ครอบครัวเศรษฐีติดโควิดทั้งบ้าน รอเตียงจนพ่อตายต่อหน้าต่อตา อีก 2 ชีวิตยังรอความหวัง (คลิป)

28 ก.ค. 64

กรณีกลุ่มอาสาเส้นด้าย ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีครอบครัวหนึ่งย่านลาดพร้าว ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ป่วยทั้งบ้าน กระทั่งผู้เป็นพ่อเสียชีวิตคาบ้าน ล่าสุดวันที่ 28 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มเส้นด้าย คุณธัช หรือ คุณนฤธัช สีบุญเรือง และ คุณมาร์ท หรือ คุณอภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย หนึ่งในอาสาสมัครที่รับเรื่องดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. ของวานนี้ (27 ก.ค.64) พวกตนได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวหนึ่งพักอาศัยที่พหลโยธิน 32 อยู่กัน 6 คน ติดเชื้อโควิด-19 ยกบ้าน โดยที่ 2 คนได้เข้ารับการรักษาแล้ว เหลืออีก 4 คนที่ยังคงรอการช่วยเหลือ

766949

ขณะที่ผู้เป็นพ่ออาการทรุดหนัก หลังค่าออกซิเจนลดต่ำลงเรื่อย ๆ ต่อมาในช่วงเวลา 24.00 น. ทีมอาสากลุ่มเส้นด้ายเข้าไปมอบเครื่องออกซิเจนและอุปกรณ์เบื้องต้น จากรายงานทราบว่าอาการของผู้ป่วยค่อนข้างหนัก ในช่วงเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (28 ก.ค.64) ครอบครัวได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า คุณพ่อได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. ซึ่งทางญาติก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร 

จากนั้นเวลา 13.00 น. ทีมข่าวพร้อมด้วยกู้ชีพและกลุ่มอาสาเส้นด้าย จำนวน 7 คน ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการรับศพของผู้เสียชีวิตนำไปดำเนินการตามพิธีศาสนา

127229

ทั้งนี้บ้านหลังดังกล่าวลักษณะเป็นบ้านปูน 5 ชั้น อายุประมาณ 30 ปี มีบริเวณภายในบ้านรวมแล้วเนื้อที่กว่า 1 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ติดถนนใหญ่เสนานิคม 1 รอบบ้านหลังดังกล่าวเต็มไปด้วยตึกออฟฟิศ บริษัท ตลอดจนคอนโดฯ ที่พักอาศัย

เวลา 13.20 น. เจ้าหน้าที่กู้ชีพจำนวน 5 นาย ได้เดินทางเข้าไปนำร่างของผู้เสียชีวิตที่ชั้น 2 ของบ้าน โดยมีการสวมชุด PPE อย่างปลอดภัย ตลอดจนพ่นยาฆ่าเชื้อเป็นระยะ ๆ ก่อนที่ศพของผู้เสียชีวิตที่ห่อด้วยถุงซิปล็อกจำนวน 3 ชั้น ถูกนำขึ้นรถกู้ชีพ ซึ่งเป็นภาพที่หดหู่มาก ๆ ผู้เป็นภรรยาและลูก ๆ ต่างมองด้วยสายตาอาลัย โดยที่ไม่สามารถร่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายได้

746858

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณหมวย ลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในส่วนของคนในครอบครัวมีด้วยกัน 6 คน ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ น้องชายพร้อมครอบครัว และตน ทั้งนี้จุดเริ่มต้นของการติดเชื้อโควิด-19 มาจากที่ครอบครัวของน้องชาย คุณเล็ก และ คุณแพรว ไปร่วมงานศพญาติที่จ.นครปฐม แล้วไม่ทราบว่าศพนั้นติดเชื้อโควิด-19 เพิ่งทราบตอนที่จะกลับมาแล้ว หลังจากนั้นทั้งคู่กักตัวและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที ก่อนพบว่าจะติดเชื้อในวันที่ 21 ก.ค.64 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ตนยอมรับว่าครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้โทษใคร เพราะอาการที่พ่อของตนทรุดหนักมาจากที่โรคประจำตัว และพ่อติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ยิ่งทรุดหนัก ตอนนี้ก็อยากจะให้คุณแม่ได้เตียงรักษาไว ๆ อาการเริ่มทรุดหนักแล้ว

