เป็นนักร้องเสียงดีที่มีเพลงฮิตติดหู ทั้ง "หัวใจมักง่าย" และ "กรุณาฟังให้จบ" ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงหนึ่ง แต่อยู่ๆ "แช่ม แช่มรัมย์" หรือ นิวัฒน์ แช่มรัมย์ ก็ห่างหายจากวงการเพลงไปหลายปี ไม่มีเพลงใหม่มาฝากแฟนๆ สักที มีแต่เอาอินทผลัมทั้งแบบผลสดและแบบแปรรูปมาฝากพิธีกรในรายการ ต้มยำอมรินทร์ จริงจังขนาดนี้ เลยเป็นประเด็นขึ้นมาว่าพี่แช่มทิ้งไมค์ไปเป็นชาวสวนซะแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวสองพันปี "ตั๊ก มยุรา" เผยเคล็ดลับความสวยคงกระพัน
- "ชมพู ฟรุตตี้" เผยเส้นทางชีวิตจากศูนย์ จนมาเป็นนักปั้นมือทองของวงการเพลงไทย
- “ปุ๊ ปิยะมาศ” อดีตนางเอกตลกร้อยล้านกับความสุขในวัยเกษียณ
- เจ้าของฉายานักร้องจังหวะนรก "เอ๊ะ จิรากร" ต้องสู้ในวงการเพลงถึง 11 ปี กว่าจะมีเพลงดัง!!
- "ต้อม ณหทัย" เล่านาทีเฉียดตายถึง 2 ครั้ง ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้พิการนับปี!
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ทำไมอยู่ๆ หันมาทำสวน ทำไร่ ปลูกอินทผลัม
แช่ม : ผลผลิตออกเป็นปีที่ 2 อินทผาลัม ชารีน่า มาร์ติน อยู่ที่โคราช
ถาม ตั้งชื่อสวนเป็นชื่อของลูก
แช่ม : ใช่ครับ บังเอิญว่าปีนี้เข้าสู่ช่วงของโควิดพอดี เด็กๆ ก็ได้อยู่ที่บ้าน เรียนออนไลน์ แล้วทีนี้เด็กๆ เนี่ย จะไม่ค่อยสนใจกินอะโวคาโดหรือผลไม้พวกนี้ครับ ก็เลยมีแนวคิดว่า เราควรที่จะมาแปรรูปให้เด็กๆ กินง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม คุกกี้ แยมหรืออะไรพวกนี้ครับ อินทผลัมในบ้านเราปีนี้ค่อนข้างที่จะเยอะเหมือนกัน เรียกว่าล้นตลาด จากราคาที่สูง ปีนี้ราคาแข่งขันกัน
ถาม เราไม่ค่อยคุ้นเคยว่าอินทผลัมมันมาจากประเทศไทย
พี่แช่ม : แต่ก่อนบ้านเราจะนำเข้ามา กินแบบผลแห้งกันซะส่วนมาก แต่ว่าทีนี้บ้านเรามีการทดลองปลูกแล้วก็ได้ผล สำหรับพันธุ์บาร์ฮีทานสด ผลไม้นี้มีประโยชน์มาก ราคาค่อนข้างสูงเพราะราคาอิงจากต่างประเทศอยู่แล้ว ทีนี้เราก็เลยมีแนวคิดในเรื่องของน้ำตาลดีในตัวอินทผลัม แฟนเขามีความถนัดเพราะทำร้านอาหารอยู่ที่ต่างประเทศอยู่แล้ว ไอศกรีมก็จะมีอินทผลัมกับอะโวคาโด คือผลไม้ทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นผลไม้ชั้นดี มีไขมันชั้นดี แล้วก็ไม่มีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลดีในอินทผลัมมีประโยชน์เยอะมาก ให้ความสดชื่น
ถาม ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงโควิด? เริ่มต้นทำ แล้วทำเป็นเลยหรอ
