2 เม.ย. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล แรมโบ้ อีสาน หรือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่สวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมชุมนุม ในวันที่ 4 เม.ย.ว่า ที่จริงมีการพูดคุยกันมาตลอดถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยนายจตุพร เคยพูดตอนออกจากเรือนจำว่าถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลืออะไร อยู่ในคุกเหมือนการอยู่ในนรกของคนเป็น ตนจึงต่อสายให้ได้คุยกับผู้ใหญ่ให้ทราบถึงความเดือดร้อนและการสนับสนุนช่วยเหลือ
หาม แรมโบ้ อีสาน ส่งโรงพยาบาล นายกฯ ส่งทหารมอบดอกไม้-ฝากข้อความ "หายไวๆ"
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเตือนตลอดว่าหมดเวลาเป็นแกนนำเสื้อแดงเพราะในที่สุดเราก็ถูกทอดทิ้ง และการกลับมาประกาศชุมนุมต้องถามว่าที่ผ่านมาสู้เพื่อใคร สู้เพื่อตัวเองหรือสู้เพื่อใคร สู้เพื่อตัวเองเพื่อจะได้มีตำแหน่งเป็นส.ส.เป็นรัฐมนตรี และสู้แล้วรวย ที่เคยบอกว่านปช.มีจุดยืนอยู่ตรงกลางเพื่อประชาชน แต่สุดท้ายก็สู้เพื่อตัวเองให้คนนามสกุลชินวิตรกลับมามีอำนาจ ไม่ได้สู้เพื่อประชาชน
ส่วนผู้ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวบอกว่าเพื่อประชาธิปไตย มีใครออกมารับผิดชอบหรือไม่ ตนจึงต้องเอาความจริงมาแฉให้หมด และจะแฉต่อไป หากนายจตุพร รวมถึง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ประกาศยืนข้างนักศึกษา ม็อบคณะราษฎร หรือนักศึกษาแนวร่วมธรรมศาสตร์ ซึ่งจิตใจของคนพวกนี้ไม่มีสำนักในความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ประเทศชาติ และประชาชน ออกมาเคลื่อนไหว
ขณะเดียวกัน นายจตุพร เปิดเผยถึงกรณีผู้ชุมนุมอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกลาโหม ว่าไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างนี้ไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทย์ ไม่เคยสั่งการอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ แต่การมากล่าวหาว่าเป็นตัวขัดขวางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นข้อเท็จจริง ขอถาม นายจตุพร และ นายณัฐวุฒิ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จะให้ใครขึ้มาเป็นนายกรัฐมนตรี จะให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก บอกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดูตัวเองก่อนมาอบรมมารยาทคนอื่น หลังเกิดกรณีนักข่าวนั่งไขว่ห้างว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วนายกฯ ไม่ได้มีเจตนาที่อยากจะว่าหรือตำหนิผู้สื่อข่าวต่างประเทศคนนั้นเลย เพียงแต่เป็นห่วงว่าจะมีผลต่อกระดูก และเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นกุลสตรีโดยเฉพาะเป็นช่วงที่นายกฯ กำลังแถลงข่าวอยู่ ซึ่งคนไทยเราจะยึดถือเรื่องการไม่รู้จักกาลเทศะ ความไม่มีมารยาทต่อผู้หลักผู้ใหญ่อยู่แล้ว
กรณีนี้จึงเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เตือนเด็ก ไม่ใช่เรื่องของการเกลียดใคร หรือละเมิดใคร และไม่ควรจะไปเปรียบเทียบกับการทำหน้าที่ของนายกฯในเวทีระดับประเทศ หรือการปรากฏตัวในเวทีระหว่างประเทศ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนเหตุการณ์นายกฯ ฉีดแอลกอฮอล์ใส่ผู้สื่อข่าว ก่อนหน้านี้นั้นก็เป็นลักษณะของการหยอกล้อกับสื่อมวลชนเท่านั้น
นายเสกสกล ระบุอีกว่า " ที่บอกว่าประชาชนต้องอดทนมาโดยตลอดกับบุคลิกภาพของนายกฯ นั้น ผมมองว่าเป็นแนวคิดของพวกที่ไม่ชอบนายกฯ เกลียดนายกฯ อย่างพรรคเพื่อไทย หรือนักวิชาการบางคนมากกว่า จึงมักที่จะหาประเด็นมาด่า มาตำหนิ แต่ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่ได้คิดเช่นนี้ เพราะทราบกันดีว่านายกฯ เป็นกันเองกับทุกคน ดังนั้น อย่าอคติคอยอิจฉาริษยา หรือทำตัวเป็นพวกเหลือบริ้นไร ที่คอยมาไต่ตอมให้นายกฯรำคาญใจ จนเสียสมาธิในการทำงานให้กับประเทศ "
ณัฐวุฒิ ย้ำจุดยืนหลังคืนสู่อิสรภาพ ขออยู่ข้าง ม็อบเยาวชน (คลิป)
Advertisement