ย้อนไปสัก 25 ปีก่อน หลายคนจดจำ "เจี๊ยบ วรรธนา วีรยวรรธน" ได้จากเพลง เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ทั้งเวอร์ชั่นของวงที-โบนและเวอร์ชั่นที่เธอขับร้องเอง ตามมาด้วยบทเพลงอีกมากมายที่แต่งให้อีกหลายศิลปิน รายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เชิญสาวแกร่งและเก่งคนนี้ มานั่งพูดคุยในรายการท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของชีวิตและวันเวลาที่ทำหน้าที่อย่างไม่เคยเกรงใจใคร มาถึงวันนี้ คนในแวดวงบันเทิงรู้กันว่า เจี๊ยบ วรรธนา กลายเป็นคนเขียนบทละครฝีมือดีที่มีผลงานละครโทรทัศน์อย่าง ใบไม้ที่ปลิดปลิว ที่โด่งดังทั้งในไทยและอีกหลายประเทศ ยืนหนึ่งเรื่องเขียนบทแบบนี้ ผลงานด้านดนตรียังจะมีหรือเปล่า? เจ้าตัว ก็ประกาศชัดเจนเลยว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ซานิ-ตุ้ย" สนิทจนรู้ไส้รู้พุง ไม่มีวันขยับสถานะจากพี่น้องเป็นแฟน
- "ตั๊ก ศิริพร" เปิดใจ มีลูกแล้วทุกข์ เพราะรักมาก!
- "สงกรานต์" เจ้าพ่อเพลงดังร้อยล้านวิว!! เปิดอกยอมรับชีวิตอยู่ในช่วงขาลง
- "ดี้ ปัทมา" ขายหน้ากากอนามัย แต่ไม่ทิ้งงานวงการ!
- "บ่าววี" ขอสู้สุดชีวิต งานหดแต่ไม่ทิ้งลูกน้องในช่วงโควิด!
ถาม เรื่องทำเพลงจะเลิกไปเลยเหรอ?
เจี๊ยบ : เลิกไปเถอะ ปล่อยเด็กๆ เขา เดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่เก่งมากเนอะ แต่งเพลงทำเพลง
ถาม ทำไมถึงได้มาเป็นนักเขียนบทละคร?
เจี๊ยบ : จำสมัยแกรมมี่มีค่ายเล็กๆ ได้ไหม? มีบาแรมยูอยู่ในนั้น 1 ในนั้นมีผู้บริหารบาแรมยูคือ พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ซึ่งแกต้องมาทำค่ายเพลงไปก่อนช่วงนั้นเพื่อที่จะรอทำหนัง แกบอกว่าเราเป็นคนเล่าเรื่องสนุก มันเป็นคุณสมบัติหนึ่งของคนเขียนบท แล้วพี่ปรัชบอกว่าลองไปฝึกเขียนบทดู ซึ่งตอนนั้นเป็นแพชชั่นรุนแรงเลย เพราะว่าจริงๆ แล้วอยากทำ อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ เริ่มจากการเขียนบทภาพยนตร์สายแอคชั่นด้วยนะ ช็อคโกแลต เรื่องที่จีจ้าเล่น ก็จะเป็นเจี๊ยบ แต่ว่าเขียนรวมกันหลายๆ คน ต้มยำกุ้งเราก็เขียน เราเป็นหนึ่งในทีมของต้มยำกุ้ง
ถาม เขียนละครดังๆ เยอะมาก แล้วจะได้ยินว่า อยากให้เขียนแต่ไม่รับเขียน ไม่ว่าง เล่นตัว?
เจี๊ยบ : ไม่ได้เล่นตัว ละครเรื่องหนึ่งมันใช้เวลา 6-8 เดือน(ในการเขียนบท) มันคือการมโนทุกสิ่งอย่าง เอาจากอากาศขึ้นมาเป็นเรื่อง สมมุติละคร 24 ตอน 24 ชั่วโมงเราต้องคิดเป็นทุกคนเลย โปรดิวเซอร์พูดอะไร ตากล้องทำแอคติ้งยังไง ไฟมาจากไหน
ถาม เวลาที่เราเขียน จินตนาการเป็นภาพหมดเลยหรือเปล่า?
เจี๊ยบ : ใช่ สตูดิโอแบบนี้ เด็กเข้ามาตรงนี้ มองมาทางขวาเห็นฝ้ายนั่งกำลังเครียดอยู่ แล้วฝ้ายดูหิวข้าวมาก เพราะวันนี้ถ่ายจนไม่มีเวลากินข้าว
ถาม ทั้งหมดนี้เราต้องเขียนอยู่ในบทหรอ?
เจี๊ยบ : ใช่ ซึ่ง 6-8 เดือนนั้น เราต้องจมอยู่กับเรื่องๆ นึง ซึ่งทีนี้คนเขียนบทหลายคนอาจจะเก่ง อาจจะเขียนทีนึงได้หลายเรื่องเพราะเขาอาจจะประสบการณ์เยอะถูกไหม? ของเราเพิ่งเริ่มจริงๆ มันเหมือนจำเป็นต้องมีสมาธิมากๆ
ถาม เคยเขียนบทหนักมาก จนกลายเป็นไม่อยากยุ่งกับใคร โทรไปไม่รับ ใครชวนไปไหนไม่ไป?
