วันที่ 12 ต.ค.64 รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวจาก สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เผยข้อมูลพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นเข็มแรก ตามด้วยวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่สอง จะมีระดับ แอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ (Nneutralizing Antibody, NAb) สูงกว่าการใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นเข็มกระตุ้น
NIH เตรียมยื่นข้อมูลการฉีดวัคซีนไขว้ดังกล่าวให้ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในวันศุกร์ที่ 15 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ FDA จะพิจารณากรณี จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ยื่นขออนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนแบบเข็มเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพิ่มอีก 1 เข็มเพื่อเป็นบูสเตอร์โดส
ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งคาดว่าจะไม่ผ่านการอนุมัติ เนื่องจากการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาครบ 2 โดสยังคงมีประสิทธิภาพของการป้องกันการติดเชื้อในระดับสูงอยู่
ทั้งนี้ แอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสไม่ให้เข้าสู่เซลล์และยับยั้งการเพิ่มจำนวนตัวเองของไวรัส อย่างไรก็ดีในรายงานยังไม่ระบุแน่ชัดว่าประสิทธิภาพดังกล่าวคงอยู่เป็นเวลานานเพียงใด
อ้างอิง - https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/data-suggests-mrna-booster-dose-generates-stronger-antibody-response-after-jj-2021-10-13/ / https://www.axios.com/coronavirus-vaccine-booster-fda-mix-match-data-2593a8db-6b5e-4333-95e2-4064b2433e42.html
Advertisement