"ตั๊ก ศิริพร" เปิดใจ มีลูกแล้วทุกข์ เพราะรักมาก!
หลังปล่อยภาพเด็ดโชว์หุ่นเป๊ะ!! ออกมาเรียกเสียงฮือฮาสนั่นวงการ ล่าสุด "ตั๊ก ศิริพร" ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เผยว่าอยู่ในแวดวงนี้มาร่วม 25 ปี คิดวางแผนบั้นปลาย เตรียมบอกลาวงการบันเทิง พร้อมเผยชีวิตนี้ขอมีลูกแค่คนเดียวพอด้วยเหตุผลที่ว่า
คอนเทนต์แนะนำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "สงกรานต์" เจ้าพ่อเพลงดังร้อยล้านวิว!! เปิดอกยอมรับชีวิตอยู่ในช่วงขาลง
- "ดี้ ปัทมา" ขายหน้ากากอนามัย แต่ไม่ทิ้งงานวงการ!
- "บ่าววี" ขอสู้สุดชีวิต งานหดแต่ไม่ทิ้งลูกน้องในช่วงโควิด!
- "แอน สิเรียม" ผันตัวเป็นชาวสวน พร้อมควงลูกสาว "นนนี่" เคลียร์ใจความต่างขั้ว
- "มัม ลาโคนิค" เคยเปย์ผู้ชาย ติดการพนัน สูญเงินเป็นล้าน!!
ถาม เราเป็นแม่ที่ดุไหม?
ตั๊ก : พี่ไม่ดุลูก อาจจะเพราะพี่ฟังธรรมะ เราให้ชีวิตเขา แต่ชีวิตก็คือของเขา เพราะฉะนั้นลูกอยากจะทำอะไรมันก็เป็นชีวิตของลูก ถ้าเกิดเขาจะเป๋ เราก็ค่อยตบๆ แต่เขาอยากจะทำอะไร เขาชอบอะไร เขาอยากทำงานอะไรต้องปล่อยเขานะ ต้องคุยกับลูกนะ อย่างน้อยๆ ต้องคุยกับลูกให้บ่อยที่สุด พี่ตั๊กคุยกับลูกแทบจะวันเว้นวัน เพราะในยุคนี้โซเชียลมันเยอะ มันน่ากลัว น่ากลัวกว่ายุคเรา เพราะฉะนั้นพี่จะคุยกับลูกบ่อย ภูวันนี้เป็นไงบ้างลูก? ภูแม่ขอนะ แม่เชื่อใจภูนะ ภูอย่าเข้าไปดูพวกนี้นะ อย่างเกมที่มันอันตราย เกมที่มันแรงๆ หรือบอกว่าภูจะเป็นอะไรก็ได้ จะเป็นเพศที่สาม จะเป็นอะไร พี่แล้วแต่ลูกเลย พี่เปิดเลย แต่ขออย่างเดียว ภูเป็นคนดี อย่าเป็นภาระพ่อแม่นะ ภูเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้และต้องเป็นคนดีด้วย ขอแค่นั้นน่ะ ไม่ต้องมาเลี้ยงแม่ เดี๋ยวแม่ดูแลตัวเองกับพ่อเองตอนแก่ ที่สำคัญพี่ต้องคุยกับลูกมันต้องเปิดอกนะ พี่คุยกับลูกเรื่องเซ็กส์เนี่ยตั้งแต่เขาอายุ 10 ขวบเองมั้งหรือ 11 ประมาณนี้ตั้งแต่เด็กๆ เลย
ถาม ภูตกใจไหม?
ตั๊ก : ไม่ มันเฉยมาก มันบอกว่า โอ๊ย..แม่ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เพราะว่าผมยังไม่รีบใช้ตอนนี้หรอกไอ้นั่นน่ะ เมื่อวานนี้ พี่ยังคุยกับลูกเลย ภู...ถ้าอยากไปเที่ยวอะไรหรือแบบว่าอะไรมันไม่ไหวจริงๆ บอกแม่นะ เดี๋ยวแม่พาไปเที่ยวก็ได้ ป๋าบ๊อบเขาเตรียมพร้อม ป๋าบ๊อบบี้สามีพี่หนูแหม่ม นั่นน่ะคอยแสตนบายไว้
ถาม คู่พี่ตั๊ก พี่นุ้ยเป็นคู่ที่น่ารัก ทุกวันนี้ยังอาบน้ำด้วยกันทุกวัน?
