หนุ่มใหญ่สระแก้ว วัย 60 ปี สุดช้ำเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ ให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หลังถูกสาวเสริมสวยหลอกทั้งเงินทั้งรถเก๋ง นอกจากนั้น ยังหลอกให้เอารถไถไปจำนำอีก พอหมดเงินกลับตีจากทิ้งหนี จากนั้นได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น ตำรวจรับแจ้ง แนะนำหาหลักฐานร้องศูนย์คุมครองสิทธิ์และเสรีภาพประชาชนสระแก้ว เพื่อช่วยฟ้องทางแพ่งเรียกเอาทรัพย์สินคืน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายสันต์ทัศ อายุ 60 ปี โดยเจ้าตัวได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดว่า ตนนั้นเคยไปทำงานต่างประเทศได้ 30 ปี โดยเดินทางไปหลายประเทศ แล้วแต่งานที่ทางบริษัทรับงานมา นานๆ ครั้งจะกลับมาประเทศไทย ครั้งสุดท้ายอยู่ที่เกาะไซปรัส ซึ่งตนนั้นเคยมีภรรยามาแล้วทั้งหมด 3 คน คนแรกอยู่ด้วยกัน 20 กว่าปี จะส่งเงินมาให้ใช้และให้ส่งมาที่แม่ของตนด้วย แต่เขาก็ไม่เคยส่งไปให้แม่ เมื่อตนทราบจึงเลิกกับเขาโดยไม่ส่งเงินมาให้อีกเลย
คนที่ 2 ตอนกลับมาประเทศไทย ก็อยู่ด้วยกันอีก 7 ปี ตนก็ส่งเงินมาให้เขาใช้จ่ายจากต่างประเทศตลอดเวลา ซื้อที่ไร่ซื้อบ้านให้อยู่ จนเขาอยากจะเปิดร้านอาหารในที่ไร่ พอเปิดได้ 2เดือน เขาก็ชวนตนกลับมาให้มาอยู่ที่บ้านมาดูแลร้านอาหาร ตนจึงได้ลาออกและเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย จนกิจการไม่ดี และเขาก็ออกเที่ยวหายไปหลายวัน แล้วทะเลาะกัน ตนจึงได้ประกาศขายที่ขายไร่ เอาเงินมาแบ่งกัน หลังจากนั้นก็มาเจอสาวร้านเสริมสวย
คนที่ 3 สุดท้ายคนนี้อยู่กันมา 2 ปีกว่า ตนนั้นได้ถูก นางสาวอ้อย (นามสมมุติ) สาวเสริมสวยหลอกออกรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้สีขาว ทะเบียน กฉ 9946 สระแก้ว จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในราคา 500,000 บาท หลอกให้นำไปจำนำ ให้นำรถไถนายี่ห้อคูโบต้า ทะเบียน ตม-946 สระแก้ว ไปจำนำอีกในราคา 100,000 บาท ยังไม่พอหลอกให้นำรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู กค 3149 สระแก้วไปจำนำนายทุนอีก 106,000 บาท ล่าสุด นำรถเก๋งยี่ห้อ มาสด้า โปรสีแดง ทะเบียน บบ 2429 สระแก้ว และยังให้ขายที่ดินจำนวน 1 แปลง รวมเป็นเกือบ 3 ล้านบาท
นายสันต์ทัศ หนุ่มใหญ่ ยังบอกอีกว่า ตนได้ซื้อบ้านเอื้ออาทรให้เปิดร้านเสริมสวยให้ ซื้อรถยนต์ให้ แต่ก็มาถูกหลอก ตนซื้อรถเก๋งