วานนี้ (20 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กราบเรียนว่าที่เราได้รับวัคซีนมาในช่วงแรก เราจัดซื้อ สั่งมา ในฐานะที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากในระยะที่ 1 เราก็จัดหาวัคซีนมาตามความจำเป็น เราไม่อยากทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ
ทักษิณ ซัด ประยุทธ์ ถนัดแต่ใช้เงิน เสนอเจรจารัสเซียซื้อวัคซีน
ขอให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่การจัดหาล่าช้าหรือจำนวนน้อยเกินไป เพราะทุกอย่างพัฒนาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่อยากให้ประชาชนมีความเสี่ยงในช่วงแรกที่เริ่มมีการพัฒนาวัคซีนออกมา โดยหลายประเทศก็ประเมินเช่นเดียวกันกับไทย ซึ่งขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีนทางเลือก และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหารือกับโรงพยาบาลเอกชน และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามาโดยเร็วที่สุด เพราะการนำเข้าของเอกชนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทางผู้ผลิตวัคซีนของต่างประเทศก็จะต้องขออนุญาตรัฐบาลเช่นกัน
ล่าสุด เช้าวันนี้ 21 เม.ย. 64 เพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งประกอบด้วย คณะแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน นำโดย นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร ได้รายงานว่า
“ จากการหารือทุกฝ่าย ได้ข้อยุติว่า ประเทศไทยจะจัดหาวัคซีนอีก 2-3 ยี่ห้อเพิ่มเติมอีกประมาณ 35 ล้านโด๊ส นอกเหนือจากที่ดำเนินการไว้แล้วประมาณ 65 ล้านโด๊ส ในจำนวน 35 ล้านโดส ภาคเอกชนนำโดยสภาหอการค้าไทย ก็จะช่วยรัฐบาลจัดหาให้กับพนักงานลูกจ้างเองด้วย ประมาณ 10-15 ล้านโด๊ส ซึ่งก็จะช่วยลดงบประมาณของรัฐบาลลงไปอีก สำหรับกระบวนการต่อไปให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการโดยเร่งด่วนและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ผมได้สั่งการให้วางแผนการกระจายและฉีดวัคซีนที่จัดหามาทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายใน ธันวาคม 2564 นี้” #รวมไทยสร้างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ ขอโทษที่พูดผิดบ่อยเพราะมีหลายเรื่องอยู่ในหัว ย้ำรัฐไม่ได้ผูกขาดการจัดซื้อวัคซีน
Advertisement