ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ธุรกิจหลายธุรกิจต้องปิดตัวลงหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นการขายออนไลน์ ด้านนักร้องหนุ่ม "เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์" หรือ "หน้ากากอีกาดำ" ก็เป็นอีกคนที่หยิบจับทุกโอกาสให้เป็นรายได้ เอาใจสายกิน ยกความอร่อยของร้านซีฟู้ด น้ำจิ้มรสแซ่บ ที่เจ้าตัวทำเองทุกขั้นตอน กับ "Prawn Hub By กินกับกา" ยืนหนึ่งทุกเรื่องแซ่บ มาไว้ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ พร้อมเผยชีวิตที่ต้องสู้ในวงการเพลงถึง 11 ปี กว่าจะมีเพลงดัง!! จนเป็นที่มาของฉายาสุดพีคอย่าง "นักร้องจังหวะนรก"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ต้อม ณหทัย" เล่านาทีเฉียดตายถึง 2 ครั้ง ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้พิการนับปี!
- "พรศักดิ์ ส่องแสง" เล่าชีวิตขาลง เป็นบทเรียนสอนใจ พร้อมเปิดตัวลูกชายที่เดินตามรอยพ่อ
- นักร้องแหบมหาเสน่ห์ "ศิริพร อำไพพงษ์" เผยเหตุผลที่ไม่รับงาน!
- "บิณฑ์-เอกพันธ์" เผยความเหมือนที่แตกต่างของคู่แฝดบรรลือฤทธิ์
- "นุ่น รมิดา" เผยหลังแต่งงาน "หลุยส์" เปลี่ยนไปมาก พร้อมรับเดินสายมู ไหว้ขอลูก
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
เอ๊ะ จิรากร : ทำวงอยู่ใต้ดินนานกว่า 10 ปีเลยครับกว่าจะมีเพลงดัง ผมเคยทำงานเพลงกับ ปิ๊ด บอดี้สแลม ด้วย แต่ก็แยกย้ายกันไปตอนที่แยกย้ายเพื่อนแต่ละคนก็ได้ดีกันไปหมดยกเว้นแค่เรา
ถาม เป็นนักร้องนำมาตลอดไหม
เอ๊ะ จิรากร : เป็นนักร้องนำมาตลอดครับ ร้องแนวร็อคมาตลอด ร็อคแบบว๊ากๆ แต่พอเราร้องแบบว๊ากได้สักพักหนึ่ง เราก็ไปเล่นดนตรีในผับ ที่เจอปิ๊ด เราก็เริ่มร้องแบบเบาลง แล้วเราก็มาทำเพลงแบบ POP ROCK ไปอยู่ค่ายลาดพร้าว แต่ตอนนั้นไม่ได้ออกเพลงนะครับ แล้วเราก็มาเป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ที่แกรมมี่ เราก็ร้องไกด์อยู่ 5 ปี แล้วมันจะมีช่วงฟองสบู่ทางด้านวงการเพลงแตกค่ายเล็กๆ เลยต้องปิดตัวลง
ถาม เลยเป็นที่มาของฉายา "จังหวะนรก" เพราะว่าไปอยู่ค่ายไหนก็ต้องปิด
เอ๊ะ จิรากร : ใช่ครับ เราไปอยู่ทำเพลงกับใครก็ไม่รอด
ถาม แต่เพลงแต่ละเพลงที่ดังคือช่วงจังหวะนรกทั้งนั้นเลย
เอ๊ะ จิรากร : นั่งคุยกับ ปิ๊ด บอดี้สแลม เขาว่าพี่เอ๊ะ สังเกตดีๆ นะ ผมว่าพี่ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เพราะตอนที่ปล่อยเพลงกับเขาตอนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ข่าวเด็กติดในถ้ำหลวง คนไปโฟกัสแต่ข่าวนี้หมดเลย เราอุตสาห์เอา บอดี้สแลม มาแล้ว ตอนพี่ๆ บิ๊กแอส ช่วยเรา นักร้องนำ Linkin Park เสียชีวิต ก็ถูกกระแสข่าวกลบกระแสเพลงเราไปอีก เพราะเขาก็เป็นศิลปินชาว ROCK ที่มีชื่อทั่วโลก และล่าสุดที่ผมเพิ่งปล่อยออกมา โลกอิจฉา พอปล่อยออกมาปิดประเทศเลยครับ โควิดก็มาพร้อมเพลงเลย ผมก็ถามกับ ปิ๊ด ว่าจะมีอะไรอีกไหม (หัวเราะ)
ถาม แต่ถึงจะปล่อยเพลงออกมาเจอเหตุการณ์ต่างๆ แต่เพลงดังของ เอ๊ะ จิรากร ก็มีอยู่เยอะมาก
เอ๊ะ จิรากร : เพลงแรก คือ ไม่มีตรงกลาง ตอนนั้นเป็นโปรเจคที่ทาง คุณฟองเบียร์ เขาทำอยู่ เขาก็บอกให้เราเอามาร้อง เราก็เอามาร้อง แล้วทีนี้มันก็มีเหตุคือโปรดิวเซอร์ที่เขาทำให้วงโปเตโต้กับเราคือคนเดียวกัน แล้วบังเอิญเขาเอาเพลงที่เราร้องกับเพลงของวงโปเตโต้ลงในแผ่นเดียวกัน ทีนี่เขาจะเอาเพลงวงโปเตโต้ไปเปิดให้อากู๋ฟัง แต่เพลงที่เขาเปิดมาเป็นเสียงเราร้องขึ้นมาว่า ใครจะพยายาม ….. (หัวเราะ) พออากู๋ได้ยินเสียงเราเขาก็ถามว่าเสียงใคร ให้โอกาสเรามาทำเพลง
ถาม พอปล่อยออกมา เป็นเพลงที่ดังมาก เป็นเพลงที่เข้าหูมาก
เอ๊ะ จิรากร : ตอนนั้นเพลงเร็กเก้รุ่งเรืองมาก ไม่มีคนฟังเพลงอีซี่เลย ก็มีเพลงเราโผล่ออกมาคนเดียว แล้วต่อจากเพลงนั้นก็มีเพลง จากนี้ไปจนนิรันดร์ จริงๆ เป็นเพลงของพี่โดม แล้วมันไม่เข้ากับละคร เขาเลยเอามาให้เราร้อง
ถาม พอเพลงที่สอง จากนี้ไปจนนิรันดร์ ดังอีก เรารู้สึกยังไง
เอ๊ะ จิรากร : ตอนนั้นเราก็ได้ทำอัลบั้มเลยครับ รู้สึกดีใจ ซึ่งในอัลบั้มก็มีเพลงที่ดังอีก ใจกลางความรู้สึกดีๆ , ระหว่างเราสองคน ฯลฯ แต่กว่าเราจะโชคดี กว่าเราจะดัง เราอยู่ในวงการนานมาก เพราะคนอื่นเขาดังอายุยี่สิบกว่า แต่เรามาดังตอนสามสิบห้า มันทำงานยากนิดนึงเพราะตอนนี้เราต้องเลี้ยงลูกถึงสามคน เลยต้องทำหน้าที่สองอย่าง ทำงานด้วยเป็นคุณพ่อด้วย ตอนนี้คนโตอายุ 8 ขวบแล้วครับ
ถาม ถึงจะดังตอนอายุ 35 แล้ว แต่มีช่วงหนึ่งที่มีงานทุกวัน
เอ๊ะ จิรากร : ใช่ครับ เป็นช่วงที่เราประกวดเวทีหน้ากาก เปลี่ยนชีวิตเลยครับตอนนั้น เพราะเป็นซีซั่นแรกด้วย คนเลยให้ความสนใจมาก ซึ่งเรากับทีมงานไม่คิดว่าจะดัง ช่วงนั้นมีงานทุกวัน เรียกว่าเยอะมากจริงๆ ผมเข้าโรงพยาบาลไปสองรอบตอนนั้น อดหลับอดนอนเพราะงานเยอะ
ถาม ที่รับงานเยอะก็เพราะครอบครัว เห็นว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากตั้งแต่มีลูก
เอ๊ะ จิรากร : เปลี่ยนไปเยอะครับ มีลูกแต่ละคน เราจะประสบความสำเร็จอยู่เรื่อยๆ อย่างมีลูกคนแรกก็มีอัลบั้มใจกลางความรู้สึกดีๆ มีลูกคนที่สองก็มีรายการหน้ากาก ส่วนลูกคนที่สามยังโควิดอยู่เลยครับ แต่คงมีแค่สามคนพอแล้วครับ ปิดอู่เรียบร้อย
ถาม หลายคนอาจจะไม่รู้ในมุมของคุณพ่อ หัวหน้าครอบครัวของเรา
เอ๊ะ จิรากร : บางคนจะไม่คิดว่าผมจะทำหน้าที่คุณพ่อ แบบนึกไม่ออก อย่างวันนี้ผมทำหน้าที่รับส่งลูกไปโรงเรียน
ถาม การเลี้ยงลูกของ เอ๊ะ จิรากร กับ ภรรยา คือคนละแนวเลย
เอ๊ะ จิรากร : ภรรยาเขาจะดุครับ ส่วนเราตามใจลูก ใจดีมาก
ถาม แต่ถึงจะทำหน้าที่คุณพ่อ เราก็ยังจะทำเพลงต่อไปใช่ไหม
เอ๊ะ จิรากร : ยังคงทำเพลงต่อครับ เป็นแนว POP ROCK อย่างเพลงที่เพิ่งปล่อยออกมา โลกอิจฉา ก็ได้พี่ต่อ อดีตมือกลองวง SILLY FOOLS มาตีให้ครับ
ถาม แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาไม่ได้หยุดอยู่บ้านเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว เปิดร้านอาหารขึ้นมาด้วยชื่อว่า Prawn Hub by กินกับกา เห็นว่าเริ่มต้นจากน้ำจิ้มซีฟู้ด เพราะน้ำจิ้มอร่อยมาก เลยต้องหาอย่างอื่นมาจิ้มกับน้ำจิ้ม
เอ๊ะ จิรากร : เพราะเราชอบกินอาหารทะเล เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการทำน้ำจิ้มครับ ที่ร้านเราก็จะมี กุ้งเผา กุ้งแช่น้ำปลา เราเป็นคนเผากุ้งเอง ทำเองหมดเลยทุกอย่าง
ถาม น้ำจิ้มของเราที่ว่าเด็ด มีสูตรพิเศษที่กว่าอร่อยกว่าคนอื่นยังไง
เอ๊ะ จิรากร : ผมว่าเป็นเพราะสัดส่วนครับ จะมีพริกขี้หนู แล้วมันจะมีส่วนผสมพิเศษที่บอกไม่ได้ครับ อันนี้ที่เป็นทีเด็ดที่ผสมอยู่ในน้ำจิ้มเลย อีกอย่างน้ำจิ้มของเราจะไม่ทำเผ็ดโดด เพราะถ้าเผ็ดมากๆ กว่าจะกินกุ้งหมดกล่อง ก็จะกลายเป็นทานไม่หมดเพราะอิ่มน้ำ
เอ๊ะ จิรากร : สูตรที่นำมา คือสูตรของคุณแม่ของเพื่อนครับ เราก็ไปให้น้องๆ ช่วยสอนเรา เพราะเราชอบทำอาหาร เราเลยเรียนรู้ที่จะทำ ถามว่าอร่อยไหม อร่อยในแบบของเราแล้วกัน ส่วนชื่อร้าน Prawn Hub มาทีหลังเลยครับ เพราะตอนแรกผมมีเพจ กินกับกา อยู่แล้ว เรามาได้กุ้งเพิ่มขึ้นมา เลยเป็นที่มาของ Prawn Hub แต่จริงๆ กินกับกา ก็จะมีหอยนางรม ลูกชิ้นปลาครับ เราไม่มีหน้าร้านครับ ของทางร้านเราต้องสั่งข้ามวันครับ เพราะเราอยากให้ทุกคนทานของสดๆ ต้องโทรสั่งล่วงหน้า 1 วัน สามารถสั่งได้ที่เพจ กินกับกา ได้เลยครับ
Advertisement