โก๊ะตี๋ หายจากโควิดแล้ว กลับไปเก็บตัวอยู่บ้านสวน ล่าสุดออกมาเผยโมเมนต์ที่กำลังจะตาย รู้แล้วก่อนตาย “น้าค่อม” คิดอะไรอยู่ ร่ำไห้ถ้าเป็นลูกชาวนาคงไม่รอด ตนโชคดีที่ยังรอด แต่หลายคนไม่ได้โชคดี สัญญาว่าวันหนึ่งจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสังคม อยากทำให้คนไม่มีโอกาส ได้รับโอกาส
- โก๊ะตี๋ เผยซึ้งใจ ชมพู่ อารยา มิตรแท้ที่โผล่เข้ามาในเวลานาทีชีวิต แค่พูดชื่อน้ำตาก็ไหล
โดยเมื่อวานนี้ 12 ก.ค. 2564 โก๊ะตี๋ ออกมาไลฟ์สดทั้งน้ำตาว่า “ไลฟ์นี้อยากจะเป็นการขอบคุณ และพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นสักนิดหนึ่ง ขอบคุณทุกความห่วงใยและกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่หนูรู้ว่าใครรักเรา จริงๆ ไม่ได้อยากร้องไห้นะ ตอนนี้หนูหายแล้ว ขอบคุณกำลังใจจากวงการแคคตัส และที่ไม่รู้จักแต่ส่งข้อความมา ได้เห็นหมดแต่อาจไม่ได้ตอบ”
“ตอนนี้หายแล้วกลับมาเก็บตัวที่สวน ขั้นต่ำ 10 วัน ตามที่คุณหมอแนะนำ ไลฟ์นี้อยากขอบคุณผู้ใหญ่ รุ่นน้อง รุ่นพี่ เพื่อน บางคนห่างหายกันไปนาน 10 กว่าปี (ร้องไห้) พอรู้ว่าเราได้รับเชื้อโควิดก็ห่วงใย หนูได้รับรู้ว่าเวลาคนเราจะตายมีใครบ้างที่คิดถึงเรา มีใครบ้างที่นึกถึงเราในความทรงจำ”
“ขอบคุณอาต๋อย พี่ตุ๊ก รายการซูเปอร์เท็น พี่บอล ชมพู่ อารยา คือ พอพูดถึงย่า (ย่า คือการเรียกสั้นๆ ของชื่ออารยา) แล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง คือ ชมพู่ อารยา ต้องบอกว่าเขาเป็นคนที่เซนซิทีฟ หนูเคยร่วมงานกับชมพู่ สนิทกันตั้งแต่ชมพู่ยังไม่มีแฟน ยังไม่มีลูก พอมันรู้ว่าหนูติดโควิด มันก็พยายามจะโทรหาหนู ก็ได้คุยกัน มันก็บอกเดี๋ยวกูส่งยาจีนมาให้ เพราะมันมีคนที่เป็นแล้วกินยาจีน แว่บแรก หนูไม่ได้คิดว่า กูต้องหาย ต้องรอด แต่แว่บแรกที่ย่ามันโทรเข้ามา ถามว่า ชมพู่ อารยา เขาเป็นคนดัง เคยร่วมงานกัน เคยสนิทกัน แต่เขาเป็นคนดัง ล่าสุดเอาขนมไปให้เขาตอนท้อง แล้วก็ไม่เคยติดต่อกันอีกแล้ว ทั้งในไอจีทั้งเบอร์โทร พอตอนนี้ย่ามันโทรมาหาบอกว่า มึงเป็นไงบ้าง เดี๋ยวกูส่งยาจีนไปให้ ความรู้สึกเราบอกตรงๆ ว่า เราเป็นแค่ตลก กระจอกๆ คนหนึ่ง ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ชมพู่ อารยา ดารา รวย พูดตรงๆ วิถีชีวิตมันไม่ต้องมาใส่ใจอะไรเราก็ได้ ชมพู่ อารยา ไม่จำเป็นต้องมาสนใจตลกกระจอกๆ คนหนึ่ง แต่ด้วยความที่เราเคยไปทำงานคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดด้วยกัน เล่นหนังด้วยกันมาหลายเรื่อง ปรับสารทุกข์สุขดิบ วันหนึ่งเรารู้เลยว่าเวลาที่เราจะตาย ใครที่รักเราจริงๆ พี่ยอร์ช พี่โน้ต โทรมา แต่ละคนที่ไม่เคยเจอเป็น 10 ปี ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ดาราทุกคนจากใจ”
