ครูเต้ย อภิวัฒน์ หลานกตัญญู สร้างบ้านให้ปู่ย่า มีห้องอัดไว้ทำงานเบื้องหลัง

มาแรงแซงโค้งยอดวิวพุ่งแรงไม่มีแผ่วทะลุกว่าพันล้านวิว สำหรับ ครูเต้ย อภิวัฒน์ ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์  พร้อมกับนำเพลงใหม่ล่าสุด เป็นจั่งได๋อีนาง มาสร้างสีสันให้ได้อมยิ้มกับเพลงเพราะๆ กันแล้ว งานนี้ ครูเต้ย ยังได้มาเล่าย้อนถึงที่มาของตัวเองที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ พร้อมยังเผยถึงได้รับโดนผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด งานคอนเสิร์ตหายเกลี้ยง แถมยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสน

ถาม จริงๆ เป็นนักร้องก่อนหรือว่าเป็นคุณครูก่อน

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ผมเรียนไปด้วยแล้วก็เล่นดนตรีกลางคืนไปด้วยครับ ทำเพลงกับวงแต่ก็ยังไม่ได้มีงานจ้างในนามศิลปินนักร้องครับ แล้วพอผมได้มาเป็นครู ก็ค่อยได้มีงานจ้างในนามที่เราเป็นศิลปินครับ แต่ที่ตอนเป็นนักร้อง ผมเรียนอยู่ งานที่จ้างผมคือร้านเหล้า เป็นผับเท่านั้นครับ แต่พอมาเป็นครู ก็มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาแบบจริงจังครับ


ถาม แล้วก่อนหน้านั้นใช้ชื่ออะไร ก่อนที่จะมาเป็นครูเต้ย

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ใช้ชื่อวงว่า ไนท์ติ้งเกล ครับ ซึ่งตอนนั้นที่ทำกับวงจะเป็นเพลงสตริง (เพลงไทยสากล) ครับ แต่มาใช้ชื่อ ครูเต้ย อภิวัฒน์ ก็คือหลังจากที่ได้มาเป็นครูแล้ว ผมก็เปลี่ยนมาทำเพลงแนวสตริงอีสานครับ ที่เป็นแนวเพลงของผมทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่ลูกทุ่งทีเดียวครับ แต่จะเป็นแนวอีสานครับ ดนตรีทุกอย่างจะเป็นแนวสตริง แต่เนื้อเพลงจะเป็นอีสานทั้งหมดครับ


ถาม แต่ที่มาโด่งดังอีกอย่างคือ ครูเต้ย ทำคลิป นักเรียนที่ไม่ส่งการบ้าน ไม่ส่งงาน คลิปนี้เลยกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังมากๆก็เลยกลายเป็นครูหล่อบอกต่อด้วยตามมาเลย

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยครับ ตอนนั้นช่วงปิดเทอมแล้ว ผมก็ตรวจข้อสอบไป แล้วรู้สึกว่าเด็กบางคนคือไม่ได้จริง แล้วบางคนงานก็ไม่ค่อยชอบส่ง ตั้งใจก็ไม่ตั้งใจ เราก็เลยพักในการตรวจข้อสอบแล้วก็หยิบกีตาร์มาลองแต่งเพลงแล้วพอแต่งเสร็จผมก็ปล่อยลงเฟสบุ๊คครับ แล้วเพจยูไลค์ที่เขากำลังดัง เลยเขาก็เอาคลิปของเราไปลง ก็เลยทำให้คนรู้จักเรา แล้วเขาก็ตามมาดูว่าผลงานเรามีอะไรบ้าง ก็เห็นว่าเราเคยร้องเพลงมาก่อน cover มาบ้าง พอเราปล่อยเพลงออกมาช่วงนั้น มันก็เลยมีกระแส ซึ่งพอปล่อยเพลงออกมา คนก็เข้าไปดูต่อหนึ่งวันสองถึงสามล้านวิวเลยครับ ซึ่งทุกเพลงผมก็จะแต่งเอง ร้องเอง และเรียบเรียงเองหมดเลยครับ


ถาม วิธีการแต่งเพลงหรือการทำงานเพลงตรงไหนที่ครูเต้ยคิดว่ายากที่สุด

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ผมว่าไม่ยากนะครับ เพราะเพลงคือสิ่งที่เราชอบ เราก็เริ่มจากการทำดนตรีก่อน แล้วก็มาลำดับถึงขั้นตอนการทำ MV


ถาม แล้วเพลงที่นำมาร้องในรายการ เป็นจั่งได๋อีนาง มีที่มาที่ไปยังไง

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : เพลงนี้ผมแต่งตอนโควิดรอบแรกเลยครับ น่าจะช่วงประมาณ มีนา เมษา ปี 63 ตอนนั้นผมอยู่บ้านแล้วก็หยิบกีตาร์มา ซึ่งการแต่งเพลงของผมอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะผมจะทำทำนองก่อน ถ้าทำนองเพราะ แล้วค่อยแต่งเนื้อ ตอนนั้นอยู่บ้าน ผมก็แต่งแล้วด้วยที่ย่าของผมเป็นหมอลำ ผมเลยอยากให้ย่าของผมร้องด้วย เลยแต่งเป็นเพลงนี้ออกมาครับ


ถาม สำหรับตัวครูเต้ย รู้สึกยังไงบ้างที่เพลงของเราที่ออกมารวมกันแล้ว ยอดวิวทะลุไปพันกว่าล้านวิว

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับที่มีคนชอบเพลงแนวเรานะครับ อย่างช่วงแรกๆ ที่ผมทำออกมา จะโดนว่าครับ อย่างคนที่ฟังเพลงลูกทุ่งจริงๆ เขาก็จะมาว่า ร้องเพลงแบบนี้เหรอ มันทำให้เสียวงการลูกทุ่ง เพราะเข้าใจว่าเราทำเพลงลูกทุ่งครับ แต่จริงๆ แล้วเราทำเพลงสตริง แต่เนื้อเพลงเราเป็นอีสานครับ ซึ่งเพลงทุกเพลงที่ผมทำคือเป็นลิขสิทธ์ของผมเองทุกอย่างเลยครับ ส่วนเพลงที่ยอดวิวสูงสุดคือเพลง ฉันยังรักเธอ ยอดวิวน่าจะประมาณสามร้อยยี่สิบกว่าล้านวิวครับ เพลงนี้จะมีส่วนผสมที่เป็นอีสานคือมี แคน มีพิณ เป็นเครื่องดนตรีที่เราผสมผสานเข้าไปด้วยครับ

ถาม ตอนนี้สอนอยู่ที่ไหน แล้วก็วิชาอะไรเอ่ย

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ผมสอนที่โรงเรียนบ้านกุดธาตุ จังหวัดขอนแก่น สอนวิชาดนตรีครับ คือก่อนที่จะมีโควิดผมสอน ป.1 ถึง ม.3 ครับ ซึ่งในโรงเรียนที่เราสอนอยู่เราก็คือครูคนหนึ่งครับ ไม่ได้มีใครมาตามกรี๊ดเรา เพราะตอนที่ผมไปบรรจุแรกๆ ผมก็ไปเป็นครูธรรมดา ไม่ได้เป็นศิลปิน เด็กๆ ก็ชิน


ถาม เกิดโควิดช่วงนี้ ครูเต้ย สอนดนตรีออนไลน์ หรือสอนแบบไหน

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : โรงเรียนที่ผมสอนจะอยู่นอกๆ เลยครับ ผลกระทบจากโควิดเลยจะไม่เยอะมากครับ ซึ่งถ้าช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ผมก็จะแจกเป็นซีทงานไปทำที่บ้านก่อนครับ


ถาม ครูเต้ยต้องใช้ความเป็นครูเต็มเวลาในการสอน แล้วก็มีงานคอนเสิร์ตที่ต้องบอกเลยว่าเยอะมากๆ วันนึงสองถึงสามงานแบบนี้ จัดสรรเวลายังไงให้ลงตัว

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : อย่างงานคอนเสิร์ต ผมก็จะรับช่วงเย็นครับ และในช่วงจันทร์ถึงพฤหัสบดี คือผมก็จะรับในโซนที่ไม่ไกลจากที่เราสอน จะรับในโซนอีสาน เพราะอย่างเราเล่นเสร็จตีหนึ่งตีสอง ก็กลับมาอาบน้ำนอนแล้วก็ตื่นไปสอนที่โรงเรียน แต่ถ้าเป็นศุกร์ เสาร์ ผมก็สามารถที่จะไปภาคเหนือ ภาคใต้ หรือมากรุงเทพฯ ได้ครับ แต่ถ้าวันปกติก็จะรับแค่ใกล้ๆ ครับ อย่างช่วงที่ก่อนจะเกิดโควิด ผมจะไม่รับงานแค่วันจันทร์ครับ เพราะว่าเป็นวันพักครับ วันหนึ่งที่ผมเคยรับสูงสุดคือ น่าจะประมาณ 5 งานครับ แต่พอรับเยอะไป งานก็จะไม่มีคุณภาพด้วยครับ เพราะว่ามันเยอะไป แล้วทำให้เราพักผ่อนน้อยมาก แล้วพอรับงานเยอะ เราร้องเยอะ ผลกระทบมันเกิดที่เสียงครับ เพราะเสียงยังไม่ได้พักเลย แล้วมันก็ใช้แบบต่อเนื่องๆ ด้วย แบบเสียงเราแหบ เราก็ต้องไปร้องนะครับ เพราะว่าเรารับงานไปแล้ว


