เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รัชฎาวรรณ ผึ้งประสพพร อายุ 29 ปี ชาวต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ข้อความพร้อมภาพลงในเฟชบุ๊กระบุว่า "มาได้ทุกวัน" ซึ่งเป็นภาพช้างป่า มีงา ตัวใหญ่ บุกเข้ามาพังกำแพงห้องครัว โผล่หน้าและงวงเข้ามารื้อค้นหาอาหารเป็นเวลาหลายนาที
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตว์แพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายวิชาญ อุ่นรั้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา จึงเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สภาพกำแพงห้องครัวพังเป็นช่องขนาดใหญ่ ข้าวของในห้องครัวถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ส่วนเศษซากกำแพง เจ้าของบ้านได้ช่วยกันเก็บออกมากองไว้ที่ด้านนอกแล้ว
น.ส.รัชฎาวรรณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่ตนนอนหลับอยู่กับครอบครัว ก็ได้ยินเสียงของหล่นมาจากในครัว จึงคาดว่าน่าจะเป็นช้างป่าบุกเข้ามาในครัว จึงหยิบโทรศัพท์มือถือค่อย ๆ ออกไปถ่ายคลิป เห็นช้างป่าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าพลายบุญมี ช้างป่าเจ้าประจำที่ชอบออกมาหากินตามบ้านเรือนชาวบ้าน กำลังมุดหัวเข้ามารื้อค้นหาอาหารด้วยการใช้งวงล้วงเข้าไปในตู้สักพักใหญ่ จากนั้นเจ้าพลายบุญช่วยก็เดินหายไป
โดยเมื่อเดือนพ.ค.64 ที่ผ่านมา พลายบุญมีก็ได้บุกเข้ามาทางห้องครัว พังกำแพงเสียหายเป็นช่องโหว่ แจ้งหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไปแล้ว เรื่องก็เงียบหายไปยังไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา เดือนนี้มาโดนช้างป่าตัวเดิมบุกเข้ามาอีกรอบ เสียหายมากกว่าเก่า ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุครั้งแรก ก็พยายามเก็บอาหาร ไม่ให้มีกลิ่น เหลือเพียงพวกขวดเครื่องปรุง น้ำปลา ซอสต่าง ๆ ตนจึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางป้องกัน และแก้ปัญหาเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อน เพราะชาวบ้านประสบกับปัญหานี้มานาน
นายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตว์แพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบปัญหาช้างป่าเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่า 1 ใน 2 ตัว เจ้าประจำที่ออกมาหากินในพื้นที่ชุมชน คือ พลายบุญช่วย และพลายบุญมี จุดที่ช้างป่าเข้ามาพังทำลาย เป็นบริเวณห้องครัว ซึ่งมีอาหาร และวัตถุดิบในการปรุงอาหารต่าง ๆ ซึ่งดึงดูดให้ช้างเข้ามา เนื่องจากได้กลิ่นอาหาร ช้างเป็นสัตว์กินพืชจึงต้องการแร่ธาตุจากความเค็ม ที่จำเป็นต่อร่างกาย จึงออกหาแร่ธาตุมาทดแทน จะเห็นได้ว่าช้างป่ามีพฤติกรรมที่ชอบกิน เกลือ น้ำปลา และผงปรุงรส เป็นต้น โชคดีที่เจ้าของบ้านไม่ตกใจ มีสติ และรักษาระยะห่างในการถ่ายภาพ ทำให้สามารถเก็บข้อมูล และพฤติกรรมของช้างได้อย่างละเอียด
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฉก.จงอางศึก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ก่อนที่จะเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนผู้ได้รับความเสียหายโดยเร็วที่สุด สำหรับในระยะเร่งด่วนวันนี้ จะต้องระดมเจ้าหน้าที่ช่วยเก็บล้างทำความสะอาด เก็บขยะโดยรอบ เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นดึงดูดให้ช้างป่ากลับมาอีก รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในหมู่บ้านด้วย