“เวลาเราจะตาย ในห้วงโมเมนต์วงเวียนชีวิต 50-50 เข้าด้ายเข้าเข็มระหว่าง รอดกับไม่รอด เรารู้เลยใครรักเรา พื้นฐานหนูไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบไปงาน ใครแต่ง งานรื่นเริงไม่ไป แต่งานศพไป แต่มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ส่งกำลังใจ ขอบคุณจริงๆ”
“หนูอย่างเดียวที่ห่วง คือ หนูห่วงแม่ โชคดีที่หนูเข้าไปหาแม่แต่ไม่ได้กอดแม่ รักษาระยะห่าง ถ้าใครรู้จักหนูดีจะรู้เลยว่าหนูเป็นคนที่โครตไม่ไปไหน แต่ทุกคนพลาดกันได้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ห่วงแม่มาก แต่มั่นใจไม่ได้กอดแม่ เวลาไปหาแม่ใส่แมสก์ 2 ชั้น บอกแม่ไม่ให้ไปไหน เพราะทุกวันนี้มันหนักมาก”
“หนูสัญญากับทุกๆ คน ก่อนที่หนูจะจากโลกนี้ไป หนูสัญญาว่าจะทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อคนไทย หนูไม่ได้พูดให้ดูดีนะ ไม่ต้องมาชื่นชมหนู หนูเคยคิดว่าบางคนที่เขาลำบาก กับครอบครัวของคนที่เขาสูญเสีย เรายังโชคดีที่อยู่ตรงนี้ ถ้าหนูเป็นลูกชาวนา เป็นคนจนๆ ที่ไม่มีโอกาสที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้ หนูเชื่อว่าหนูคงตาย หนูสัญญาตรงนี้ว่า วันหนึ่งหนูจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสังคม อยากทำให้คนไม่มีโอกาสได้รับโอกาส”
“อยากบอกทุกคนว่าต้องสู้ ต้องรอดไปด้วยกัน ยังมีความลำบากทุกหย่อมหญ้า ยังมีคนคอยความช่วยเหลือทุกๆ ที่ ขอให้ทุกคนดูไลฟ์อยู่ดูแลตัวเองดีๆ อย่าประมาทกับมัน”
“เราเกิดไม่ทันสงครามโลกครั้งที่สอง แต่นี่คือสงคราม โรคภัยไข้เจ็บที่เราต้องเจอกับมัน หวังว่าทุกคนคงจะผ่านไปได้ด้วยดี เราต้องรอดไปด้วยกัน ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียจากโรคภัยไข้เจ็บตรงนี้ หนูสัญญาว่าถ้าหนูมีความสามารถจะช่วยอะไรได้ หรือใครอยากให้ช่วยอะไรให้กับสังคมนี้ หนูอาจไม่มีเงินทองมากมาย แต่หนูมีกำลังกาย มีสมอง มีวิธีคิดถ้าเป็นประโยชน์กับสังคมยินดี”
“ชีวิตตลกกระจอกๆ คนหนึ่งยังมีค่า ยามที่จะตาย เชื่อไหม หนูนอนอยู่ในห้องคนเดียว หนูรู้เลยก่อนพี่ค่อมตายแกคิดอะไร รู้เลย ถึงบอกว่ามันโหดร้าย ทุกคนดูแลตัวเองดีๆ ถ้าแลกได้หนูไม่อยากให้มีการสูญเสียกับครอบครัวใครเลย ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราช่วยตัวเราเอง”
Advertisement