เจี๊ยบ : มันเหนื่อยนะ โทรไปไม่รับเนี่ยเป็นเรื่องปกติ รายการน่าจะรู้ดี พอเขียนบทอยู่ มีโทรศัพท์เข้ามา พอคุยปุ๊บมันจะกระเจิง ถ้าเป็นชื่อเพื่อนเนี่ย รู้แล้วนี่เม้าท์แน่นอน เดี๋ยวแป๊บนึง ขอได้ 7-8 หน้าก่อนเดี๋ยวค่อยโทรกลับ คือการที่วรรธนาไม่รับโทรศัพท์เนี่ยเป็นเรื่องปกติของตัวเอง กว่าเราจะเข้าไปในแกน เรากำลังเขียนแบบไหลลื่น เพราฉะนั้นไลน์เนี่ยจะปิดเลย ไม่ได้ตั้งแบบอ่านไลน์ได้
ถาม การเขียนบทสำหรับพี่เจี๊ยบ 6-8 เดือน แปลว่าปีนึงรับได้ 2 เรื่องเหรอ พอเหรอ?
เจี๊ยบ : ไม่พอหรอก แต่ก็ไม่ได้มี 2 หัว 4 มือ อยากมีจะตาย อยากรับทุกเรื่อง อยากทำทุกอย่างเราบอกว่าเราทำทุกงาน เราก็ตั้งใจ แต่เป็นเพราะว่าประสบการณ์ด้วย พยายามอธิบายว่าเพราะรับงานมาแล้ว เราต้องมีความรับผิดชอบมากเลย เพราะมันไม่ใช่แค่นักแสดง คิวนักแสดงว่ายาก ถ้าเราช้าทีมงานจะเป็นส่วนแรกที่เดือนร้อน เพราะเขาเป็นลูกจ้างรายวัน
ถาม ก็เลยเป็นเหตุหนึ่งหรือเปล่าที่หันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มูเตลู ให้ช่วยเขียนบทได้เขียนบทดี ดูฤกษ์ ดูวัน ดูสี เสื้อจะใส่สีอะไร? สร้อยหินนำโชค
เจี๊ยบ : บางทีมันท้อแท้ นึกไม่ออก มันต้องพึ่งอะไร ต้องพึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นอะไรงี้ แต่ว่าสิ่งที่ต้องพึ่งความมูเต ว่าเสื้อต้องสีนี้เนี่ย คือวันส่งงาน สมมุติว่าส่งงาน พี่ฉอด ฉันดูฤกษ์นะ ฉันดูยามอุบากองนะ อุบากองเนี่ยเขาเป็นชาวพม่าที่เขาติดคุก ตำนานคือเขาแหกคุกเก่ง เขาก็เลยมีตำราของเวลา ลองไปเสิร์ชดูคำว่ายามอุบากกอง ยามอุบากองมันจะเหมือนยามที่ใช้รบด้วย
เจี๊ยบ : จะกดส่งต้องแบบ 10 โมง 49 ฉันต้องรอ แล้วกด จะนัดส่งงาน ต้องดูก่อนว่าเดือนนี้วันไหนวันดี งานฉันจะเสร็จในวันดีเท่านั้น เอาฤกษ์เอาชัย ก็สบายใจนะ สมมติว่ากดส่งในวันที่เป็นวันมงคล ละครก็จะดัง คิดเข้าข้างตัวเอง
ถาม อีกบทบาทนึงคือการเป็นคุณแม่ลูก 2 แล้วเวลาเข้าถ้ำ ลูกรู้ไหมว่าแม่เข้าถ้ำอยู่ อย่าเพิ่งมาลากแม่ออกจากถ้ำนะลูก
เจี๊ยบ : เธอรู้ไหมว่าฉันเข้าถ้ำ?(ถามลูกสาว)
เนปาล : รู้
ถาม เราอยู่ได้เหรอ ไม่กวนคุณแม่?
เนปาล : อยู่ได้ค่ะ อยู่ปากถ้ำเอา ส่งเสบียงเข้าไปข้างใน
เจี๊ยบ : มี ที่บ้านก็ติสท์กันหมดนะ
ถาม นี่คือลูกคนโต ที่บอกว่าเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเลย?
เจี๊ยบ : เขามีของ เขาก็แต่งเพลง เพลงเขาก็ดีด้วย แต่เขาก็ไม่ยอมทำให้เสร็จ คือเขาเป็นพวกต้องรอทุกอย่างให้มันคอมพลีท
ถาม พี่เจี๊ยบยังมองเรื่องความรักในชีวิตของเรายังไงบ้าง?
เจี๊ยบ : ถ้าเป็นความรักของตัวเองในทางชู้สาวเนี่ยไม่มีแล้ว ยิ่งแก่จะยิ่งยาก ยิ่งแก่จะยิ่งถูกใจคนยาก เราไม่ได้รู้สึกเหงาเลยแม้กระทั่งวันเดียว ตั้งแต่สามีไม่อยู่จนกระทั่งวันนี้ รอบตัวเราก็มีลูก มีเพื่อน มีงานมีความสุขกับการทำงานมาก ตื่นมาได้ทำงานที่ตัวเองรักแล้วก็เพื่อนรอบตัวทุกคนเป็นคนน่ารัก ซัพพอร์ต คุณพ่อคุณแม่ก็ยังอยู่ มันเหมือนเป็นความอบอุ่นที่มันคอมพลีท แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ต้องการ เราไม่ได้โหยหา เราไม่ได้เหงา ไม่ได้อะไรเลย แต่คิดเอานะว่ามันไม่น่ามีคนที่ทำให้หัวใจทำงานในเชิงนั้น
Advertisement