เปิดศึกประจำปี สำหรับฝูงวานรเมืองเก่า จ.ลพบุรี ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 64 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ป๋อง เมืองทอง" ได้เผยแพร่ภาพคลิปเหตุการณ์ช่วงประมาณ 16.00 น. บริเวณถนนรอบพระปรางค์สามยอด หน้าศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี เป็นวินาทีที่ลิงเจ้าถิ่น 2 ฝูงจำนวนนับพันตัว รวมพลยกพวกตีกันแบบดุเดือด ผู้ใช้รถใช้ถนนต่างพากันวุ่นวาย ไม่สามารถขับรถผ่านจุดดังกล่าวไปได้ ต้องบีบแตรดังลั่นสนั่น เพื่อให้ลิงทั้ง 2 ฝั่งยุติสงครามวานรครั้งนี้
วันที่ 26 ก.ค. 64 เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ สามแยกโรงแรมเมืองทอง บรรยากาศยังดูเงียบสงบ นายอิทธิพัทธ์ ตันศิริกุลผาติ หรือ ป๋อง อายุ 46 ปี อาศัยอยู่ในตึกโรงแรมเมืองทองตั้งแต่เกิด เป็นผู้ถ่ายคลิปและโพสต์วินาทีระทึก เล่าว่า ปกติลิง 2 ฝูงนี้จะตีกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว แต่จำนวนจะไม่เยอะขนาดนี้ ถือว่าครั้งแรกของปี 2564 ที่มีการรวมพลกันเป็นพันตัว ซึ่งจากหลัก ๆ แล้ว เห็นได้ชัดว่าสามารถแบ่งออกได้ 2 ฝั่งคือ
ฝั่งพระปรางค์สามยอด-ศาลพระกาฬ อาศัยอยู่ในพระปรางค์สามยอด ศาลพระกาฬ โรงหนังเก่ามาลัยรามา โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยบ้างเล็กน้อย ประมาณ 1,000 กว่าตัว มักจะหากินบริเวณริมถนนรอบพระปรางค์ฯ เพราะจะมีชาวบ้านเอาอาหารมาวางไว้ หรือมักจะกระโดดแย่งของกินจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับไปมา โดยเฉพาะช่วงที่รถติดตรงสามแยก รวมถึงจากนักท่องเที่ยวที่ซื้ออาหารมาให้ด้วย
สำหรับฝั่งพระปรางค์สามยอด ตัวที่เป็นจ่าฝูง คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นใหม่จากเมื่อปีที่แล้ว ชื่อว่า "ไอ้ดุ" อายุประมาณ 5 ปี น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม เนื่องจากจะมีบุคลิกดื้อนิ่ง วางมาดเงียบ แต่ถ้าคนเดินเข้าไปก็จะกระโจนกัดทันที รูปร่างสันทัด คล่องแคล่ว บ่าใหญ่
ส่วนอีกฝั่งคือ ฝั่งตึกหรือลิงตึก อาศัยอยู่ในตึกร้างฝั่งตรงข้ามกับพระปรางค์สามยอด คือโรงแรมเมืองทองทั้ง 11 ห้อง ฝั่งตึกถนนชโยวานิช และตลาดเทศบาลเมืองลพบุรี ประมาณ 600-700 ตัว มักจะหากินบนบริเวณถนนรอบพระปรางค์และฟุตพาทฝั่งตึกร้าง บ้านคน จากนักท่องเที่ยวที่ซื้ออาหารมาให้ หรือจากการกระโดดไปแย่งบนรถของคนที่ขับไปมา
สำหรับฝั่งตึก จ่าฝูงก็เป็นรุ่นใหม่ คนละตัวกับปีที่แล้วชื่อว่า "ไอ้มึน" อายุประมาณ 7 ปี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม เพราะลักษณะดูดื้อ ไม่กลัวคน เข้ามาขโมยของกินในบ้านแบบตีหน้ามึน มักจะดักกระโดดขึ้นรถคนที่ขับรถไปมา รูปร่างสันทัด ค่อนข้างอวบ บ่าใหญ่ แววตาดูดื้อ
นอกจากนี้จะมีลิงอยู่อีกกลุ่มหนึ่งประมาณ 20-30 ตัว ที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากเวลาหากินหรือหลับนอนจะสามารถไปได้ทั้ง 2 ฝั่ง กลุ่มนี้จะมีการเลือกฝั่งก็ต่อเมื่อตอนที่เกิดการปะทะเท่านั้น พอหลังจากนั้นก็จะกลับสู่สภาวะไร้ฝูงเหมือนเดิม
ปกติช่วงกลางวัน ทั้ง 2 ฝูงจะไม่ค่อยออกมาแสดงตัว เพราะแดดร้อน มักจะออกมาหลังจากพระอาทิตย์เริ่มตก เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นต้นไป เพราะจะมีนักท่องเที่ยวมาคอยให้อาหาร และเวลาประมาณ 17.30 น. จะมีคนในพื้นที่ขับซาเล้งเอาอาหารจำพวกเศษผัก อาทิ กะหล่ำ คะน้า จากตลาดสดเทศบาลเมืองลพบุรีมาวางไว้ให้ตรงบริเวณริมถนนรางรถไฟ หลังพระปรางค์สามยอด แล้วลิงทั้ง 2 ฝูงก็จะมากิน มักจะทะเลาะกันเพราะแย่งอาหารอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับสงครามเมื่อวานนี้นั้น สาเหตุหลักมาจากตอนประมาณช่วงบ่าย มีคนเอาอาหารเม็ดจำพวกอาหารหมา อาหารแมว ไปโปรยตรงบริเวณบันใดทางขึ้นพระปรางค์ฯ แล้วลิงฝั่งพระปรางค์ฯก็ลงมากินตามปกติ เพราะอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง แต่หลังจากนั้น "ไอ้มึน" หัวหน้าฝูงลิงฝั่งตึกและลูกน้องประมาณ 10 ตัวก็ข้ามถนนไปกินด้วย ทำให้ "ไอ้ดุ" หัวหน้าฝูงฝั่งพระปรางค์ไม่พอใจ จึงทะเลาะกันตั้งแต่จุดนั้น จนกระทั่งลูกน้องทั้ง 2 ฝั่งเห็นเหตุการณ์ก็เลยพากันมารวมเป็นฝูงใหญ่ตรงสามแยกหน้าร้านขายอะไหล่รถ แล้วเปิดศึกแย่งอาหารเม็ดกันอย่างที่เห็นในคลิป โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 8 นาที ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนที่เยอะเกินไปมันก็อาจจะเกิดผลกระทบกับชาวบ้าน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาขนย้ายลิงไปอยู่บ้านหรือสถานที่สำหรับเลี้ยงลิงหรือไม่ก็สุ่มทำหมัน เพื่อควบคุมจำนวนให้เหลือประมาณ 1,000 ตัว เพราะเชื่อว่าจำนวนนี้ลิงจะมีชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกับคนได้สบาย ต่างฝ่ายต่างไม่เดือดร้อน
ด้าน น.ส.สุภาพร ตันติวงศ์ หรือ น้อง อายุ 35 ปี ลูกเจ้าของร้านชโยวานิชะ เป็นคนที่ให้อาหารลิงฝั่งตึกเป็นประจำอยู่แล้วในช่วง 17.00-17.30 น. เพราะเป็นช่วงที่ถนนจะถูกปิด เนื่องจากมีขบวนรถไฟวิ่งผ่าน รถก็จะหยุด ไม่เกิดอันตรายกับลิงที่วิ่งไปมา บนถนนหน้าร้าน
สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานนั้น เวลาประมาณ 16.30 น. มีคนเอาอาหารมาโปรยรอบพระปรางค์ฯ และพอมาถึงจุดหน้าพระปรางค์ฯ ทำให้ลิงฝั่งตึกที่เห็นอาหารก็เกิดอยากกินด้วย เพราะฝั่งตัวเองยังไม่ได้กินอาหาร เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา 17.00-17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านชโยวานิช จะเอาอาหารมาโปรยทุกวัน ทำให้เกิดการปะทะขึ้นตามคลิป ภาพที่ตัวเองเห็นคือมันชุลมุนมาก เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอม และลิงนับพันตัวเขม่นกันอยู่สักพักแล้ว
ส่วนตัวยอมรับว่าเวลาที่เกิดเหตุปะทะกันแบบนี้ขึ้น สิ่งหนึ่งที่ตนกลัวมากก็คือลูกลิงตัวเล็ก ๆ ซึ่งจะเกาะอยู่บริเวณท้องของแม่ โดยปกติแล้วสัญชาตญาณของลิงจะไม่รู้ว่าเมื่อตัวเองโมโหจะต้องควบคุมอารมณ์และดูแลลูกที่เกาะอยู่ ทำให้บางครั้งลูกหล่นลงมาแล้วโดนอีกฝั่งกัด โดนรถชน โดนเหยียบจนตาย หรือถ้ารอดก็จะมีชาวบ้านนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ ก่อนที่จะเอามาปล่อย แล้วพอเอามาปล่อย บางทีก็ปล่อยผิดปล่อยถูก ไม่รู้ตัวไหนอยู่ฝูงไหน พอปล่อยผิดฝูง ลิงจะจำกลิ่นกันได้ เพราะฉะนั้นหากลูกลิงไปอยู่ผิดฝูงก็จะถูกกัดจนตายทันที วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือต้องยุติการตีกันของทั้ง 2 ฝั่งให้เร็วที่สุด
ส่วนด้านของคนให้อาหารลิงฝั่งพระปรางค์สามยอด-ศาลพระกาฬ นายสัญญา มั่นดี หรือ กล้า อายุ 47 ปี เป็นผู้ช่วยผู้จัดการศาลพระกาฬมา 17 ปี ปกติแล้วเจ้าตัวจะมีหน้าที่หลักคือ จัดดอกไม้ อุปกรณ์ วัตถุมงคล สำหรับให้กับคนที่จะมาสักการะศาลพระกาฬ ดูแลความสะอาดศาล บอกว่า
ปกติตนจะเอาอาหารให้ไปให้ลิงฝั่งพระปรางค์ฯช่วง 17.00-17.30 น. เวลาเดียวกับที่คนให้อาหารฝั่งตึกเอาออกมาให้ เพื่อป้องกันการแย่งอาหารกัน แต่เมื่อวานมันมีคนเอาอาหารมาให้ก่อนเวลา ก็เลยเกิดการปะทะขึ้น แต่จริงแล้วถ้าจะให้พูดถึงต้นสายปลายเหตุจริง ๆ ก็คือเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ลิงก็เลยไม่มีอาหาร เพราะก่อนหน้านี้ลิงทั้ง 2 ฝั่ง จะมีอาหารจากนักท่องเที่ยวให้กินตลอดทั้งวันจนอิ่ม
ที่เห็นว่าจ่าฝูงของทั้ง 2 ฝั่งไม่ใช่ตัวเดิมจากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว เพราะลิงจะมีการเปลี่ยนจ่าฝูงไปเรื่อย ๆ โดยจะเลือกตัวที่มีภาวะผู้นำ กล้าเสี่ยง ขู่เก่ง ดูแข็งแรง สามารถแย่งอาหารจากอีกฝั่งได้ เพราะฉะนั้นเมื่อตัวไหนทำได้ดีกว่า ฝูงลิงก็จะยกตัวนั้นเป็นจ่าฝูง ซึ่งตนก็คาดหวังว่าภายในปีนี้หน่วยงานจะสามารถแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ แล้วสถานการณ์ลิงลพบุรีจะกลับมาสู่ภาวะปกติ
