เป็นพ่อบ้านที่ขึ้นชื่อว่ารักครอบครัวเป็นที่สุดอีกคน สำหรับนักแสดงอารมณ์ดี "นุ้ย เชิญยิ้ม" ที่ได้มาโชว์ลูกคอร้องเพลงใหม่ล่าสุด "รอน้องกลับมา" ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ พร้อมนั่งพูดคุยอัปเดตผลงานเพลงและค่ายที่เป็นความฝันของตัวเอง และเผยถึงความรู้สึกผิดที่ได้ก่อ จนทำให้เสาบ้านร้าวในช่วงเวลาที่ผ่านมาเพราะความอารมณ์ร้อนของตัวเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สร้างพลังใจดีๆ กับ "คริสโตเฟอร์ เบญจกุล" ผู้ชายที่ไม่เคยท้อแท้
- "เจี๊ยบ เชิญยิ้ม" เผาหมดเปลือกเรื่องภรรยาจอมบงการ!!
- กรุณาฟังให้จบ! "แช่ม แช่มรัมย์" ผุดธุรกิจแปรรูปอินทผลัม-อะโวคาโด แต่ยังไม่คิดทิ้งไมค์!
- สาวสองพันปี "ตั๊ก มยุรา" เผยเคล็ดลับความสวยคงกระพัน
- "ชมพู ฟรุตตี้" เผยเส้นทางชีวิตจากศูนย์ จนมาเป็นนักปั้นมือทองของวงการเพลงไทย
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
นุ้ย เชิญยิ้ม : ตอนแรกคือมีแค่เนื้อเพลงมาก่อน ยังไม่ได้มีชื่อ ได้ชื่อเพลง รอน้องกลับมา ทีหลังจากที่เราทำเนื้อเพลงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเนื้อหาของเพลงก็ประมาณว่ารอน้องในหนองในบึง รอเธออยู่นะ มีกลิ่นอายลูกทุ่งอยู่ครับ
ถาม พี่ตั๊กมาออกรายการบอกว่านุ้ยชอบร้องคาราโอเกะมาก ร้องได้ทั้งวัน
นุ้ย เชิญยิ้ม : เราก็บอกเขาว่าถ้าคุณไม่ให้เราร้องที่บ้าน หรือจะให้เราไปเปิดคาราโอเกะร้องที่อื่น เขาก็บอกว่าร้องที่บ้านเถอะ เราก็ร้องตั้งแต่เช้า ร้องแล้วก็ไลฟ์สดด้วย ครั้งหนึ่งก็ 2-3 ชั่วโมง คนดูต้องไม่เกิน 20 คน แล้วทีนี้ไอ้แจ๊สแกล้งเรา แชร์ที่เราไลฟ์ไปแล้ว มันมีแต่เกรียนๆ ก็เข้ามาคอมเมนท์แซวเราเต็มไปหมด ไม่ได้มีขอเพลงมาเลย หลังๆ เรากำหนดไว้เลยไม่เกิน 20 คน ถ้าเกิน 30 ผมปิดไลฟ์เลย เราอยากให้คนที่เขาอยากฟังเพลงจริงๆ เข้ามาฟังในไลฟ์ แต่ถ้าถามโน่นนี่ไม่ต้องเลย ใครถามเพลงอะไรมา เราก็สามารถตอบได้หมด สายยันต์ดังปีไหน เราก็ตอบได้ ต้องลูกทุ่งเท่านั้น หรือบางวันอาจจะเป็นเพื่อชีวิตบ้าง
ถาม อยากเป็นนักร้องเหรอ
นุ้ย เชิญยิ้ม : ผมอยู่วงดนตรีมาตั้งแต่อายุ 13 เป็นเด็กเก็บของ ตั้งของ พอรถขนของมาถึง ผมก็เตรียมขนของเอามาตั้งบนเวที แล้วก็เก็บของขึ้นรถ ชอบร้องเพลงตั้งแต่ตอนนั้น แต่เราได้เล่นตลก
ถาม เพราะรักการร้องเพลงมาก เลยเปิดค่ายเพลง
นุ้ย เชิญยิ้ม : ใช่ครับ ชื่อว่าลีลาเรคคอร์ด รายได้ไม่มี แต่รายจ่ายถล่มถลายเลย ศิลปินท่านแรกก็ทำรายจ่ายถล่มเลย แล้วปิดไม่ได้ด้วย เพราะผมทำสัญญา 200 กว่าปี ผมเคยออกอัลบั้มแล้ว อัลบั้มแรกที่ทำคืออย่าบอกใครนะ คือจะบอกว่าอัลบั้มนั้นทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้เลย ทำมา 12 ปีแล้ว ในอัลบั้ม 12 ปี แล้วเงียบทุกเพลง (หัวเราะ)
