แม่ลี ศริญญา - แก้มบุ๋ม ปรียาดา เปิดใจกว่าจะมีวันนี้เคยเสียน้ำตาเพราะถูกแม่ควบคุมชีวิตจนไม่เป็นตัวเอง
เรียกว่าขึ้นแท่นเป็นคู่แม่ลูกสุดแซ่บขวัญใจโซเชียลไปแล้ว สำหรับ คุณแม่ลี ศริญญา สิทธาไชย และ แก้มบุ๋ม ปรียาดา ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW กว่าจะมีวันนี้เคยเสียน้ำตาเพราะถูกแม่ควบคุมชีวิตจนไม่เป็นตัวเอง ไม่กล้าพูดเพราะกลัวแม่อาย พร้อมอัพเดตเรื่องแฟนหนุ่มสายเปย์จริงไหม? และแพลนแต่งงานในอนาคต
สัมผัสได้เลยว่าตัวตนของ แม่ลี เป็นคนร่าเริงสดใสแต่ของ แก้มบุ๋ม รู้สึกว่าก็มีบทบาทหน้าที่เบื้องหน้าที่ต้องเอนเตอร์เทนแต่ในชีวิตจริงส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบไหน ?
แก้มบุ๋ม : ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนเครียดง่าย เอาความเครียดออกจากชีวิตตัวเองยากมาก หนูเลยพยายามทำทุกอย่างให้มันสบาย รู้สึกว่าไม่อยากเอาความเครียดเข้าชีวิตเลยจริงๆ เพราะเอาออกจากชีวิตยากมาก ข้างนอกดูสนุกแต่บางทีหนูเป็นคนที่ซีเรียส ค่อนข้างเซนซิทีฟแต่ว่าเฉพาะบางเรื่อง อย่างเช่นแม่พ่อ ตอนเด็กๆ เราเป็นคนที่ไม่กล้าพูดว่าฉันต้องการแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้เหรอต่อปากต่อคำ (หัวเราะ)
แม่ลี : ตอนเด็กเขาเป็นคนนิ่งๆ เก็บความรู้สึกทุกอย่างหมด ด้วยความที่เขานิ่งเลยทำให้เราไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่เรารู้ มันเป็นอะไรที่ทำแล้วถึงเราจะเหนื่อยแต่บั้นปลายชีวิตนั่นคือสิ่งที่มันคืออาชีพของเขา
ภาคภูมิใจในตัวแก๋มบุ๋มไหมครับคุณแม่ ?
แก้มบุ๋ม : ภาคภูมิใจเพราะเมื่อก่อนแคสโฆษณา 100 ครั้งแก้มบุ๋มไม่ได้เลย แต่เราคิดว่าวันหนึ่งต้องเป็นของเธอนะนางร้ายป้ายแดงของแม่ แล้ววันหนึ่งก็ดีใจที่ทำสำเร็จในส่วนหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าคุณต้องเป็นที่ 1 แต่ทำยังไงก็ได้เล่นเรื่องไหนก็ได้ให้คนรู้จักคุณก็พอแล้ว หน้าที่ของคุณต้องรับผิดชอบให้ดี
สนับสนุนอย่างเต็มที่ ?
แก้มบุ๋ม : ถ้าหายใจแทนได้ก็คงทำ (หัวเราะ)
แม่ลี : ถ้าเดินแบบเองได้ก็ทำ (หัวเราะ)
มีเรื่องที่ต้องเสียน้ำตาบ้างไหม แก้มบุ๋ม ?
แก้มบุ๋ม : เยอะ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเอาปัญหาไปให้คนในบ้านได้รับรู้ว่าเรารู้สึกไม่โอเค มีความอึดอัดบ้างในสิ่งที่เราโดนตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ในชีวิต หนูเป็นคนที่ใส่รองเท้าส้นสูงไปกองถ่ายทุกวัน เพื่อแม่บอกว่าต้องดูดีตลอดเวลา คือมันอึดอัดแม้กระทั่งการแต่งตัว เราไม่สามารถแต่งตัวเป็นตัวเองได้เลย แม่ก็จะบอกว่าจะแต่งตัวให้วัยรุ่นชอบหรือให้ผู้ใหญ่ชอบ ทำไมแค่ใส่เสื้อผ้ามันผิดอะไร ผมก็ตัดไม่ได้ต้องไว้ผมยาวตรงเท่ากันทุกเส้น มันเป็นความอึดอัดที่ว่าทำไมเราไม่ได้เป็นตัวตน ร้องไห้บ่อย แต่สุดท้ายหนูก็ทำตามในสิ่งที่เขาอยากให้ทำ
แม่ลี : ทุกอย่างเราจะจัดขั้นตอนให้เขา แต่เขาอาจจะไม่พอใจ แต่ครั้งหนึ่งเมื่อถึงเวลานี้เขาจะรู้เลย
มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับลูกสาวที่เราฝังใจแล้วไม่มีวันลืมบ้างไหม ?
