ยิ้มอยากภาคภูมิใจในความสำเร็จอีกขั้นสำหรับความฝันของ เอวา ที่ชอบและรักในเส้นทางสายบันเทิงมาตั้งแต่เด็กจนวันนี้ได้บรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งหวังไว้ แต่เส้นทางของเธอนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือ ปูด้วยพรมแดงใดๆ เพราะทุกก้าวที่ เอวา ค่อยๆก้าวเข้ามานั้นเธอได้ใช้ความสามารถที่มาพร้อมความน่ารักและความฝันของตัวเองล้วนๆจนทำให้ประสบความสำเร็จ แบบไร้เส้นสาย ต้องบอกเลยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ เอวา ได้ใช้เวลาเกือบ 10 ปีทีเดียวที่ไล่ตามฝันและคว้ามาไว้ด้วยตัวเธอเองได้สำเร็จอย่างภาคภูมิใจ
เอวา กล่าวว่า เอวา แคสมาเยอะมากตั้งแต่อายุ 14 เลยตอนแรกคือแคสเดินแบบ แล้วต่อมาก็มาแคสซีรีส์แล้วก็ละครต่างๆแต่ก็ไม่ผ่านก็ร่วมๆแล้วที่แคสมาร่วมๆก็น่าจะประมาณ 9 ปี เป็นเวลาที่ยาวนานมากถามว่าท้อไหมก็มีท้อบ้างนะคะ เพราะว่าเราเอาหน้าเราไป เราเอาตัวเราไป เราเอาใจเราไปเราตั้งใจอ่านบททุกอย่างแต่เมื่อเราไม่ผ่านเราก็จะรู้สึกว่าเราดีไม่พอหรือเปล่า เราไม่ดียังไงทำไมเขาถึงไม่เลือกเรามันปันทอนจิตใจมากๆ และอีกอย่างหนึ่งคือ ที่บ้านของ เอวา ไม่ได้สนับสนุนให้ทำงานในวงการบันเทิง เพราะว่าคุณพ่อค่อนข้างธรรมะมาก คุณพ่อกลัวว่าเราทำตรงนี้ไปจะไปเพิ่มกิเลสให้ตัวเองไหม เอวา จะอยากได้อยากมีไหม เอวา จะมีความสุขไหมที่ต้องไปแข่งขันกับคนอื่นตลอดเวลาแล้วโอเคไหมถ้าเจอคนที่ไม่จริงใจ คนที่คบเราแค่หวังผลประโยชน์ คุณพ่อ กลัวเราจะขาดความเป็นส่วนตัว
ชีวิตครอบครัว จะมีปัญหา จะบอกว่าไม่ง่ายเลยที่เราจะฝ่าด่านสำคัญคือ ครอบครัว แต่จุดเปลี่ยนของ เอวา คือ ละครเวทีที่พอครอบครัวของ เอวา มาดูวันไหนคือวันที่ทำให้เขายอมรับในสิ่งที่เราชอบ รักในสิ่งที่เราเป็น และมาจนถึงวันนี้ เอวา ต้องขอบคุณทุกคน พี่ๆสื่อทุกท่านที่ให้ความรัก ความเมตตากับ เอวา ช่วยสนับสนุนให้ เอวา ที่เดินตามความฝันของตัวสำเร็จ ถึงแม้จะใช้เวลาเยอะหน่อยแต่ระหว่างทาง เอวา ก็เก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ที่เจอมาปรับปรุง ปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองไปในทางที่ดีที่สุดค่ะ
