ทรุดเลย! ตำรวจรับจับใครไม่ได้เลยทีมฆ่าเสี่ยโกศล อนาถญาติดำน้ำค้นศพกันเอง (คลิป)

จากกรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วย ต่อมาตำรวจออกหมายจับ 8 รายแล้วนั้น

ญาตินายโกศลออกค้นหาร่างในทะเล ตามเบาะแสที่ชาวบ้านถ่ายภาพติดลักษณะคล้ายผ้าใบผูกติดกับเสาปูน ออกเรือประมงตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 64 เวลา 08.00 น. และกลับเข้าถึงฝั่งวันที่ 20 พ.ค. 64 เมื่อเวลา 16.00 น. แต่ไม่พบหลักฐานใด ๆ

ล่าสุด วันที่ 20 พ.ค. 64 ครอบครัวของเสี่ยโกศล ได้รวมตัวกันเพื่อออกปฏิบัติการค้นหาเบาะแสและค้นหาร่าง ทั้งทางบกบริเวณบ่อทราบนายสุรัตน์ และในคลองพุมเรียง แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม

วันที่ 20 พ.ค. 64 นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของเสี่ยโกศล เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนเองได้มีการไลฟ์เฟซบุ๊กการค้น กรณีอุปสรรคและการค้นหาเบาะแสร่างของสามี มีการพูดถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าก่อนหน้านี้มีการแถลงข่าว แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่ามีการจับกุมคนร้าย 4 คน ในกลุ่มที่มีการถูกออกหมายจับ 8 คน แต่ในวันนี้กลับได้รับข้อมูลใหม่ว่าไม่สามารถที่จะจับกุมใครได้ ทำให้ส่วนตัวรู้สึกกลัวเรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติและไม่ได้ระวังตัว ประกอบกับมีการค้นหาหลักฐานและเบาะแสของสามีในพื้นที่ต่าง ๆ แต่สุดท้ายคนร้ายก็ยังลอยนวล ส่วนตัวยังตั้งข้อสังเกตว่าการออกหมายจับในคดีนี้มีความคืบหน้า แต่ทำไมคนร้ายถึงยังลอยนวล

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ครอบครัวได้รับภาพนิ่งจากชาวบ้านในที่ออกหาปลาใกล้กับหมู่เกาะอ่างทอง สามารถลากติดวัตถุปริศนาคล้ายเสาปูนพันติดคล้ายผ้าใบ แต่ทำการตัดสมอเรือแล้วถ่ายรูปบอกพิกัด ก่อนส่งเรือ 2 ลำออกไปค้นหาตามพิกัดดังกล่าว หลังจากที่มีการออกเรือไป 1 คืน 2 วันก็ไม่เจอเบาะแส ตนเองไม่รู้ว่ากลุ่มชาวบ้านดังกล่าวมีความเชื่อมโยงหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายสุรัตน์อย่างไร เพราะก็เหมือนเหตุการณ์ทุกครั้งที่พยายามสับขาหลอก ในวันนี้ครอบครัวยังได้มีการค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม ค้นหาทั้งทางบกและในคลอง แต่สุดท้ายการค้นหาก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ไม่มีพยานหลักฐานที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ในคลอง จึงได้มีการยุติการค้นหา

ทั้งนี้ ตลอดการค้นหาทั้งทางบกและในน้ำ สังเกตว่ามีกลุ่มชาวบ้านซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ฝ่ายใครเข้ามาสังเกตการณ์ มีการถ่ายคลิปและถ่ายภาพเอาไว้ เมื่อเข้าไปสอบถามก็ไปเบี่ยงว่ามาหาปลาในคลอง กนกริมฝั่ง ตนเองไม่รู้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นมีวัตถุประสงค์อะไร แต่เชื่อว่าไม่หวังดี

ส่วนกรณีในวันนี้ บริเวณพื้นที่บ่อทรายของนายสุรัตน์ มีร่องรอยของการเผาไหม้หญ้าแห้ง ตนเองจำได้ว่าช่วงประมาณ 4 วันก่อน เดินทางเข้าไปพื้นที่ดังกล่าว ยังคงเป็นปกติ มีเพียงหลุมทรายที่ถูกขุด ยืนยันว่าในวันดังกล่าวไม่มีรอยไหม้ แต่ครั้งนี้เดินทางกลับมาอีกครั้งพบว่ามีรอยดำเป็นตอตะโก ต้นไม้ก็เปลี่ยนสีเป็นน้ำตาล มองว่าต้องมีใครบางคนที่เข้ามาลักลอบเผา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวปกติชาวบ้านจะใช้เป็นทางผ่านและทำมาหากินทั่วไป ไม่มีใครเผา ตนตั้งข้อสังเกตอีกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการปิดล้อมพื้นที่ ปล่อยให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาได้ ไม่มีการตรวจสอบและปิดกั้นแนวเขตเหมือนคดีอื่น ๆ

