"อ.เจษฎา" เตือนอย่าตื่นสตรอว์เบอร์รี่ฝังเข็ม แค่โจ๋เล่นพิเรนทร์ - หมอแนะผ่าดู ใช้สติเคี้ยว (คลิป)

21 ก.ย. 61
จากกรณีวันที่ 17 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า ชาวออสเตรเลียกำลังหวาดกลัวอย่างหนัก หลังพบว่ามีคนร้ายซ่อนเข็มเอาไว้ในผลสตรอว์เบอร์รี่ที่วางขายในพื้นที่ 6 รัฐ ของออสเตรเลีย ซึ่งทำให้ชายคนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากถูกเข็มที่ซ่อนในสตรอว์เบอร์รี่ปักคออีกด้วย โดยด้านนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียได้ประณามการกระทำครั้งนี้ว่าเป็น “การก่ออาชญากรรมที่โหดร้าย” พร้อมทั้งสั่งการให้ สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เร่งหาตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว
สตรอว์เบอร์รี่ที่ถูกฝังเข็ม
โดยเหตุการณ์สตรอว์เบอร์รี่ฝังเข็ม ถูกพบครั้งแรกที่รัฐควีนส์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะแพร่กระจายไปยัง รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย รัฐเซาท์ออสเตรเลีย รัฐแทสเมเนีย และออสเตรเลียน แคพิทอล เทร์ริทอรี ในเขตเมืองหลวง ล่าสุด ทางรัฐควีนส์แลนด์ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับถึง 55,000 ปอนด์ หรือราว 2.3 ล้านบาท โดยรายงานล่าสุดพบว่า เป็นการเล่นของเด็กวัยรุ่นเท่านั้น ไม่ใช่การก่อการร้ายแต่อย่างใด
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม
วันที่ 20 ก.ย. 61 นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า อย่างไรก็แล้วแต่ เข็มไม่ควรที่จะไปอยู่ในผลไม้ทุกชนิด เพราะหากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย เนื่องจากเข็มเป็นของแหลม สามารถทิ่มแทงอวัยวะได้ทุกส่วน ถ้าหากโดนแทงเข้าไป อาจเกิดการเสียเลือด โลหิตจาง และรุนแรงที่สุดคือสามารถติดเชื้อในกระแสเลือดได้ นอกจากนี้ หมอกอล์ฟ ยังเล่าต่อว่า สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันน้อย เช่น คนแก่ เป็นโรคเบาหวาน โรคไต หรือมะเร็ง หากรับประทานเข้าไปแล้วเข็มตกค้างอยู่ในท้อง บุคคลกลุ่มนี้จะมีอาการรุนแรงขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันไม่ปกติ ฉะนั้น ต้องระมัดระวังอย่างมากในการรับประทานอาหาร หรือผลไม้ ต้องตรวจเช็คให้ดีก่อนทาน ส่วนเรื่องของเชื้อ HIV ตัดออกได้เลย เพราะหากเชื้อ HIV อยู่ภายนอกร่างกายจะอยู่ได้ครู่เดียวเท่านั้น ไม่สามารถอยู่ได้นานเหมือนเชื้อตัวอื่น นอกจากนี้ แนะนำให้ตรวจเช็กผลไม้ทุกชนิดก่อนทาน เคี้ยวช้า ๆ อย่างมีสติ หรือจะผ่ากลางก็ยังทำได้ เพื่อจะได้รู้ว่าในผลไม้มีสิ่งแปลกปลอมหรือไม่
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทางด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น สำหรับประเทศไทยนั้นไม่ต้องกังวลใด ๆ เกี่ยวกับการนำเข้าผลไม้จากออสเตรเลีย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในร้านค้าภายในประเทศออสเตรเลีย ไม่ได้เกิดจากฟาร์มซึ่งเป็นต้นสายการผลิต ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวผลไม้ที่นำเข้าจากออสเตรเลีย เพราะตอนนี้ในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีกรณีเดียวกันเกิดขึ้น ซึ่งตนก็หวังว่าจะไม่มี สำหรับพฤติกรรมที่มีการฝังเข็มไปในสตรอว์เบอร์รี่นั้น ตนมองว่าเป็นเพียงการแกล้งกันเล่น ไม่ใช่การดิสเครดิตกันระหว่างผู้ค้า แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของประเทศออสเตรเลียก็ได้ออกมาเตือนคนที่จะฝังเข็มไปในสตรอว์เบอร์รี่ ว่าจะทำให้เกิดผลกระทบการอุตสาหกรรมการค้าในวงกว้าง และเสียภาพลักษณ์ต่อประเทศอย่างมาก รศ.ดร.เจษฎา ยังบอกอีกว่า หากประชาชนยังกลัวก็มีวิธีป้องกัน คือการหั่นผลไม้ก่อนทานเพื่อดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในหรือไม่ ส่วนผลไม้นำเข้า ก็ควรตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนโลหะเพื่อดูว่ามีโลหะแอบแฝงอยู่ภายในผลไม้หรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