กระทั่งล่าสุดบนทวิตเตอร์ @mew_sirilapas ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางโซเชียลฯ ที่ หมิว สิริลภัส มักจะแชร์เรื่องราวพูดคุยกับแฟนคลับอยู่บ่อยๆ ได้มีการทวีตข้อความเกี่ยวกับอีกหนึ่งอาการป่วยที่แพทย์เพิ่งจะวินิจฉัยได้ นั่นก็คือโรค Alcoholic
"ยิ่งหา ยายิ่งเพิ่ม ล่าสุด หมอวินิจฉัยมาแล้วว่าพ่วงโรค alcoholic มาอีก 1 ไม่เป็นไร จะตั้งใจสู้กะแม่งซักตั้ง เริ่ม 9.9 จบ 10.10 จะไม่แตะเหล้า และ แอลกอฮอล์ทุกชนิด ยกเว้นสเปรย์และเจลแอลกอฮอล์ เก๊ากัวโควิดดด"
หลังจากที่ทวีตดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามารีทวีต ให้คำแนะนำ และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองกับ หมิว สิริลภัส อย่างล้นหลาม อีกทั้งยังขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าตัวอีกด้วย
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ติดต่อวิดีโอคอลกับ หมิว เจ้าตัวกล่าวว่า ตอนนี้คุณหมอกำลังปรับยาซึมเศร้า เพิ่มโดสขึ้น อาจจะมีส่งผลบ้าง คือเรื่อง มึนๆ เบลอๆ ทั้งวัน พอเราเล่าอาการให้คุณหมอฟัง คุณหมอวินิฉัยว่าว่า เป็นแอลกอฮอลิค เราก็เล่าให้คุณหมอฟังตลอดว่า เรามีการดื่มเหล้าตลอด หมอก็จะซักถามในแต่ละครั้งว่า ดื่มมากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่อย่างไร
เมื่อ 2 เดือนก่อนคุณหมอก็ลองให้เราทดสอบโดยการ หลับตาลงสักครู่หนึ่ง ปรากฏว่าเรามือสั่น คุณหมอก็ถามมาตลอดว่า พร้อมที่จะรักษาหรือยัง แต่พอล่าสุดเมื่อเจอคุณหมอวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมาก็เลยตัดสินใจเข้ารับการรักษา เพราะเราเริ่มได้รับผลกระทบต่อร่างกายมากขึ้น เช่น มือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้ , สูญเสียความทรงจำระยะสั้น เช่น เมื่อกี้จะไปทำอะไรนะลืมไปแล้ว
จุดเริ่มต้นของการใช้แอลกอฮอล์ เนื่องมาจากความชิวๆ ของตัวเราเอง ตั้งแต่ที่เราเรียนปริญญาโท เพราะหลังจากเรียนเสาร์ – อาทิตย์ เราจะกลับมาทบทวนบทเรียน ก็ซื้อไวน์กลับมาบ้าน เราจิบไวน์ไปด้วย แล้วก็นั่งทำสรุปบทเรียนไปด้วย กินทุกเสาร์ – อาทิตย์ พอเรียนจบมาก็เป็นช่วงโควิด นั่งดื่มไป ดูโซเชียลไปด้วย อ่านโซเชียลไปด้วย
ช่วงหลังๆมีปัญหาชีวิตมากขึ้น เรื่องความรัก เรื่องการงาน ส่งผลให้เราดื่มเหล้ามากขึ้น เรายอมรับว่า ตัดสินใจผิด ในการใช้แอลกอฮอล์แก้ปัญหา เหมือนพอเราดื่มเหล้าแล้วได้นั่งอยู่กับตัวเอง คิดทบทวนคุยกับตัวเอง มึนๆแล้วก็หลับไป เลยเป็นความเคยชินที่ต้องดื่มทุกวัน พอมันเกินลิมิต ก็ส่งผลต่อร่างกายได้ จนได้ฉายาของตัวเองว่า “แสงเดียวที่ฉันหิวคือแสงโสม” คำนี้เราไปพูดเล่นๆในกลุ่มบำบัด จนมีคนทักว่า คุณหมอเคยวินิจฉัยโรคให้หรือยัง