ถาม นอกเหนือจากเปิดค่ายเพลงแล้ว ยังทำหนังอีกต่างหาก เป็นยังไงบ้างในการลงทุน
นุ้ย เชิญยิ้ม : หนังใหญ่มีทุนการทำหนังอยู่ 4 ล้าน เราขอให้เพื่อน พี่ น้อง ในวงการตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมาช่วยกัน รวมถึงภรรยาของผมด้วย ตอนนั้นให้เขามาเล่นรับบทเป็นยาย ตอนแรกว่าจะให้เขาเข้าสักฉากสองฉาก แต่เล่นยาวเลย มีบู๊ด้วย แต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เราให้คนมาแสดงแทนตรงนั้น แต่เพราะเขาต้องรับบทเป็นยาย ต้องแต่งหน้าเยอะ แล้วตั๊กเขาเป็นคนที่ห่วงหน้ามาก ต้องทำเอฟเฟคที่หน้าเพื่อให้ดูแก่ แล้วต้องทากาวทั้งหน้า หน้าเข้าผื่นขึ้นเต็มหน้า เขานั่งร้องไห้เลย เราก็สงสารเขาเลยตอนนั้น แต่เพราะเล่นไปแล้ว ก็เล่นให้จบแล้วกัน ไม่ได้ค่าตัวด้วยนะครับ (หัวเราะ) เราก็รักษาหน้าให้เขา แต่เงินที่ลงทุนทำหนังไปมันก็เข้าเนื้อไปเกือบล้าน เราก็มีของเอาไปขาย ไปกู้เขามาอีก ภรรยารู้ก็ผ่านมา 2 ปีแล้วครับ คือที่กู้มาเอาไปให้ตั๊ก เขาจะได้ภูมิใจว่าเราทำหนังเราประสบความสำเร็จนะ แต่สุดท้ายคือเราหมุนเงินไม่ทัน เราก็เลยต้องบอกเขาตรงๆ ว่าแม่ พ่อไปกู้เงินมานะ ทองอะไรพ่อขายไปหมดเลยนะ เขาก็ถามว่าขายไปทำไม เราก็บอกว่าเอาไปทำหนัง เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ เพราะโกรธมาก แต่เขาก็โกรธไม่นานก็หายเราก็อธิบายให้เขาฟังว่าเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง เขาก็เข้าใจ เราคงไม่ทำหนังอีกแล้วในชีวิตนี้ หนังที่ทำตอนนั้นชื่อเรื่องว่า ยายสั่งมาใหญ่
ถาม แต่นุ้ยกับตั๊กรักกันมาก ไปทำงานกลับบ้านมา เหนื่อยขนาดไหนก็ต้องเข้าครัวทำกับข้าวให้สามีทาน
นุ้ย เชิญยิ้ม : ไม่ต้องก็ได้นะ ขนาดไข่น้ำที่ว่าทำง่ายๆ แล้วยังไม่ได้เลย เราก็บอกเขาไปตามตรงเลย เพราะวันนั้นที่เขาทำให้เราทานแล้วเขาถามว่าอร่อยไหม เราก็บอกว่าเอาความจริงเลยนะ ไม่อร่อย (หัวเราะ) เขาก็บอกว่าดีแล้วที่พูดแบบนี้ เพราะถ้าเราบอกว่า แม่อร่อยสุดยอด เดี๋ยวเขาทำตายเลยทีนี้
ถาม ถึงจะรักกันมากขนาดไหน แต่ก็มีทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลย เรื่องมันเกิดจากอะไร
