สืบเนื่องจากกรณีสะเทือนใจใครหลายคนในสัวคม สำหรับคดีข้าราชครู 5 คน รวมถึงศิษย์เก่า 2 คนร่วมกันข่มขืนเด็กหญิงชั้น ม.2 และ ม.4 ในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งหลังจากข่าวโดนตีแผ่ไปนั้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลาย แต่มีอยู่หนึ่งความคิดเห็นที่ทำให้นักแสดงสายเรียกร้องความยุติธรรม อย่าง "พี่บุ๋ม ปนัดดา" ถึงกับปรี๊ดแตก กับโพสต์ของครูรายหนึ่งโพสต์ให้กำลังใจครูที่ข่มขืนเด็กนักเรียน พร้อมใช้ตรรกะของตนเองเข้าข้างบรรดาครูที่ทำผิด และด่าว่าเด็กที่ออกมาแฉด้วยข้อความไม่เหมาะสม งานนี้ระดับ" บุ๋ม ปนัดดา" ถึงกับเอ่ยปากอยากล้างบางครูที่มีความคิดดังกล่าวผ่านไอจี พร้อมสัญญาเดินหน้าสู้เพื่อสิทธิผ่านการปรับเปลี่ยนกฎหมายร่วมกับทางคณะกรรมาธิการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืน
ทางทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ได้มีโอกาสพูดคุยกับ "พี่บุ๋ม ปนัดดา" ถึงเรื่องราวดังกล่าว สำหรับเรื่องดังกล่าวเมื่อตนเห็นแล้วความรู้สึกเเรกก็คือ พุ่งปรี๊ดตามสไตล์ของตนเมื่อได้เห็นข่าวเกี่ยวกับเคสที่มีการข่มขืน โดยสิ่งที่ตนเห็นแล้วยอมรับไม่ได้นั้นคือกระเเสสังคมที่อ้างว่าเด็กสมยอม ตนเลยอยากจะบอกว่าแม้จะสมยอมหรือไม่สมยอมแต่เขาก็คือเด็ก วุฒิภาวะเขายังไม่มากพอ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "บุ๋ม" เลยไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าว อีกอย่างการแสดงความคิดเห็นแม้ว่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่หากเพื่อนเราทำผิด คุณเองก็ต้องแยกแยะความผิด ดี ชั่ว ออกจากกันให้ชัดเจน หากคุณเองอยากมห้กำลังใจเพื่อนในวันที่เขาพลาดก็ควรให้กำลังใจแบบส่วนตัว ไม่ใช่ออกมาโพสต์ให้เหตุผลแบบข้างๆคูๆ ว่าถ้าไม่อยากให้ลูกโดนข่มขืนก็ไม่ต้องส่งลูกไปโรงเรียน ซึ่งส่วนตัวไม่โอเคกับตรรกะแบบนี้ เลยต้องออกมาโพสต์เตือนสติว่าบางอย่างรู้ว่ามีความเป็นพรรคเป็นพวก แต่ควรแยกแยะ เผยจากสติที่เคยเข้าช่วยเหลือเคสข่มขืนสิ่งหนึ่งที่เห็นได้บ่อยคือการที่ผู้เสียหายอยู่ในสังคมไม่ได้เพราะเกิดจากการกดดันในสังคมโดนตีตราคล้ายว่าเขาเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดเรื่อง ซึ่งมันเป็นแนวความคิดที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามถึงหลังจากนี้เราเองในฐานะที่ช่วยเหลือเหยื่อผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือข่มขื่น จพเดินหน้าต่อยังไง "โดยเจ้าตัวยอมรับว่าโชคที่ส่วนตัวตอนนี้ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทางภาครัฐ ในฐานะคณะกรรมาธิการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืน ของสภาฯ ซึ่งก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราเองสามารถเสนอแนวทางที่เห็นว่าเหมาะสม รวมถึงการแก้ปัญหาดังกล่าวส่วนตัวมองว่าจะต้องทำควบคู่กับหน่วยงานของภาครัฐอีกด้วย เพื่อให้การแก้ปัญหานั้นสามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอุดช่องโหว่ของกฎหมายให้ครอบคลุมและไม่ให้มีการใช้ช่องว่างของกฎหมายกระทำความผิดได้อีก
เมื่อถามว่าที่ผ่านมารู้สึกท้อบางไหมกับการเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้เสียหายเกี่ยวคดีเรื่องของการข่มขืน โดยเจ้าตัวเล่าว่า ยอมรับว่ามันจะรู้สึกท้อเมื่อเวลาเราไปสู้แล้วความยุติธรรมริปหรี่ ในเรื่องของสังคมที่กลับไปตีตราผู้เสียหาย หรือตอกย้ำ ซ้ำเติมสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย มากกว่าที่จะไปกล่าวโทษหรือประนามผู้ต้องหา
ทั้งนี้ทีมข่าวขอย้อนถามถึงเรื่องราวดีๆของสังคมอย่างที่ "พี่บุ๋ม ปนัดดา" เตรียมจะลงพื้นที่ไปโคราชเพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับทีมแพทย์ต่างจังหวัด ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์โรคระบาด ส่วนตัวก็ยังไม่หยุดช่วยเหลือสังคมในพื่นที่ต่างๆ นับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตนเองก็ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือมอบสิ่งของให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กว่า 500 แห่งทั่วประเทศไทย และพร้อมเดินหน้าต่อในการเตรียมสิ่งของรอดูสถานการณ์หลังที่รัฐบาลเตรียมปลดล็อกให้กลับมาเหมือนเดิม เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์คงกลับมาเกิดขึ้นเหมือนๆกับทุกประเทศที่คลายล็อกเมืองไปก่อนหน้านี้ เราเองก็เตรียมความพร้อมในส่วนของสิ่งของไว้ เพราะหากสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดการณ์เราก็จะได้รับมือไหว
ทั้งนี้ส่วนตัวเองนอกเหนือจากที่เดินสายช่วยเหลือทีมบุคลากรทางการแพทย์แล้ว ยังมีการช่วยเหลือในส่วนของปากท้องประชาชนเช่นกัน อย่างทุกวันเสาร์ส่วนตัวจะเปิดหน้าบ้านแล้วแจกจ่ายอาหารให้กับคนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด เพราะส่วนตัวคิดว่ามีใครหลายคนที่แท้ว่าเขาไม่ใช่คนยากจนแต่เป็นคนที่อยู่ในฐานะปานกลางบางรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
Advertisement