504469

คุณตาโน๊ต อายุ 75 ปี (ผู้เสียชีวิต) เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 2-3 เดือน มีโรคประจำตัวเป็นโรคมะเร็ง ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ค.64 ทรุดช่วงเย็นวันเดียวกัน ก่อนที่จะเสียชีวิตในรุ่งเช้าวันนี้ (28 ก.ค.64)

119280

คุณยายคิม อายุ 70 ปี (ภรรยาผู้เสียชีวิต) เป็นโรคความดัน อาการตอนนี้หอบเหนื่อย กินข้าวได้ แต่กินน้อย ออกซิเจนในเลือดต่ำ เหลือ 80-90 ตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อช่วงวันที่ 25 ก.ค.64 ทราบผลช่วงเช้า ช่วงเย็นมีอาการไข้ขึ้น ยังรักษาตัวอยู่ที่บ้านรอเตียง

คุณหมวย อายุ 48 ปี (ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต) ไม่มีโรคประจำตัว อาการตอนนี้หอบ แต่ไม่มาก ทราบผลว่าติดเชื้อช่วงเช้าของวันอัที่ 27 ก.ค.64 ยังรักษาตัวที่บ้านรอเตียง

คุณเล็ก อายุ 44 ปี (น้องชายคุณหมวย ลูกคนเล็กของตาโน๊ต) ไม่ทราบอาการที่แน่ชัด รู้เพียงว่าไข้ขึ้น พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ย่านลาดพร้าว ทราบผลว่าติดเชื้อวันที่ 21 ก.ค.64 

353382

คุณแพรว อายุ 37 ปี (ภรรยาคุณเล็ก ลูกสะใภ้คนเสียชีวิต) อาการมีไข้ขึ้น รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 21 ก.ค.64 หลังจากที่เดินทางไปร่วมงานศพญาติที่ติดโควิด-19 ใน จ.นครปฐม พร้อมเข้าพักรักษาตัวทันทีในวันที่ทราบผล

น้องจิ๋ว อายุ 1 ขวบ 6 เดือน (ลูกชายของคุณเล็กและคุณแพรว) มีอาการไข้ขึ้น รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อและคุณแม่ ทราบผลว่าติดเชื้อช่วงวันที่ 24 ก.ค.64 พร้อมเข้ารักษาตัวทันที

ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ ลุงเตี้ย หรือ นายมงคล ศรีทน อายุ 52 ปี เพื่อนบ้าน พนักงานขับรถรับจ้างซึ่งมีความผูกพันกับคอบครัวดังกล่าว เนื่องจากบ้านหลังที่ลุงเตี้ยพักอาศัย เป็นที่ดินของผู้เสียชีวิตที่ให้อยู่ฟรีมานานกว่า 10 ปีแล้ว

763616

ลุงเตี้ย กล่าวยอมรับว่า ตนรู้สึกตกใจเพราะเพิ่งทราบข่าว ส่วนตัวมีความผูกพันกับครอบครัวนี้มานานกว่า 30 ปี คอยช่วยเหลือกันมาตลอด เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.64) ตนยังมีโอกาสไปเยี่ยมผู้เสียชีวิตอยู่เลย เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่สบายมานานแล้ว มีอาการของโรคประจำตัวเกี่ยวกับมะเร็ง ยอมรับว่าไม่ทราบว่าเขาติดโควิด-19 เนื่องจากคิดว่าป่วยธรรมดา 

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าโชคดีที่เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.64) ตนไม่ได้เข้าไปในบ้าน รวมไปถึงเซฟตัวเองผ่านการสวมหน้ากากอนามัย แต่เพื่อความมั่นใจตนก็จะเข้าไปตรวจโควิด-19 ในส่วนของครอบครัวของผู้เสียชีวิตค่อนข้างมีฐานะ ตนคิดว่าการเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมาจากที่โรคประจำตัวกับโควิด-19 ทำให้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส