คนไทยไม่ทิ้งกัน! "ดีเจบุ๊กโกะ" รับรีวิวอาหารฟรี ช่วยผู้ได้รับผลกระทบโควิด

ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ทุกคนก็ยังคงต้องระวังดูแลป้องกันตัวเองเพื่อสังคม ซึ่งในช่วงนี้นับเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นน้ำใจของคนไทยที่ช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะเหล่าคนบันเทิงต่างก็ใช้ช่องทางออนไลน์เปิดพื้นที่ในอินสตาแกรมของตัวเองช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะการรีวิวอาหารฟรีอย่างเต็มที่ รวมถึง "ดีเจบุ๊กโกะ ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล" ที่ก็เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เป็นขวัญใจของพ่อค้าแม่ขายร้านค้าทั่วประเทศยกใจให้เพราะรีวิวช่วยเหลือแต่ละร้านที่ส่งมาให้แบบจัดเต็มตามสไตล์ บุ๊กโกะ ที่ว่าเล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ ทำ ล่าสุดได้มาเยือน รายการ ต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวก็จัดหนักยกเอาลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตกที่ตัวเองเป็นต้นตำหรับผลิตขึ้นมาเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย ขายดีทำเงินเข้ากระเป๋ามหาศาล มาโชว์เมนูส้มตำลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตกเรียกน้ำย่อยทั้งสตู พร้อมแนะเทคนิคความสำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ดีเจบุ๊กโกะ” ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือพ่อค้า-แม่ค้า
- น้องเปา ซึ้ง “ดีเจบุ๊กโกะ” ช่วย โชว์ลีลาไลฟ์ขายของ ขอบคุณคําเหยียดไล่ไปขายปลาร้า (คลิป)
- “ดีเจบุ๊กโกะ” เผย “น้องเปา” บอกโตขึ้นอยากเป็นหมอศัลย์ฯ หวังคนอื่นไม่โดนบูลลี่แบบตัวเอง

 

บุ๊กโกะ : คือบุ๊กโกะ เห็นความยากลำบากของทุกคนในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราจะไปเก็บเงินกับเขามันก็ไม่ใช่ แล้วพ่อค้าแม่ค้าบางคนบินไม่ได้ เราก็ตั้งใจว่าเราจะรีวิวอาหารให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ฟรีเลย แต่ต้องมีกฎว่าต้องส่งรายละเอียดมาให้ผู้จัดการบุ๊กโกะดูก่อน แล้วก็ต้องเป็นไปตามคิว บุ๊กโกะจะอัดคลิปวีดิโอ เอามาลงในอินสตาแกรมสตอรี่ แล้วส่งคลิปที่เราอัดไปให้ทางร้านเขาลงในเพจด้วย

บุ๊กโกะ : เราก็จัดเต็มตามเช็ตอาหารที่เขาส่งมาให้เรารีวิวเลยค่ะ เรามีความสุขที่เขาเอาคลิปของเราไปแล้วเขาขายดี หลายเจ้าเขาก็ส่งข้อความมาให้เราว่าขอบคุณมากนะคะ คุณบุ๊กโกะ ที่ทำให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ มีเงินจ่ายลูกน้อง ทำให้ร้านค้าของเราก้าวไปต่อได้


ถาม ถ้าคนที่ส่งมาให้รีวิวแล้วไม่อร่อยเราทำยังไง

บุ๊กโกะ : เคยแล้ว เราจะบอกผู้จัดการไว้ก่อนเลยว่า ทุกอย่างที่ส่งมาต้องได้ คุณภาพต้องได้ อาหารต้องอร่อย ถ้าอันไหนส่งมาแล้วรสชาติเพี้ยนหรืออะไร เราก็จะชี้แจงให้เขาฟัง ถ้ามันไม่อร่อยจริงๆ เราบอกว่าขออนุญาตจ่ายเงินให้เขาเลยค่ะ

บุ๊กโกะ : ถึงขนาดที่ว่าขอชื่อนามสกุลเราไป เราก็ตกใจเอาไปทำของหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นเพราะเราทำให้เขาขายดีขึ้น เขาเลยจะไปทำบุญถวายสังฆทาน ไปทำบุญให้เรา เรานี่อิ่มเอมใจมากๆ เลย

บุ๊กโกะ : บางคนมองว่าเป็นสิ่งเล็กน้อยมากๆ เลยนะคะ แต่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากเลยสำหรับบุ๊คโกะ

บุ๊กโกะ : เราอยู่ในวงการมานาน ช่วงเด็กๆ เราเครียดมามาก เราโตขึ้นเราคิดว่าต้องสนุก เราจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ถึงเราจะมีเรื่องเครียดขนาดไหน เวลาเราอยู่หน้างานให้เต็มที่

บุ๊กโกะ : เจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุ หนูมอบให้ตัวเองค่ะ หนูไม่รอใครมอบตำแหน่งให้ทั้งนั้น หนูจัดรายการมา 3 ปี ทำยังไงดีนะ เราจะต้องมีตำแหน่งให้ตัวเอง หนูก็ไปเปิดเว็บไซต์หนึ่ง เขาก็จัดอันดับ เจ้าหญิงแห่งวงการต่างๆ เราก็เล็งเห็นว่ายังไม่มีเจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุเลย เราก็ตั้งตัวเองเลยว่าตั้งแต่นี้ไปเวลาฉันลงอินสตาแกรม ฉันจะใส่แฮชแท็ก เจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุ พอเราลงติดๆ กันบ่อยๆ พอคนเห็น เขาก็จะจำว่าเราเป็นแบบนั้นจริงๆ หนูสะกดจิตทุกคน ให้ทุกคนเขารู้ว่าเราคือ เจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุ เสียงตอบรับคือเยอะมากว่าใครทั้งให้ เราก็บอกเขาว่า อ๋อ ตั้งเองค่ะ แต่ก็สำเร็จจริงๆ