เรื่องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ อย่าเอาคำนี้มาล้อเล่น เราเลยตัดสินใจไปพบคุณหมอจริงจัง เพราะ เรากินเหล้าทุกวันเลย วันละครึ่งลิตรได้ ยิ่งวันไหนติดลม ก็หมดขวดก็มี และเรากินพร้อมกับที่ ยารักษาซึมเศร้าไปด้วย ตอนนี้ก็ปรึกษาแพทย์ รักษากับคุณหมอ เพราะ เราสำรวจร่างกายตลอด จะไม่ปล่อยให้แอลกอฮอล์มาทำร้ายร่างกายเรา เพราะมันเริ่มเกินเส้นไปแล้ว เลยเริ่มต้นการรักษา คุณหมอจะมียาที่รักษาอาการแทนเหล้า ความรู้สึกจะมึนๆเหมือนเรากินเหล้า แต่ไม่ทำให้เราติดเหมือนแอลกอฮอล์ เราจะมีอาการมึนๆ งงๆนิดหน่อย 2 วันแรกปวดหัวมากๆ ตัวสั่น หากเราหักดิบ
ตอนนี้ต้องลดปริมาณลงเพื่อให้ร่างการปรับตัว หมิว ขอบคุณๆในทุกกำลังใจ คือ หากเราจะเลิกเหล้า “ใจ” ต้องมาเป็นอันดับ 1 ยอมรับก่อนว่าเราติดเหล้า และจะรักษามัน เราต้องสำรวจร่างกายก่อนว่าเราอยู่ในระดับไหน ด้วยเพราะว่า เราเป็นโรคซึมเศร้าด้วย ต้องรู้เท่าทันอารมณ์ของเราด้วย ว่าเราเป็นอะไร ดิ่งไหม หรือรู้สึกอย่างไร
ตัวเราเองอาจใช้วิธีการแก้ปัญหาผิด ผิดที่ใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยการดื่มเหล้า แบบไม่รู้ลิมิต ไม่มีความยับยั้งให้มันอยู่ในขอบเขตที่ควรจะอยู่ ตอนนี้ก็พบแพทย์ทุกสัปดาห์ เดี๋ยวก็จะลดยาไปเรื่อยๆ ทุกครั้งจะนั่งมองนาฬิกาว่า เมื่อไหร่จะ 5 โมงเย็นน้า จะได้เริ่มกินเหล้า ตอนนี้ก็ไม่มองนาฬิกาแล้ว / มือสั่นน้อยลง ตอนนี้พยายามหาอะไรทำมากขึ้น เวลาไลฟ์สด ก็กินน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตร
อยากบอกว่า คนเราอาจจะก้าวพลาดกันได้ แต่เพียงแค่เรายอมรับมัน อย่างตอนที่เราเป็นซึมเศร้า
แล้วไม่กล้าบอกใครมันอึดอัดมากนะ เหมือนต้องแกล้งเป็นคนตลก สนุกสนานตลอดเวลา ในบางทีที่เราไม่ได้รู้สึกสนุก ต้องแกล้งบอกว่าเราสบายดี หัวเราะ แต่พอเราได้บอกทุกคนก็ทำให้หลายคนเข้าใจมากขึ้น เพราะบางทีเราก็อยากเงียบๆ อยากอยู่กับตัวเอง เป็นต้น หากวันหนึ่งเรารักษาหายจะเอาประสบการณ์ไปเล่าให้ทุกคนฟังเหมือนกัน เราเชื่อว่า หากหมิวเลิกได้ ทุกคนก็เลิกได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้ำเพชร ฏีญาร์ภา เสียใจมากที่สุด! หมึกยักษ์ตายเพราะฝีมือเพื่อน!
- ลือสะพัด ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กลับไปทำรายการครัวคุณต๋อย!
- CHANGE2561 คว้าตัว ไม้ วฤษฎิ์ ประกบคู่นางเอก ขวัญ อุษามณี ลงจอในละครเรื่อง "สามีเงินผ่อน"
Advertisement