ถาม แต่ช่วงนี้ได้พักเสียงยาวเลย เพราะว่าในช่วงโควิดพูดได้ว่าครูเต้ยคือหนึ่งคนที่สูญเสียรายได้ไปเป็นล้าน แต่หลายคนที่มองว่าเขาโกยมาเยอะแล้ว ทุกคนต้องทำความเข้าใจแบบนี้ เพราะว่าเวลาที่เขาไปโชว์ เขาไปเป็นวง มีทุกอย่างไปเป็นเซ็ต และต้องบอกว่าทุกวันนี้ ครูเต้ยก็ต้องดูแลคนที่ทำงานด้วยกัน ตอนนี้คือต้องดูแลทุกคน เดือนๆ หนึ่งค่าใช้จ่ายคือหกหลักเลยไหม

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : แสนกว่าครับ ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องดูแล แต่โชคดีของผมอย่างหนึ่ง ช่วงโควิดยังพอมีงานพรีเซนเตอร์ งานรีวิว แล้วก็ทำเพลงลงในยูทูบ เรายังมีรายได้ตรงนี้มาเลี้ยงทีมงาน แต่มันก็ไม่ได้เท่ากับตอนที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตเท่านั้นเองครับ

ถาม อีกหนึ่งเรื่องเป็นความตั้งใจของครูเต้ยที่น่ารักมากๆ เลยก็คือตอนนี้ตั้งใจที่จะทำบ้านไว้ให้คุณปู่คุณย่า

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ใช่ครับ แรกๆ เลย ผมชวนคุณปู่คุณย่ามาอยู่ด้วย ท่านก็บอกว่ามาอยู่ด้วยตลอดคงไม่ได้ ถ้ามาๆ ไปๆ พอได้ครับ เพราะว่าท่านคิดถึงไร่นาที่อุบลราชธานี จริงๆ ผมเกิดที่นั่น แล้วมาบรรจุที่ขอนแก่น เลยมาสร้างบ้านไว้ที่ ขอนแก่นครับ เพราะว่าเราทำงานที่นี่ ซึ่งบ้านที่จะทำให้คุณปู่ คุณย่าก็ที่ขอนแก่นครับ เพราะอยากให้มาอยู่ใกล้ๆ กัน


ถาม และด้วยอายุขนาดนี้ที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา อีกเหตุผลคือเอาไว้อยู่ช่วงบั้นปลายชีวิต

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : อาชีพนักร้องมันไม่ได้มั่นคงและถาวรครับ บ้านหลังนี้ที่ผมสร้างขึ้นมาก็จะมีห้องอัดอยู่ด้วยครับ ถ้าผมไม่มีงานร้องเพลงแล้ว ผมก็จะอยู่เบื้องหลังรับทำเพลง เรียบเรียง ทำดนตรี ปั้นศิลปินใหม่ๆ ขึ้นมาครับ บ้านหลังนี้จะมีครบทุกอย่างครับ


ถาม เคยกลัวไหมถ้าวันหนึ่งเราจะไม่ดัง ไม่มีกระแส

ครูเต้ย อภิวัฒน์ : ที่จริงก็มีในความคิดนะครับ แต่เพราะเราไม่เคยเอาเพลงของเรา หรือว่าคิดเอาเพลงของเราไปเปรียมเทียบกับใคร ต้องแข่งกับใคร เพราะว่าแนวเพลงแล้วแต่คนชอบ และเราก็ยังจะทำแนวเพลงของเราออกมาให้ทุกคนได้ฟังในแบบของเราครับ ผมก็ฝากผลงานเพลงด้วยนะครับ จะปล่อยผ่านทางถิ่น สตูดิโอ และฝากติดตามเฟสบุ๊ค ครูเต้ย อภิวัฒน์ และฝากหนังเรื่อง ส้มปลาน้อย ของพี่หม่ำ ด้วยนะครับ เรื่องนี้เล่นเป็นพระรองครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