การศัลยกรรมเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในยุคนี้ "แหม่ม วิชุดา พินดั้ม" นางร้ายสายแซ่บเปิดใจ ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ แบบหมดเปลือก ถึงการบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีใต้ถึง 3 รอบ เจ้าตัวแฮปปี้กับหน้าใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมสุด โต้ไม่ได้เสพติดศัลยกรรม พร้อมเล่าถึงประสบการณ์มีสัมผัสพิเศษกับสิ่งลี้ลับจนโดนทำของใส่ รวมถึงเปิดเรื่องหัวใจที่คบกับแฟนหนุ่มมา 10 ปี แต่ไม่เคยคิดแต่งงาน ไม่ขอมีทายาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แม่ผ่องศรี วรนุช" จากเด็กรับใช้คณะละคร สู่นักร้องลูกทุ่งระดับตำนาน
- "จตุรงค์" เปิดใจไม่ไปอยู่บ้านใหม่ "ใบเฟิร์น" เพราะน้อยใจ
- "พชร์ อานนท์" โต้ป่วย! ผอมเพรียวเพราะตั้งใจควบคุมน้ำหนัก
- "อั๋น ภูวนาท" อัปเดตพัฒนาการ "เบบี้พอล" หลังเข้าโรงเรียน แฮปปี้ลูกชายมีพัฒนาการที่ดี
- "สุเทพ สีใส" ภูมิใจลูกสาวรักการเรียน พร้อมกับสารภาพเคยน้อยใจที่ลูกสาวไม่ค่อยคุยด้วย
- "พี่อ้อย-พี่ฉอด" กับประสบการณ์การเป็น "ศิราณีหัวใจ" ถึง 15 ปี
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ทำไมถึงตัดสินใจบินไปทำหน้าใหม่
แหม่ม วิชุดา : เราจะใช้แอพถ่ายรูปตลอดเวลา เป็นความเคยชิน ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้หน้าแย่อะไรเลย แต่มันช่วยเรื่องแสง พอมาวันนึงไม่ได้ใช้แอพถ่ายก็ตกใจ เพราะว่ามันชัดมาก หน้าจริงเราขนาดนี้เลยเหรอ มันห้อยก่อนวัยอันควรมากๆ สำหรับหน้าเรา เพราะเพื่อนในวัยเดียวกันก็ไม่ได้ห้อยอะไรขนาดนี้ ตอนนั้นเราอายุ 41 แต่หน้า 50 เลย เราเป็นคนไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างแรง ไม่ทำอะไรเลย ไม่ทาครีมเป็นปกติ พอเราทำงานถ่ายงานเสร็จ กลับบ้านล้างหน้า นอนเลย ไม่ทาครีม ไม่เลเซอร์ เพราะเจ็บ เราไม่ชอบ แล้วการที่เราไม่ดูแลตัวเองคือมีผลจริงๆ
ถาม จากการที่ไม่ทาครีม ไม่ได้ดูแลตัวเอง เลยต้องบินไปทำหน้าไกลถึงเกาหลีเลย
แหม่ม วิชุดา : ก่อนหน้าที่เราจะไปเกาหลี เคยถูกหมอที่เมืองไทยฉีดไขมันเข้าใต้ตา แล้วเขาฉีดผิด เกิดข้อผิดพลาด เราเลยหลอนตั้งแต่ตอนนั้น ไม่กล้าทำอีก เพราะถ้าเกิดพลาดอีกจะทำยังไง
ถาม เพราะเหตุผลนี้เลยตัดสินใจไปทำที่เกาหลี ราคาแพงมาก
แหม่ม วิชุดา : ใช่ค่ะ การที่เราไปทำหน้าแต่ละรอบค่อนข้างแพง แต่คุ้ม
ถาม แล้วกลัวไหมที่ไปทำแล้วจะเป็นคนอื่นไปเลย
แหม่ม วิชุดา : ก่อนที่เราจะไปทำ จะต้องปรึกษาก่อน เขาจะบอกเราได้หมด และห้ามเราด้วย เขาอยากให้เราทำทีละอย่าง สิ่งที่เราอยากทำ ถ้าหน้าเราเข้าที่แล้ว อาจจะไม่ต้องทำก็ได้
ถาม ติดการศัลยกรรมจริงไหม
แหม่ม วิชุดา : เราจะไม่เถียงเลย ถ้ามีคนบอกว่าเราเสพติดศัลยกรรม เพราะเราขี้เกียจเถียง แต่ถ้ามานั่งจับเข่าคุยกัน อยากจะบอกว่าทุกครั้งที่เราบินไป เขาไม่ได้ให้เราทำศัลยกรรมทุกรอบหรอก อันไหนที่เราทำแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้เราอีก แต่มันเป็นการบินไปทำผิวหน้า ผิวตัว
