตัวเองให้ดี ส่วนตัวไม่กลัวผลข้างเคียง เพราะไม่ได้มีโรคประจำตัวแล้วก็ยังอายุไม่มาก จากการฟังรัฐบาลพูด ตนก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยน่าเชื่อใจ อีกอย่างการเยียวยาก็ยังไม่น่าสนใจให้คนไปฉีดวัคซีน เพราะหากเสียชีวิตขึ้นมาเงินเยียวยาแค่ 4 แสนบาท หากรัฐบาลให้เงินหลักล้านคนจะกล้าไปฉีดมากกว่า ตนมีประโยคหนึ่งจะฝากถึงภาครัฐ “ถ้าไร้ความสามารถ ให้เอกชนทำก็ได้ครับ หรือร่วมกับเอกชนก็ได้ ถ้าจะทำให้ได้วัคซีนเร็วที่สุด เยอะที่สุด และดีที่สุด”