ถาม แต่ตำแหน่งนี้อยู่ได้เพราะ บุ๊กโกะ เขามีคุณภาพจริงๆ ถึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้

บุ๊กโกะ : รวมๆ แล้วที่อยู่มาคือ 10 ปีพอดีค่ะ

ถาม เห็นอยู่ในวงการวิทยุก็รุ่งโรจน์ แล้วทำไมเปลี่ยนมาเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการลูกชิ้น

บุ๊กโกะ : จริงๆ ในวงการวิทยุก็ยังทำอยู่เหมือนเดิมค่ะ และก็ยังคงเป็นเอเจนซี่ศัลยกรรมยังคงทำอยู่ แต่เพราะในช่วงโควิด เราบินไปไม่ได้


ถาม พอเราบินไปเกาหลีไม่ได้ เลยคิดจะทำอะไรช่วงโควิดใช่ไหม

บุ๊กโกะ : คือเราอยากจะทำอะไรที่เกี่ยวกับเรา แล้วคือ บุ๊กโกะ เป็นคนที่ชอบอะไรที่เป็นเกาหลี เป็นฑูตของเกาหลีด้วย ปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว อันนี้เรื่องจริงเราไม่ได้แต่งตั้งขึ้นเอง

บุ๊กโกะ : เราก็เลยคิดว่าถ้าเราจะทำของที่เราขาย ต้องเป็นเกาหลี ปิ้งย่าง อะไรคนก็ทำเยอะแล้ว เราเลยได้ลิสต์รายชื่ออาหาร แล้วช่วงที่เราไปเที่ยวเกาหลี เราก็ได้ทานเมนูชื่อ มันดู คือ เกี๊ยว ที่กัดเข้าไปมีน้ำมันงาไหลออกมา เราก็รู้สึกว่าน่าเอามาขายจังเลย แต่ถ้าเป็นเกี๊ยวจะธรรมดาไปไหม

บุ๊กโกะ : น้องเลยบอกว่าทำเป็นลูกชิ้นปลาดีไหม เราก็บอกว่าดีเลย เลยตั้งชื่อว่า ลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก ความพิเศษคือ ข้างในเราคิดมาแล้วว่าอยากทำเหมือน มันดู แต่ไม่เอาไส้หมูนะ ต้องเป็นไส้ปลาแล้วเอาไปผสมกับน้ำมันงา เพราะจะได้ทานได้ทุกคน เราคิดสูตรลองกันนานมาก แล้วก็นำไปจด อย. เรียบร้อย แล้วคือพอทำขาย ดีมากจนมีคนมาติดต่อซื้อแฟรนไชส์ หนูทำออกมาเป็นแพ็ค แพ็คละ 500 กรัม เราจะมีโรงงานผลิตลูกชิ้นอยู่ค่ะ

ถาม ตั้งแต่เปิดขายลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก ขายได้ไปถึง 5 ตันแล้ว

บุ๊กโกะ : ใช่ค่ะ 5000 กิโล ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เดือนกว่า ปกติขายเป็นโล โลละ 350 บาท ครึ่งโล 180 บาท แต่ตัวแทนขาย เขาก็จะนำไปขายถุงละ 180 บาท


ถาม ตอนแรกที่ขายกลัวคนจะไม่ซื้อไหม เพราะคนไม่ดูจักว่ามันดูมันคืออะไร

บุ๊กโกะ : ทุกอย่างต้องเริ่มจากเราค่ะ คือเราเป็นคนที่ชอบกินอยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบรีวิว ที่สำคัญเราอินกับเกาหลี เราเลยนำเสนอออกมาได้ดี แล้วพอเขาเห็นเรารีวิว ก็สั่งซื้อไปลองทานกัน


ถาม เราชิมไปหลายกิโลไหม กว่าจะได้มาเป็นแบบนี้

บุ๊กโกะ : ชิมเยอะมากจนหนูจะชื่อลูกชิ้นแล้ว


ถาม ตอนนี้จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวคนเลียนแบบ

บุ๊กโกะ : ใช่ค่ะ เพราะหนูต้องไปจด อย. ของหนูชื่อ ลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก ชื่อนี้เลย

ถาม ถ้าเราจดแล้ว แล้วมีคนเอาไปเลียนแบบ

บุ๊กโกะ : สูตรมันไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นสูตร ลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก เกาหลี มีที่หนูที่เดียว ส่วนของเจ้าอื่นแค่เหมือน แต่ถ้าอยากจะได้ออริจินัลต้องที่เราเจ้าเดียวค่ะ

บุ๊กโกะ : เพราะของเราเป็นลูกชิ้นปลาแท้ เป็นปลาทะเล ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ แต่ถามว่ามีแป้งไหม มีผสมบ้างไม่งั้นมันจะไม่เกาะตัว แต่ของเรามีคุณภาพแน่นอน เพราะก่อนขายเราต้องแน่ใจก่อนว่าของเราดีจริง สามารถสั่งซื้อได้ทาง ลูกชิ้นบุ๊กโกะ เราส่งทั่วประเทศ ตอนนี้ต่างประเทศก็ติดต่อมาแล้ว

นอกจากจะประสบความสำเร็จในเรื่องงานแล้ว เรื่องหัวใจ ดีเจบุ๊กโกะ ก็ตอบเพียงสั้นๆ ให้ได้รับรู้ว่าตอนนี้สถานะว่าใจ มีคนคุยๆ ด้วยอยู่ แต่จะถึงขั้นไหนสถานะอะไรนั้นเจ้าตัวขอเว้นวรรคไว้ก่อนยังไม่ขอตอบอะไรเยอะในตอนนี้