ตั๊ก : ถ้ากลับบ้านแล้วเวลาตรงกันก็อาบ เพราะว่าเวลาช่วงอาบน้ำเนี่ย พี่จะคุยกัน พ่อวันนี้ไปทำงานเป็นยังไงบ้าง? ถ้าเกิดไม่ใช่อาบน้ำนะ ผัวพี่ก็จะไปนั่งร้องเพลง พี่ก็จะไปดูหนัง ผัวพี่นะสามารถร้องเพลงได้ตั้งแต่เช้ายันตี 1 ได้ หมาแมวยังหนีเลย ตั้งแต่เช้าสายๆ อะจนถึงตี1 วันนั้นพี่กลับบ้านไปดึกแล้ว พี่คิดว่า เออ..ดึกแล้วเนอะ มันยังนั่งร้องอยู่เลย นี่เรื่องจริง พี่ต้องถ่ายวีดีโอไว้ เขาชอบร้องเพลง มันทำเพลงอีกแล้ว
ถาม แปลกใจนะ อาบน้ำด้วยกันเป็นประจำ แต่ไม่มีลูกอีก
ตั๊ก : ไม่เอา จริงๆ พี่ไม่อยากมีลูกเลย มีลูกแล้วพี่ทุกข์ เพราะพี่รักมาก รักจนเป็นทุกข์ พี่มีคนช่วยเลี้ยงก็จริง แต่เชื่อไหมคนเลี้ยงไม่ได้ทำอะไรเลย พี่ทำคนเดียว พี่ซักผ้าให้ลูกพี่ไม่ใช้เครื่อง พี่ใช้มือซักก่อนมาทำงาน กลัวไม่สะอาด แล้วคิดดูดิ ซักแฟ้บกี่น้ำ ซักน้ำเปล่ากี่น้ำ อาบน้ำให้ลูกเช้า เย็น ก่อนนอน ทำให้ลูกทุกอย่าง คนเลี้ยงลูกไม่ได้ทำอะไรเลย พี่ทำคนเดียวอะ สายตัวแทบขาด พี่เหนื่อยจนถึง 10 ขวบ
ถาม ซึ่ง 10 ขวบก็โตแล้วนะ?
ตั๊ก : 10 ขวบพี่ยังล้างตูดให้มันอยู่เลย ทุกข์ไหมล่ะ? พี่ถึงบอกคนเดียวพอแล้ว
ถาม เพราะอะไรถึงหยุด หยุดเองหรือมีคนมาบอก?
ตั๊ก : ทำไมเดารู้ พี่กิ๊ก ซูโม่กิ๊กเรียกพี่ตั๊กไปนั่งคุยเลย ตั๊กเป็นแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่างที่มึงทำ พ่อแม่รังแกฉันนะ มึงถามลูกไหมว่าลูกต้องการหรือเปล่า? พอพี่กิ๊กคุยกับพี่วันนั้นปุ๊บ จากที่พี่เคยทำทุกอย่างให้ลูก พี่กลับไปเย็นวันนั้น ให้ลูกอาบน้ำเอง วันนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจ้าภูอาบน้ำเองตอนอายุ 10 ขวบ แล้วพี่ไปแอบฟัง มันอาบน้ำด้วยความสุข ร้องเพลงไปด้วยอาบน้ำไปด้วย
ถาม จริงๆ เขาอึดอัดมานาน เขาไม่เคยเอ่ยปากเลยหรอ?
ตั๊ก : ไม่เคยเลย รักแม่ไง เขาคงรักแม่ไม่อยากขัดใจแม่ พี่ยืนน้ำตาไหล โหย..นี่กูรังแกลูกมาตลอดเลยเนอะ อาบน้ำไปร้องเพลงไป มันคือคนมีความสุขเนอะ
ถาม มีเรื่องที่น่าชื่นชมและเป็นเรื่องที่น่าภาคภูใจมากก็คือ การที่มันมีกองทุนนึงเกิดขึ้น “กองทุนปันน้ำใจเพื่อผู้ยากไร้ตั๊กลีลานุ้ยเชิญยิ้ม” มันมีที่มายังไง?
ตั๊ก : แม่พี่เขาเกษียณแล้วเนอะ เขาเป็นคนที่ไฮเปอร์ อยู่เฉยไม่ได้ เขาก็เลยพยายามหากิจกรรมทำกับเพื่อน บังเอิญว่าเขาไปช่วยเพื่อน เพื่อนเขาอยู่ตามมูลนิธินั้น มูลนิธินี้ หลายๆ มูลนิธิ เขาก็ไปช่วยเพื่อนตามมูลนิธิต่างๆ จะได้ไม่ว่าง ทีนี้การที่เขาไปคลุกอยู่ตรงนั้น ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่โปร่งใส พี่ไม่เอ่ยชื่อมูลนิธินะ พูดแค่นี้แล้วกัน เขาไปเห็นแล้วเขาไม่สบายใจ เขาอยากมาทำบุญด้วยใจอะ แล้วไปเห็นแล้วแบบมันเป็นอย่างนี้มันก็ไม่ใช่การทำบุญ เขาก็มาบ่นกันพี่ พี่เลย เอ้าแม่ ถ้าเกิดว่าแม่ไปทำบุญแล้วแม่ไม่สบายใจ แม่ไปเห็นแบบนั้นเนี่ย ถ้างั้นแม่ออกมาไม่ต้องไปทำ แม่ทำของแม่เองเลยสิ เขาเอาเลย เขาทำเลยโดยการควักเงินส่วนตัว มา 3 ล้าน เอาเป็นกองทุนเลย
ถาม ช่วยเหลือใครเป็นหลัก?
