แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนัดปิดแยกปทุมวัน ส่องไฟฉาย"เพื่อไทย"หาทางกลับให้เจอประชาธิปไตย
โดยได้ออกแถลงการณ์ระบุ เพื่อไทยกลับบ้าน ประชาธิปไตยเถอะ
หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ผลสรุปว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายแต่ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ เพราะเนื่องด้วยกลยุทธ์ของเผด็จการที่วางเหล่า สว. ไว้เป็นเครื่องมือขวางมติของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย โดยรัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างมาเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ
มิหนำซ้ำ พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอื่น ๆ เองก็ดันเริ่มไปเห็นดีเห็นงาม และมีแนวโน้มที่จะผสมพันธุ์กับพรรคการเมืองที่ฝักใฝ่รับใช้เผด็จการ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม แต่ผลลัพธ์ที่จะได้กลับมาคือผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงประสงค์ กล่าวคือการที่พรรคการเมืองที่เคยเป็นนั่งร้านเผด็จการ หรือกล่าวให้ถึงที่สุดคือพรรคพวกฝ่ายฝั่งเผด็จการจะได้กลับมาอำนาจในการบริหารประเทศอีกครั้ง อันขัดกับเจตจำนงค์ของประซาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
เมื่อไล่เรียงคะแนนและดูคะแนนภาพรวมจะพบว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อการ ลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้คือจุดยืนของพรรคการเมืองนั้น ! ยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยหรือเผด็จการ โดยผลได้ออกมาชัดเจน ว่าประชาชนเลือกพรรคฝ่าย
ประชาธิปไตย
แต่ขณะนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประซาธิปไตยอื่น ๆ เริ่มมีแนวโน้มที่จะตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชนจากคำพูดที่ว่า "มีเรา ไม่มีลุง" ได้กลายเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง สังคมก็ได้เริ่มตั้งคำถามว่า อะไรกันทำให้ฝ่ายประซาธิปไตยหน้ามืดตามัว จนลืมสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำไว้กับประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่สูญเสียทรัพย์สินหรือชีวิตไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19, ประชาชนที่จบชีวิตตัวเองเพราะไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้, 99 ชีวิตที่สูญเสียไปในเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยของพี่น้องคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ตอนปี 53, ผู้ที่ถูกยังคับสูญหายอย่าง ต้าร์-วันเฉลิม ที่เป็นอดีตคนในพรรคเพื่อไทยเอง, การจับกุมคุมขังเยาวชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย, ผู้ที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง, และเรื่องเลวร้ายอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง
เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนแล้วก็มาจากฝีมือเผด็จการและนักการเมืองที่รับใช้เผด็จการทั้งสิ้น
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม จึงมีความคิดเห็นว่า มันถึงเวลาแล้วของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่จะออกมาอีกครั้งและร่วมกันส่องแสงสว่างให้ถึงหัวใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกขานมโนธรรม ความยึดมั่นในจิตวิญญาณ
ประชาธิปไตย และคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชน ด้วยความหวังที่ต้อง การให้ 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยกลับมาจับมือกันอีกครั้งเพื่อลบล้างผลพวงรัฐประหารทั้งหมดที่ทำร้ายประชาชนมามากกว่าสิบปี
ดังนั้น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและทุกกลุ่มองค์กรทั่วประเทศ มาร่วมแคมเปญส่องไฟให้ทางประชาธิปไตยด้วยการร่วมกันทำกิจกรรมรวมตัวส่องไฟฉาย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยทุกสาขา หรือสถานที่สาธารณะต่าง ๆ จนกว่าจิตวิญญาณประชาธิปไตยจะหวนกลับคืนสู่พรรคเพื่อไทย
หนทางพิสูจน์ม้า และเวลาพิสูจน์คน
ใครถอยและใครทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา
พบภัยถ้าไม่สู้ แต่ซ้ำลู่เป็นอ้อคา
มวลชนจะตีตรา ถึงหลานเหลนว่าเดนคน
จิตร ภูมิศักดิ์
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม
14 สิงหาคม 2566
Advertisement