นุ้ย เชิญยิ้ม : มันเกิดจากการสั่งกาแฟ เราสั่งให้แม่บ้านที่บ้านเขาชงกาแฟไปแล้ว ทีนี้ ตั๊ก เขาก็เดินมาสั่งอีกเราก็บอกตั๊กว่าพ่อสั่งให้เรียบร้อยแล้ว มันไม่มีสาระที่จะมาทะเลาะอะไรกันเลย แต่วันนั้นเราต้องขับรถไปทำงานด้วยกัน เราเลยขับเร็ว 130 แล้วเหยียบเบรกเขาก็หงายหน้า หงายหลัง เราตั้งใจขับแบบนั้นเลย พอเข้าปั๊มจะไปเติมน้ำมัน เขาเปิดประตูจะหนีออก ผมล็อคคอเขาเลยไม่ให้ไปความวุ่นวายทั้งหมดเกิดในปั๊ม เขาก็ร้องว่าช่วยด้วยๆ เขาก็ถามว่าพ่อมาทำกับแม่แบบนี้ทำไม เราก็บอกเขาว่าพ่อสั่งกาแฟแล้วแม่มาสั่งซ้ำ ไม่ให้เกียรติกันเลย แล้วเราก็ปรับความเข้าใจกันในปั๊มสัก 15 นาที เราเปิดอกคุยกัน
นุ้ย เชิญยิ้ม : คนเรามันก็มีเรื่องบ้าง ปากเสียงต้องมี ทะเลาะกัน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น เราเข้าใจว่าเราผิด ต้องบอกว่าผมตอนนั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนที่อารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย มันคือนิสัยเลย สะสมความเอาแต่ใจตัวเองมาจนถึงเมื่อปี 62 เอานิสัยไม่ดีของตัวเองไปทะเลาะกับเขาอีกที่เพชรบูรณ์ อีก 1 กิโลถึงวัดผาซ่อนแก้วแล้ว แต่รถติดมากเพราะเป็นเทศกาล รถติดมาก เราก็หงุดหงิดมาก เราตะโกนเลย กลับ!!! ในรถมีเพื่อนแม่ แม่ ทั้งรถคือเงียบทั้งคัน ก็กลับมาที่พิษณุโลก พอถึงที่บ้านแม่ ด่าเราไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีกเลย แต่ตั้งแต่วันนั้นมา ทำให้เราสำนึกรู้สึกตัวเองเลย ทุกสิ่งทุกอย่างพังเพราะอารมณ์เราหมดเลย พอเราสำนึกได้เรากลับไปขอโทษแม่ยาย เข้าไปขมา แต่เขาไม่ยอมคุยกับเราเลย แต่ตอนวันเกิดเราเขาก็ไลน์มาบอกว่า ขอให้ลูกมีความสุขมากๆนะในวันเกิดปีนี้ ขอให้ครอบครัวมีความสุข และลูกมีหน้าที่การงานดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป แม่ขออวยพรให้ลูกนะ และอย่ากวนส้น_นแม่อีก แต่ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่เราทำวันนั้นคือ ยังไม่ได้เจอหน้า แม่ยายเลยเพราะเราไม่ได้กลับที่พิษณุโลก แต่ถ้าได้กลับไปเราก็ตั้งใจที่จะไปขมาอีกครั้งแบบจริงจัง แต่ตอนนี้แม่ก็ยังโทรมาอยู่เพราะแม่เขาจะจัดกฐินในเดือนตุลาคมนี้
ถาม ก่อนที่จะกลับไปพิษณุโลก อยากจะบอกอะไรแม่ยายไหม ในสิ่งที่เราทำผิดพลาดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
นุ้ย เชิญยิ้ม : ขอบคุณแม่มากๆ ขอบคุณแม่อ้อย ที่ให้ความรักเมตตานุ้ยเหมือนลูกแท้ๆ ของแม่เลย ตั้งแต่คบกับตั๊ก ตั้งแต่แต่งงานกัน จนปัจจุบันนี้ แม่ก็ยังเมตตาผมอยู่ สิ่งไหนที่ผมทำไม่ดี สิ่งไหนที่ผมทำให้แม่ร้องไห้ ทำให้แม่ไม่สบายใจ ผมขอโทษแม่ตรงนี้ด้วยนะครับ เดี๋ยวถ้าผมขึ้นไปที่พิษณุโลก เมื่อไหร่ผมจะไปกราบขอโทษแม่อีกครั้งนะครับ รักแม่นะครับ
Advertisement