ตั๊ก : แม่พี่ เพื่อนฝูงเยอะ เขาก็มีจิตอาสาตามที่ต่างๆ เขาเลยบอกว่า ที่นั่นอะ ไปสำรวจให้พี่อ้อยหน่อยสิว่ามีคนลำบากยากเข็ญไหม? มีคนลำบากยากจนไหม? เขาก็จะไปสำรวจให้แม่พี่แล้วก็ส่งมา แม่พี่ก็จะลงไปดู แม่พี่เขาไม่ได้แบบว่าส่งมาแล้วช่วยเลยไม่นะ ต้องไปดูก่อนว่าลำบากจริงไหม? ขนาดลงไปดูนะ ยังมีเลยแกล้งจน คนรวยแต่แกล้งจน จะเอาเงิน คุยไปคุยมามีที่เป็นร้อยไร่ แบบตะล่อมถามอะไรงี้ ค่อยๆ เผยออกมา พี่เคยไปสำรวจกับแม่นะ อยู่เป็นมุงจากเลย ไฟฟ้าไม่มี ประปาไม่มี พี่ก็เดินสำรวจ ไปเจอเสือหมอบคันเป็นหมื่น เอาอะไรหมกอยู่ เอาอะไรปิดอย่างนี้หลายเคส
ถาม เคยได้ยินช่วงนึง พี่ตั๊กบอกว่าจะลาวงการ?
ตั๊ก : ตอนพี่ตั๊กอายุ 45 พี่ไม่รู้เป็นอะไรในช่วงนั้นอะ พี่ว่าฮอร์โมนมันสวิงหรืออะไรไม่รู้นะ พี่มีความรู้สึกว่าทำไมพี่มองอะไรไปแล้วมันเศร้าไปหมดเลย มองอะไรแล้วมันเบื่อไปหมดเลยอย่างนี้ แล้วประกอบกับตอนนั้นผัวก็ทำตัวไม่ดีด้วย มันเลยแบบสะสม มันก็เลยเบื่อแล้ว พี่อยากกลับไปอยู่กับแม่ที่พิษณุโลก เบื่อทุกอย่างแล้วอะไรอย่างนี้ แล้วจังหวะนักข่าวมาพอดีสัมภาษณ์ พูดเลย ไม่เอาแล้วจะไม่อยู่แล้วไปเลย แต่ว่าถามว่าเบื่อไหม? พี่ก็อิ่มนะ จนถึงทุกวันนี้พี่ตั๊กก็อิ่มนะ รู้ไหมพี่เบื่อร้องเพลงมาก พี่เห็นอั๋นร้องเพลงแล้วพี่มีความรู้สึกอิจฉาอั๋นนะ พี่รู้เลยว่าอั๋นเป็นคนที่รักการร้องเพลง อั๋นคงไม่มีคำว่าเบื่อแน่ๆ เลย ฉันชอบการร้องเพลง แต่ทำไมกูเบื่อวะ? พี่ตั๊กไม่รับงานอีเวนท์เลยอะ เบื่อการร้องเพลง
ถาม แล้วงานพิธีกรล่ะ เบื่อบ้างไหม? พูดแบบนี้หลายคนบอกว่า จะไม่เห็นแล้วหรอ?
ตั๊ก : อันนี้ยืนยันเลยเนอะว่าประมาณ 50 พี่ก็บายแล้ว พี่ตั้งใจไว้แล้ว พี่ไม่อยากอยู่วงการจนแก่ อันนี้ตั้งใจไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ประมาณอายุตัวเองเท่าไหร่ ไม่อยากอยู่วงการจนแก่ แล้วก็ไม่อยู่กรุงเทพด้วย พี่ตั๊กอยู่กรุงเทพมา 30 กว่าปี เชื่อไหมว่าไม่มีวันไหนที่พี่ตั๊กชอบกรุงเทพสักวันเลย เวลาพี่ตั๊กกลับบ้านไปหาแม่ พี่ชอบต่างจังหวัดมากกว่า
ถาม แล้วไม่เสียดายเงิน ไม่เสียดายงานหรอ?
ตั๊ก : ถ้าเกิดว่าพี่อยากมีเงินเยอะๆ ถ้าเกิดว่าเราไม่รู้จักพออะ มันก็จะไม่พอไม่พออยู่นั่น นั่งคุยกับเป๊กกี้เมื่อวานนี้เอง ไอ้เป๊กพูดว่า “แม่...บางทีเราคิดไว้เนอะว่าอยากจะมีเท่านี้ พอถึงเท่านี้ปุ๊บเราก็จะอยากมีอีกเท่านี้ มันก็ไม่พอสักทีเนอะแม่เนอะ พี่ก็เลยคิดว่าเมื่อไหร่เราจะพอล่ะ พี่มีความรู้สึกว่าพี่อยู่ต่างจังหวัดได้ เพราะพี่อยู่มาแล้วไง เพราะพี่เกิดจากความเป็นเด็กบ้านนอก เด็กต่างจังหวัด พี่อยู่ได้อยู่แล้วไง พี่ไม่ได้ต้องการความศิวิไลซ์อะไรอย่างนี้
Advertisement