ถาม ความเจ็บในชีวิตที่เคยสัมผัสจากการทำศัลยกรรม ครั้งไหนที่ทำแล้วเจ็บมากที่สุด
แหม่ม วิชุดา : ตอนนั้นไปปลุกผมพร้อมกับดึงหน้า ปลุกผมคือกรีดข้างหลังมาทั้งแผงเลย แล้วเราไปดึงหน้า ทำให้เรานอนไม่ได้ มันเลยทำให้เราเจ็บตลอดเวลา แต่เราก็พยายามออกไปเดินนะคะ เพราะถ้าเดินจะหายเร็ว ก็เดินทั้งๆ ที่หน้าเราพันแผลอยู่นั่นเลย เพราะที่นั่นไม่มีใครสนใจใคร
ถาม ได้หน้าใหม่สวยใสเหมือนเข้าวงการใหม่ เลยขอย้อนไปก่อนเข้าวงการ ไม่ได้มาในบทนางร้ายเลยใช่ไหม
แหม่ม วิชุดา : ตอนแรกที่เราเข้ามาเป็นนางเอกก่อน อายุ 12 พอสักช่วงอายุ 17-18 ก็มีละครเรื่อง นางอาย เขาก็จะมีนางเอกสองคนมี จอย ศิริลักษณ์ กับ เบนซ์ เป็นนางเอก แล้วก็จะมีนางร้าย เราเป็นคนที่ได้รับบทนางร้ายในเรื่องนั้น โดยป้าแจ๋วเป็นคนคัดเลือก เพราะป้าแจ๋วเขาเคยเล่นละครเวทีกับเรา แต่ละครเวทีเราเล่นเป็นนางเอกนะ เรายังคิดอยู่เลยว่าป้าแจ๋วเห็นความร้ายในตัวเรายังไง ตอนแรกจะไม่รับแล้ว กลัวคนติดภาพ เดี๋ยวกลับมาเล่นเป็นนางเอกไม่ได้ ป้าแจ๋วเลยโทรศัพท์มาสั่งสอนนิดหน่อย ถ้าเธอเล่น เธอจะเลิฟบทนี้ และเธอจะค้นเจอตัวตนที่แท้จริงของเธอ เราก็เลยเล่น และก็ค้นพบตัวเอง เพราะเราความสุขมาก สนุกกับการเล่นละครทุกฉาก มีความเล่นลูก เล่นเสียง ทุกอย่างเลย
ถาม แถมยังเป็นนางร้ายสายฮา อันนี้ยากกว่าการเป็นนางร้ายไหม
แหม่ม วิชุดา : เราต้องเป็นตลกตลอดเวลา แต่ตัวจริงของเราไม่ได้เป็นคนตลกเลย เป็นคนเครียดมาก แต่เราเป็นคนคุยสนุก เวลาเราอยู่ต่อหน้าทุกคน เราจะต้องเป็นคนคุยสนุก มีแต่เรื่องสนุกมาคุยกัน มันก็เลยมีแต่ความครื้นเครง
ถาม เห็นสนุก มีความสุข มีชื่อเสียงในวงการ แต่ทำไมถึงจะอำลาวงการไป
แหม่ม วิชุดา : ตอนนั้น 19-20 เราก็จะติสต์หน่อย งานเยอะ เราก็รู้สึกว่าเราอยากเรียนหนังสือ เพราะตอนเด็กๆ เราเรียนสอบเทียบมาตลอด ไม่ได้เรียนปกติเหมือนคนอื่น ตอนนั้นคิดแค่ว่าฉันต้องไปต่างประเทศ เลยไปอยู่อเมริกา 6 เดือน แล้วอยู่ไม่ได้ เรารู้สึกว่าใช้ชีวิตอยู่ยากมากเรามาอยู่อะไรที่นี่ ก็เลยกลับมาอยู่เมืองไทยเหมือนเดิม รับงานเหมือนเดิม อยู่มาจน 30 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ครั้งนั้นเราก็ไม่คิดว่าจะอำลาวงการหรือไปจากวงการอีกเลย อยากทำงานทุกวัน แต่ก็มีไปบ้าง ไปเกาหลี แต่ไปไม่กี่วันก็กลับมา
ถาม แต่มีอีกเรื่องที่ไม่มีใครรู้ แหม่ม วิชุดา เป็นคนเห็นผีมาตั้งแต่เด็กและมีสัมผัสพิเศษ
แหม่ม วิชุดา : ใช่ค่ะ จำได้คือประมาณ 10 ขวบ มันมีหุ่นที่สำหรับไว้ใส่เสื้อผ้าอยู่ในบ้านเรา แล้วเราก็ตั้งชื่อเขาว่า ลินดา ก็พูดคุยเล่นกับเขา แล้วมีวันหนึ่งเรานอนหลับ เหมือนกับเราฝันว่าเราเดินเข้ามาในบ้านแล้วเดินผ่านลินดา เดินเข้าไปในห้อง แต่พอเข้าไปในห้องเราเห็นลินดานั่งคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วเราก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็รีบวิ่งออกไปดู เขาก็ยังอยู่ที่เดิม แต่เราได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากห้อง เหมือนมีคนกดโทรศัพท์อยู่ ทั้งๆ ที่ไม่มีคนอยู่ในห้อง เรากับลินดาก็ใช้ชีวิตด้วยกันในบ้านหลังนั้น มันก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลสำหรับเรื่องลินดา เพราะเวลาเพื่อนเรามาหาเราที่บ้าน เขาก็จะรู้สึกว่ามีคนเดินอยู่ในบ้าน จนเราต้องหักแขนหักขาลินดาออกแล้วเอาไปไว้ในห้องเก็บของ
