กรณี นายกไม่ใส่หน้ากาก ระหว่างประชุมงานในทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นพื้นที่ของกรุงเทพมหานครนั้น ต่อมา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหหานคร พร้อมด้วย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเปรียบเทียบปรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น
นายกไม่ใส่หน้ากาก ระหว่างประชุม ผู้ว่าฯ สั่งปรับ 6,000 บาท
ทั้งนี้ ในโลกออนไลน์มีการตั้งข้อคำถามว่า ทำไม นายกรัฐมนตรี ถึงถูกปรับเป็นเงิน 6,000 บาท ไม่ใช่ 20,000 บาท ที่เป็นโทษปรับสูงสุด
ต่อมา พล.ต.อ. ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามระเบียบของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สั่งให้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท มีระเบียบของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ออกมาวางแนวทางไว้เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2563 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนามไว้ ซึ่งมีแนวทางมีกรอบการใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงานในการเปรียบเทียบปรับ ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ที่สามารถเปรียบเทียบปรับได้
สำหรับการปรับความผิดครั้งแรกในอัตรา 6,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท ความผิดครั้งที่ 3 โดยหากยังทำอีกครั้งก็จะเปรียบเทียบปรับ 20,000 บาท
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนสามารถใช้ดุลยพินิจตามข้อ 8 คือ มีเหตุผลพิเศษอันควรที่จะลดค่าปรับได้คำนึงถึงความหนักเบาของข้อหาและพฤติการณ์ รวมถึงความเสียหายที่เกิดผลกระทบต่อประชาชน อาทิ อายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษา สุขภาพ อาชีพ ฯลฯ สามารถเปรียบเทียบปรับลดลงได้แต่ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 คือไม่น้อยกว่า 2,000 บาท ซึ่งหากผู้ต้องหาไม่ยินยอมก็จะต้องส่งฟ้องศาล และศาลจะใช้ดุลยพินิจในการเปรียบเทียบ
อนึ่งกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ นับเป็นความผิดครั้งแรก ก็ต้องจ่าย 6,000 บาท โดยทางเจ้าพนักงานผู้เปรียบเทียบปรับไม่ได้ใช้เหตุในการลดหย่อน จึงเสียเงินเต็มในอัตราสูงสุดของการฝ่าฝืนครั้งแรก
ประยุทธ์ ฝากถึงทีมแพทย์ควรส่งเสริม รบ. ลั่น ผมบริหารได้ทุกอย่าง
Advertisement