เมื่อวันที่ 11 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Global Compact Network Thailand – (GCNT) Forum 2021 ภายใต้หัวข้อ "บทบาทผู้นำ มุ่งสู่การลงมือแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Leadership for Climate Actions)" ผ่านระบบการประชุมทางไกล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำซึ่งกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด ในปี 2573 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยเร็วที่สุดภายในครึ่งหลังของศตวรรษนี้ โดยภาคพลังงานและขนส่งยังคงเป็นภาคส่วนหลักในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงพลังงาน ได้จัดทำเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2065 ด้วย ได้บรรจุประเด็น climate change ในนโยบายระดับประเทศ ภายใต้กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 โดยมีหมุดหมายที่สำคัญ คือ หมุดหมายที่ 10 การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ และหมุดหมายที่ 11 การลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็น 2 หมุดหมายที่ตอบสนองต่อประเด็น climate change โดยตรง ขณะเดียวกัน รัฐบาลอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทุกมิติ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยต่อยอดจากหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นภายในปี 2565 และขอเชิญชวนภาคเอกชนมีส่วนร่วมในโครงการนี้ รวมทั้งการริเริ่มโครงการอื่น ๆ ที่มุ่งใช้จุดแข็งในเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น และทรัพยากรธรรมชาติของไทยและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปรับตัวตามทิศทางบรรทัดฐานใหม่ ๆ ในเวทีระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมทำความเย็นในการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ทำลายชั้นบรรยากาศและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง และผลักดันเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ไทยสามารถเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเปลี่ยนผ่านไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ โดยตั้งเป้าที่จะให้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด รวมทั้งมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 15 ล้านคัน หรือ 1 ใน 3 ของยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2578
"รัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น การติดตามประเมินการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปรับตัวและก้าวผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและเชื่อมั่นภาคเอกชนไทยมีบทบาทอย่างมากในการเป็นผู้นำเพื่อแก้ปัญหา climate change และสิ่งแวดล้อม เชิญชวนภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมกันปลูกต้นไม้ให้ได้ 100 ล้านต้น ภายในปี พ.ศ. 2565 และ ผลักดันให้เกิดการผลิตและใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2578 ด้วย" นายกฯ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯ ถึงเมืองคอน หยอดคำหวาน “คิดถึงจังหู้” คอหวยเล็งป้ายทะเบียนรถ
- นายกฯ แสดงความห่วงใย ตำรวจ คฝ. ถูกยิงสาหัส สั่งแพทย์ดูแลเต็มที่
- ประยุทธ์ ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ตร.ออกกฎห้ามปาไข่ใส่นายกฯ ฝ่าฝืนดำเนินคดี
Advertisement