วันที่ 29 พ.ย.67 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. นอกสถานที่ครั้งแรก ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนลงพื้นที่ จ.เชียงราย โดยยืนยันว่าทั้ง จ.เชียงใหม่และเชียงราย สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้ว ซึ่งช่วงปลายปีจะใการจัดงาน Winter Festival ทั่วประเทศ รวมถึง 2 จังหวัดนี้ด้วย ขณะเดียวกันได้ติดตามปัญหาเรื่องหมอกควัน เพื่อหานวัตกรรมและเครืองมือลดหมอกควัน pm 2.5
สำหรับผลการประชุม ครม.เห็นชอบหลักการโครงการเร่งด่วน เชียงใหม่ และเชียงราย ในการ ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 39 โครงการ กรอบวงเงิน 641.13 ล้านบาท โดยเป็น การจัดสรรงบกลางประจำปี 2568 โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการซ่อมแซมด้านคมนาคม เขื่อน ตลิ่ง และ โครงการ ฟื้นฟูต่างๆผ่าน การกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว
ส่วนปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ ที่มีสาเหตุมาจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำมาก ได้สั่งการให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ ซึ่งทั้ง 4 ท่านได้อยู่หน้างานเรียบร้อยแล้วจะลงพื้นที่แก้ไข ทำหน้าที่ต่อโดยไม่รอช้า
ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า ทางกรุงเทพมหานคร ได้ส่งความช่วยเหลือไป ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางประกอบด้วย เรือท้องแบน 7 ลำ เรือเครื่อง 5 เครื่อง รถกระบะ 2 คัน รถช่าง 1 คัน รถบรรทุกหกล้อมีเครนพร้อมผู้ควบคุม เจ้าหน้าที่กู้ภัย 23 นาย และช่าง 3 คน รวมเป็น 27 คน
ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประสานงานกับ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)เร่งรัดการทำงานทุกส่วนราชการ ทั้งด้านการประกอบอาหาร โรงครัวพระราชทาน การอพยพี่น้องประชาชน จากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูง ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ได้เตรียมมีเรื่องของยารักษาโรคต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม ทั้งนี้ตนได้เร่งในเรื่องของการเยียวยาควบคู่กันไปเพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรอนานเหมือนที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบมาตรการการรับมือ สถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน แล้วฝุ่นละอองในปี 2568 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อควบคุมพื้นที่เผาไหม้จากการเผาข้าวโพด เลี้ยงสัตว์และอ้อยโรงงาน รวมถึงการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมือง ประกาศห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าในเขตเมืองและมีการ จับรถควันดำอย่างเข้มงวด รวมถึงควบคุม พื้นที่ก่อสร้างและการจัดการบอกคนข้ามแดนโดยการจัดตั้งศูนย์ ข้อมูลศูนย์แจ้งเตือน ใช้ศูนย์บัญชาการเฝ้าระวังควบคุม ระดับไฟในประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกันยังมี มาตรการอื่นๆ ที่จะออกตามมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ อีกด้วย ส่วนโครงการ แอ่วเหนือคนละครึ่งขณะนี้ได้จบโครงการไปแล้ว
Advertisement