แช่ม : ใช่ครับ ช่วงกรกฎาคม เราเริ่มต้นทำ พอดีแฟนได้โทรปรึกษาคุณลุงกับคุณป้าที่สวีเดนก่อนว่าน้ำผลไม้เริ่มต้นทำอย่างไร? เราก็เข้าไปดูคลิปแล้วก็เลยทดลองทำกัน เด็กก็มาช่วยกันปอก เอาเม็ดออก เริ่มต้นก็ปรับปรุงรสชาติเล็กน้อย พอดีได้ผู้ใหญ่จากทางเกษตรเขาแนะนำ
ถาม ทั้งหมดนี้มันมีชื่อผลิตภัณฑ์ไหม
แช่ม : ใช้ แช่ม แช่มรัมย์ เลย แช่ม แช่มรัมย์ไอศกรีม แช่ม แช่มรัมย์คุกกี้ แช่ม แช่มรัมย์แยม จำง่ายเพราะว่าเราเป็นนักร้อง โลโก้เห็นอยู่แล้วว่าเป็นนักร้อง
ถาม พี่แช่มทำไว้ เพื่อมีธุรกิจให้กับลูกๆ เลยไหม
แช่ม : มันเป็นผลผลิตของเขาเอง ที่เราตั้งชื่อให้กับลูก 2 คน แล้วผมอยากให้เขาเนี่ย ได้เริ่มต้นทำ ได้เรียนรู้จากผลผลิตของเขา คือให้เขาได้มีวิชาติดตัว ในอนาคตเขาจะได้รู้ว่าการทำน้ำเป็นแบบไหน การทำคุกกี้ เราก็จะสอนเคล็ดลับ เหมือนกับสูตรเอาไว้ให้เขา
ถาม คนไม่รู้ว่าพี่แช่มเคยทำพวกสวนมาก่อน เขาคิดว่าตกงาน ไม่ค่อยมีงาน งานหด ก็เลยต้องไปเป็นเกษตรกร หรือรู้สึกว่าเราเอาท์แล้วหรือเปล่า
แช่ม : ทัวร์คอนเสิร์ตยังมีตลอดทุกปี แค่ในช่วงของโลกโซเชียลที่มีศิลปินเกิดใหม่ขึ้นมาตามโลกเชียล แบบว่านักร้องประกวด นักร้องที่เกิดมาจาก YouTube มันก็เยอะนะ เราโชคดีที่มีความเป็นอมตะ คือนักร้องสมัยก่อนเนี่ย ไม่ว่าจะเป็น พี่หนุ่ย ไมโคร ไม่ว่าจะเป็นใครต่อใครที่เป็นศิลปินในยุคก่อนเนี่ย เพลงเขา ตัวตนเขา เนื้อเพลงหรือเนื้อหาเพลง มันยังมีความเป็นอมตะ
ถาม ที่สำคัญก็คือเขามีเพลงฮิตซึ่งเป็นอมตะเหมือนกัน มันเป็นเหมือนเพลงลายเซ็น เพลง signature ของเขา อย่างเช่น หัวใจมักง่าย หรือ กรุณาฟังให้จบ โดยเฉพาะกรุณาฟังให้จบ
แช่ม : มันเป็นเพลงแรกที่ทำลายสถิติยอดวิวใน YouTube ของประเทศไทย ซึ่งแต่ก่อนเนี่ย เพลงบ้านเรา ดังสุดก็น่าจะเป็นเพลงพี่เบิร์ดที่มียอดวิว 12 ล้านวิว แล้วเพลงนี้มันทำลายสถิติมาถึง 15 ล้าน ยาวไปถึง 60 ล้าน
ถาม มันจะถูกเปิดตามคลื่นวิทยุ เขามีการสำรวจและก็รวมสถิติทั้งประเทศในเชิงวิทยุ เขาจะมีคำว่าสปินส์ สัปดาห์นี้มีกี่สปินส์ มันจะขึ้นมาเลยว่าเพลงนี้ถูกเปิดทั้งหมดในทุกคลื่นมากแค่ไหน
แช่ม : กรุณาฟังให้จบเป็นเพลงแรกที่ intensive Watch มอบรางวัลให้ เพลงกรุณาฟังให้จบ เป็นอัลบั้มชุดที่ 8 แล้วอัลบั้มชุดที่ 7 ที่ 6 ที่ 5 ที่ 4 เนี่ย มันก็ไม่ได้ประสบผลความสำเร็จไม่มีเพลงดังมานานแล้ว เด็กยุคใหม่ๆ ตอนนั้นน่าจะไม่รู้จักแช่ม แต่แช่มก็ไปเล่น 7 ประจัญบาน 2-3 ปีช่วงนั้น ช่วงอัลบั้มช่วงนั้น ไม่มีเพลงที่แบบโดดเด่นขึ้นมาเลย จากหัวใจมักง่าย อัลบั้มชุดที่ 1 แล้วก็มาแบบเป็น 10 กว่าปี
