เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมชุดปฏิบัติการตอบโต้โควิด-19 เข้าดำเนินการเก็บร่างของหญิงวัย 44 ปี ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ภายในพื้นที่ซอยไฟโอเนีย แยก 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ส่งมอบให้สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
โดยขณะเข้าพื้นที่ พบว่าเด็กหญิง 2 คน อายุ 9 ปี และ 11 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้เฝ้าศพแม่อยู่ไม่ห่าง เจ้าหน้าที่จึงใช้ที่ตรวจโควิดด้วยตัวเอง หรือชุดตรวจแอนติเจน ตรวจให้กับเด็กทั้งคู่ ปรากฎว่าติดเชื้อโควิด-19 ทั้งพี่และน้อง
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในพื้นที่ซอยไพโอเนีย แยก 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นห้องเช่าตึกแถว โดยเด็กหญิงทั้ง 2 คนที่เป็นลูกของผู้เสียชีวิต ก็ยังคงรอความช่วยเหลืออยู่ภายในห้อง พร้อมกับเพื่อนบ้านข้างห้องที่เข้าช่วยเหลือ จึงต้องกักตัวอยู่บริเวณนี้ด้วยเช่นกัน
นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรหัสนคร 45 เล่าว่า เมื่อช่วงเช้ามูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในซอยดังกล่าว เด็กหญิงทั้ง 2 คน แจ้งตนว่า "แม่บอกว่าถ้าแม่ตายให้หนูทั้ง 2 คนไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า" ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายนิยม โจมสีลา อายุ 47 ปี เพื่อนบ้านที่เข้าช่วยเหลือ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต คือ นางอาภาภรณ์ หรือ โอ๋ อายุ 44 ปี นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตมีลูกสาว 2 คน ได้แก่ ด.ญ.สมาภรณ์ อายุ 11 ปี และด.ญ.ธัญญาภรณ์ อายุ 9 ปี ทั้งคู่ติดโควิดจากแม่
โดยปกติแล้วทั้ง 3 คนจะอาศัยอยู่ภายในห้องเช่าติดกับห้องเช่าของตน ซึ่งเท่าที่ตนทราบผู้เสียชีวิตไม่สบายมานาน 2-3 วันแล้ว กระทั่งวานนี้ (25 ก.ค.64) อาการหนักขึ้น มีการไอเสียงดัง หายใจไม่ออก มีไข้สูง ตนจึงรีบพาไปอนามัยใกล้บ้าน ก่อนถูกส่งตัวไปที่ รพ.บางพลี แต่ไม่รับรักษา ตนจึงพากลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเช่าตามเดิม
จากนั้นช่วงเวลา 02.00 น. ตนได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตร้องโอดโอย จากนั้นเวลา 06.00 น. ตนเดินออกมาดูอาการอีกครั้ง ก็พบว่านอนเสียชีวิตแล้ว โดยที่มีลูกสาวทั้ง 2 คน นอนเฝ้าสพแม่อยู่ข้าง ๆ ตนจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ และตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดทดสอบแอนติเจนให้กับเด็กทั้ง 2 คน รวมถึงตนที่เข้าช่วยเหลือ ปรากฎว่าเด็ก 2 คน รวมไปถึงตนมีผลขึ้น 2 ขีด แสดงว่าติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ตนก็รู้สึกเคลียด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็อยากให้ทางรัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือตน รวมไปถึงเด็กหญิงทั้ง 2 คนที่ต้องมาเสียผู้เป็นแม่ อีกทั้งยังติดโควิด-19 ด้วย เพราะผู้เสียชีวิตและเด็กทั้ง 2 คนก็ไม่มีญาติที่ไหน
ด.ญ.สมาภรณ์ หรือ น้องออมสิน อายุ 11 ปี และด.ญ.ธัญญาภรณ์ หรือ น้องกะปุก อายุ 9 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้แม่ของตนมีอาการปวดท้องและไอมีเลือดปนออกมา นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหัว ร่างกายไม่มีแรง กินข้าวไม่ค่อยได้มานานหลายวันแล้ว กระทั่งแม่มีอาการปวดหลังจนทนไม่ไหว ตน จึงต้องขอร้องคุณตาที่เป็นเพื่อนห้องเช่าติดกัน ให้พาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่รับรักษา จึงกลับมาที่บ้านตนก็นอนเฝ้าแม่ จากนั้นตื่นเช้าอีกวันมารู้ว่า "แม่ตายแล้ว"
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็เสียใจและทำอะไรไม่ถูก จึงอยากให้ภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือตนกับน้อง สุดท้ายนี้หากตนมีโอกาสพูดกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย ตนอยากบอกว่า "ขอให้แม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูโตแล้ว หนูจะดูแลน้อง ขอให้แม่ไปสบาย"
นางอภิรดี แตงโสภา กำนันตำบลบางโฉลง เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจเชื้อโควิด-19 พบว่าเด็กทั้ง 2 คนติดเชื้อ โดยจากเช็กสิทธิการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบางพลี โดยวันนี้จะประสานนายอำเภอบางพลี เรื่องการรักษาของเด็กให้เข้าในระบบ ส่วนผู้ที่ช่วยเหลือน้องหรืออยู่ข้างห้อง ตนบอกให้ทั้งหมดกักตัวเองและสังเกตอาการ 14 วัน โดยตอนนี้ให้ทาง อสม. ลงพื้นที่มาดูแลทั้งหมด ส่วนประเด็นแม่น้องเสียแล้วจะอยู่อย่างไร ซึ่งตอนนี้ทางญาติของน้องเข้ามาติดต่อแล้ว โดยตนให้ทางญาติไปปรึกษากันก่อนว่าจะดูแลน้องอย่างไร ถ้าทางครอบครัวไม่สามารถดูแลได้ ตนก็จะประสาน พม.เข้ามาดูแล โดยตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือนำตัวน้องทั้ง 2 คนเข้ารักษาพยาบาลตามระบบให้เร็วที่สุด
นายภินโญชัย หอมสมบัติ อายุ 61 ปี อสม.หมู่ 6 ชุมชนบางโฉลง กล่าวว่า หลังทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่ อสม. ได้ลงพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วน หลังจากที่นางอาภาภรณ์ แม่ของเด็กทั้ง 2 คนเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมชุดปฏิบัติการตอบโต้โควิด-19 ก็ได้ใช้ที่ตรวจโควิดด้วยตัวเอง ตรวจให้เด็กทั้ง 2 คน ปรากฏว่าติดเชื้อทั้งคู่
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ อสม. ได้ประสานเรื่องไปยังจังหวัด รวมไปถึงกำนันที่ดูแลรับผิดชอบในเขตพื้นที่ ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลแล้ว เบื้องต้นหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้นำถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน ส่วนในกรณีหลังจากแม่เด็กเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็ไม่มีญาติที่ไหน หลังจากนี้จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ พม.เข้าช่วยเหลือพิจารณาหาสถานที่รับเลี้ยงดูแลเด็กทั้ง 2 คนต่อไป เนื่องจากแม่ของเด็กสั่งเสียไว้ว่า "หากแม่เสียชีวิตไป ก็ให้ลูก 2 คนไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์นะ"
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเจ้าหน้าที่ อสม. ตนก็อยากฝากถึงประชาชนให้มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเวลานี้ที่สถานการณ์โควิด- 19 กำลังแพร่ระบาด ควรงดออกไปในสถานที่ที่สุ่มเสี่ยง จะได้ไม่เกิดการแพร่ระบาดติดต่อกันเพิ่มขึ้น