ชุดที่ลงงมค้นหาในคลองพุมเรียง เปิดเผยว่า จุดที่ตนเองได้รับมอบหมายให้ลงงมค้นหา เป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการนำศพของเสี่ยโกศลลงเรือบริเวณจุดดังกล่าว จึงได้ย้อนกลับมาทำการค้นหา ลงงมบริเวณหน้าผิวดิน แต่ยังไม่พบร่องรอยหรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

มีเพียงก้อนหินเล็กน้อยกระจายอยู่ ส่วนหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว รวมถึงระดับน้ำทะเลที่หนุนขึ้นสูงและลดลงในแต่ละวัน อาจทำให้มีการพัดพาเอาอุปกรณ์เหล่านั้นลงทะเลไป ก็มีความเป็นไปได้

เบื้องต้นยังไม่พบเสาปูนหรือร่างของเสี่ยโกศล คาดการณ์ว่าเสาปูนรวมถึงร่างของเสี่ยโกศลจะต้องถูกนำขึ้นเรือไปโยนทิ้งกลางทะเล เพราะถ้าหากโยนทิ้งในละแวกนี้ก็ต้องมีการพบเห็นบ้าง อีกทั้งระดับความลึกของน้ำอยู่ที่ประมาณ 8 เมตร ถ้าหากมีการถ่วงด้วยเสาปูน ยืนยันว่าร่างของเสี่ยโกศลก็จะไม่ลอยขึ้นพ้นน้ำได้อย่างแน่นอน เพราะน้ำหนักของเสาปูนค่อนข้างหนัก

นายแหลม (นามสมมติ) กลุ่มที่ออกค้นหาร่างของเสี่ยโกศลในทะเล ตามเบาะแสที่ชาวบ้านถ่ายภาพติดลักษณะคล้ายผ้าใบผูกติดกับเสาปูน ออกเรือประมงตั้งแต่เมื่อวานนี้ เวลา 08.00 น. และกลับเข้าถึงฝั่งวันนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้พี่กลับและลักษณะต้องสงสัยคล้ายกับผ้าใบผูกติดกับเสาปูนอยู่ใกล้กับหมู่เกาะอ่างทอง จึงได้ออกเรือไปพร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่และเครือญาติ 11 คน

เมื่อไปถึงพบว่าได้มีการค้นหาได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะเนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าฤดูมรสุม ระหว่างที่มีการค้นหาทางทะเลนั้นมีฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ทำให้การค้นหาต้องยุติลง ได้มีการพักค้างคืนในเรือ

จากนั้นได้มีการค้นหาต่อในเช้าวันนี้ จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่าย ค้นหาตามพิกัดที่ได้รับมาจากเรือประมง แต่ก็ไม่เจอร่องรอยหรือเบาะแสผ้าใบพันด้วยเสาปูน พบเพียวอวนเก่า มีหอยติดอยู่จำนวนมาก ลักษณะติดเป็นก้อนขนาดยาว 2 ก้อน ห่างกัน 10 เมตร แต่ก็ไม่เจอลักษณะที่จะระบุว่าเป็นร่างหรือศพของเสี่ยโกศล ส่วนตัวไม่รู้ว่าชาวบ้านเจออวนเก่า แล้วมองว่าเป็นศพหรือแท่งปูนหรือไม่ ทำให้คิดหรือจินตนาการไปเอง การค้นหาตลอด 2 วัน มีการค้นหาในรัศมีประมาณ 500 เมตร ความลึก 30 เมตร ตามพิกัดที่ถูกระบุเอาไว้ ซึ่งยืนยันว่าไม่เจอเบาะแส

การออกค้นหาครั้งนี้ ก็ไม่ต่างจากทุกครั้งที่เคยออกค้นหา ไม่รู้วัตถุประสงค์ของชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวว่าเห็นจริงหรือไม่ หรือไม่ต่างจากพยานที่เคยไปชี้จุดกลางทะเล เพราะทุกครั้งก็คือการสับขาหลอกให้เกิดความสับสน ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ส่วนที่เรือลำดังกล่าวให้ข้อมูลว่ามีการตัดสมอเรือแล้วทิ้งทุ่นเอาไว้ เพื่อยืนยันพิกัดของสิ่งปริศนาคล้ายเสาปูนแต่ไม่พบสมอเรือหรือทุ่น ยืนยันว่าไม่ได้ไปผิดจุด เพราะเป็นจุดเดียวกันตามที่มีการปักหมุดพิกัดเอาไว้