แม่ลี : ถ้าไม่มีวันลืมก็ฝังใจเรื่องนางงาม จนกลายเป็นคนที่แบบต้องเอาให้ได้ นางจบ ม.6 เราก็คิดว่าไม่ต้องไปไกลให้อิมพอร์ตไปเรียนสิงค์โปร์ เราก็คิดในใจว่าวันหนึ่งนางจบจากสิงคโปร์ 4 ปี เราก็จะเอานางเข้าไปประกวดก็จะกลายเป็นสิ่งที่โอเคมากมาย แล้วเสร็จอยู่ที่นั่น 4 วันทุกอย่างเรียบร้อยหมด นางก็บอกว่า แม่หนูเป็นตุ๊กตาแม่มา 18 ปี
แม่รู้ไหมความฝันของหนูคืออยากเรียน ม.กรุงเทพ หนูอยากใส่ชุดมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอ้า! แล้วทำไมไม่บอกแม่ล่ะ แม่รู้ไหมแม่คุยกับคนไว้เยอะหนูกลัวแม่อาย ก็นอนร้องไห้ ก็บอกว่าบุ๋มเรากลับบ้านเรานะ แต่กลับแล้วต้องเชื่อแม่ทุกอย่าง ให้ประกวดอะไรต้องประกวดนะ แล้วแม่ไม่อายคนเหรอ ก็บอกไม่อายหรอกทำไงได้ล่ะ กลับก็กลับ อายก็ไม่เป็นไร
แก้มบุ๋ม : คือเขาขอไว้ว่าชีวิตขอเป็นของแม่จนถึงเราเรียนจบ หลังจากนั้นบุ๋มจะทำอะไรทำ แม่จะไม่ว่าอะไรบุ๋มเลย แล้วเขาก็ทำแบบนั้นจริงๆ
ความรักตอนเป็นยังไงบ้าง ?
แก้มบุ๋ม : ดีค่ะ เรียกว่าเป็นความรักที่พอดี ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระของกันและกัน รู้สึกว่ามาสนับสนุนกัน คบกันมาจะเข้าปีที่ 4 แล้วค่ะ
มีแพลนไหม ?
แก้มบุ๋ม : มีแพลนค่ะ แต่หนูบอกว่าให้เขาตัดสินใจเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะรู้สึกว่าหนูชิลๆ แล้วแต่เลย
มีคนบอกว่าเปย์หนักมาก ?
แก้มบุ๋ม : เปย์หนักไหมแม่
แม่ลี : ก็น่าดูเหมือนกันนะ
แก้มบุ๋ม : เขาคงอยากให้เรามั้ง พี่วู้ดดี้เชื่อไหมว่าอยู่มาจนอายุ 30 Patek คือนาฬิกาอะไรหนูยังไม่รู้เรื่องเลย คือเราเป็นคนที่ไม่ติดแบรนด์เนม อาจจะมีบ้างที่เอามาเพื่อไปออกงาน ไปเข้าสังคม แต่ว่าเป็นคนไม่ติดว่าต้องใช้ของแบรนด์เนม
แต่ว่าเวลาไปไหนมาไหนกับเขามีซื้อให้ ครั้งแรกที่ซื้อให้ก็คือซื้อนาฬิกา Patek ให้แล้ว ในครั้งแรกที่ขอเป็นแฟน คนก็เลยมองว่าเขาเปย์หรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เปย์แค่สิ่งของ แต่เขาเปย์ความรู้ของเขาให้เราด้วย เช่น ให้ข้อมูลให้คำปรึกษาในการใช้ชีวิตหรือว่าวางแผนในการทำงานอะไร เขาก็มีความช่วยเหลือส่วนหนึ่งด้วย
อยากมีหลานให้แม่ไหม ?
แก้มบุ๋ม : ก็อาจจะ หนูฝากไข่เอาไว้ค่ะ หนูก็เลยไม่รีบว่าจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ เพราะว่ามีหลานก็เลยรู้สึกว่าเฉยๆ
แม่ลี : ทุกคนคิดว่าการมีความรักต้องมีลูก ทุกอย่างมันต้องพร้อม มันคือภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
Advertisement