ถาม แล้วพอมาเล่นหนัง 7 ประจัญบาน ก็คืออยู่กับหนังยาวเลย ตอนนั้นงงๆ ไหม ว่าจะไปทางไหนต่อ
แช่ม : มันเกิดอาการเคว้ง พอมันไปภาคแรกแล้ว คือยอมรับว่าที่ได้ไปเล่นเจ็ดประจัญบานเพราะหัวใจมักง่าย ตอนนั้นยังไม่มีกรุณาฟังให้จบ ผู้กำกับไปนั่งเขียนบท นั่งนึกเนื้ออยู่ เห็นมิวสิควีดีโอในร้านคาราโอเกะ “เฮ้ย...อยากได้ไอ้นี่แหละ มาเล่นเจ็ดประจัญบาน” พอเราไปเล่นเจ็ดประจัญบาน ภาคแรกมันประสบความสำเร็จมาก เกือบทะลุ 100 ล้านนะครับ พอปีถัดมาก็เริ่มเตรียมตัวกันอีก ก็ไปลุ่มหลงอยู่พักนึง แต่มันก็ต้องเล่นนะครับ ใช้เวลา 3 ปีกับ 3 ปีกับหนัง
ถาม ทิ้งไมค์เลยไหมตอนนั้น
แช่ม : ทิ้งไมค์ ไม่มีคอนเสิร์ต ไม่ค่อยได้ไปคอนเสิร์ต เรามานั่งทบทวน เวลาที่เราเดินออกไปตลาด ไปห้างหรือว่ามีคนรู้จักเนี่ย คนรู้จักแช่ม คนไม่ได้รู้จักไอ้กล้าตะลุมพุก มันน้อยมาก เพราะเราไม่ได้เป็นคนเกิดมาจากหนัง เราก็เลยนั่งทบทวน ว่าเราต้องกลับมาทำเพลงให้ประสบความสำเร็จให้ได้ แต่พอมากางตารางปุ๊บ เราช้าไปแล้ว เพลงทุกวันนี้ มันเป็นอะไรเนี่ย มันเยอะแยะไปหมดเลย มันอีกยุคหนึ่งแล้ว ที่นี้บังเอิญว่าความที่เราไม่ท้อ เราไม่ถอย เราหาวิธีจนเจอ คือเราคิดเปรียบกับตัวเองว่าเราเป็นคนปรุงอาหาร เป็นเชฟคนหนึ่ง เราเคยทำกะเพราอร่อย แต่วันนี้ทำไมกะเพราจานเดิมทุกวันนี้ เห็นไหมกะเพราขายได้ เป็นกะเพราถาด ใหญ่ขึ้น หน้าตามันดูน่ากินก็แค่นั้นเอง ปรับให้มันสู่ยุคของคนทุกวันนี้
ถาม จะเลิกจะหยุดไหม ท้อไหม หรือว่าเราวางมือวางไมค์ หลีกทางให้คนรุ่นใหม่
แช่ม : ผมยังคิดว่าคนรุ่นใหม่ เขาก็ยังมีเราเป็นแบบอย่าง ฉะนั้นในเมื่อเรายังมีแรง เรายังมีความคิด เรายังมีกำลัง เรายังมีพลังที่ยังทำได้ ผมก็ยังต้องหาต่อไป ในวันนี้เคยประสบสำเร็จกับกรุณาฟังให้จบ เดี๋ยวมันก็ต้องมีเพลงที่มันเป็นมิติใหม่อีก
ถาม ไม่คิดวางไมค์ แต่ก็ไม่คิดให้ลูกๆ ชารีน่า และ มาร์ติน เข้าวงการเจริญรอยตามตัวเองเช่นเดียวกันเพราะอะไร
แช่ม : ชารีน่า 14 ครับ มาติน 10 ขวบครับ อยากให้เขาอยู่ตามธรรมชาติ เราเองเป็นพ่อแม่ก็ต้องเรียนรู้ว่าเด็กในช่วงนี้ต้องการอะไร ผมคิดว่าในการที่จะให้เขาไปอยู่ในวงการบันเทิง ความรับผิดชอบมันสูง เขาอยากจะทำอะไร เราจะคอยประคับประคองดูว่านี่สิ สิ่งที่เขาถนัด ลูกนักร้องอาจจะไม่ใช่นักร้องก็ได้ เพียงแค่ว่าวันนี้ผมฝึกลูกให้เขาได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ แล้วให้เขารู้จักความสำเร็จ หัดทอดไข่เอง ตุ๋นไข่เอง ปลูกต้นไม้ เราก็ต้องบอกด้วยว่ามันคือปลายทางมันคืออะไร โตขึ้นมามันเป็นอะไร
Advertisement