แหม่ม วิชุดา : คนที่มีสัมผัสพิเศษจะเป็นคนที่ถูกทำของใส่ง่ายมาก เราเคยโดนทำของใส่ เพราะว่าคนที่ทำเขาอยากให้รักให้หลงเขา มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แคร์ความรู้สึกของเขาเยอะกว่าปกติ เราก็เลยบอกน้องเราว่า พี่ว่าพี่โดนของ เพราะสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราโดนเพราะเหมือนว่าเขาทำให้เราใส่ใจเขามากกว่าคนอื่น หัวใจเต้นจนอยู่ไม่ได้ ต้องไปหาเขา แล้วคือไม่ใช่แฟนเราไม่ใช่คนที่เราคบด้วย แล้วที่เราพิสูจน์ได้ว่าเขาทำของใส่ก็คือเพื่อนพาเราไปที่ที่หนึ่งแล้วเขาให้เรานั่ง แล้วก็ตั้งขาขึ้น แล้วก็ไหว้ แล้วคือพอพระสวดขาเราที่ตั้งก็เริ่มงอไม่ยอมตั้งเลย ทุกคนที่ไปแก้ของเป็นแบบนี้ทุกคนเลย แล้วพอไปแก้แล้วคือ ความรู้สึกกับที่เราหลงเขาคือหยีใส่เลย ที่ไปทำคือการไปตัดสัมผัส หลังจากที่เราไปทำ สิ่งที่เราเคยสัมผัสได้คือหายไปหมดเลย
ถาม ตัดสัมผัสพิเศษออกไป แต่ความสัมพันธ์กับคนรู้ใจยังเหมือนเดิม จริงๆ มีแฟนใช่ไหม
แหม่ม วิชุดา : มีแฟน เราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเลย ใช้ชีวิตปกตินะคะ สำหรับแฟนคนนี้ คบกันมาปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว
ถาม แล้วมีแพลนจะแต่งงาน มีลูกไหม
แหม่ม วิชุดา : เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีแรกแล้ว เรา 30 กว่าแล้วนะคะ เราไม่ชอบงานแต่งงาน ขนาดไปงานแต่งเรายังไม่ค่อยไปเลย ไม่อยากใส่ชุดสีขาว เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง แต่แฟนอยากแต่งงาน อยากมีลูก แต่เราเองที่ไม่ปกติ เราไม่ยอมแต่ง แต่ถ้าจะมีลูกเอา 10 ล้าน เดี๋ยวจะมีให้ เพราะเราต้องเลี้ยงลูกเอง ต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง มันมีข้อแม้เยอะ จะมีทำไม ซี่งเรื่องการแต่งงาน การมีลูก เราคุยกันตั้งแต่ก่อนที่เราคบกันเลย ซึ่งเขาก็ยอมรับในสิ่งที่เราตกลงกันมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมันเป็นความตั้งใจของเราเลยที่ว่าจะไม่แต่งงานและไม่มีลูก แต่สำหรับแฟนคนนี้ที่เขาอยู่กับเราได้เพราะเขายอมรับในสิ่งที่เราเป็น ทุกวันนี้เก็บเงินไว้เพื่อดูแลคุณแม่ ดูแลตัวเองยามแก่
ถาม เพราะต้องเก็บเงินมากมายไว้ดูแลตัวเอง จึงต้องรับงานเยอะและตอนนี้ยังทำน้ำพริกออกมาขายอีก
แหม่ม วิชุดา : ตอนนี้ขายน้ำพริกชื่อว่า จงสู้ น้ำพริกตัวนี้เกิดขึ้นตอนช่วงโควิด เพราะช่วงนั้นเรากินเยอะและรีวิวสินค้าที่เป็นอาหารเยอะมาก และเราเป็นคนชอบกินน้ำพริกมาก ไปทานน้ำพริกอันนี้แล้วเราชอบมาก เราเลยไปติดต่อให้เขาทำส่งมาให้เรา และอีกอันคือ หมูฝอย ขายดีมากเพราะทำส่งต่างประเทศด้วย เกาหลี อเมริกา สิงค์โปร์ ใครสนใจอยากลองชิมสามารถติดต่อได้ทาง Instagram jong_suu
Advertisement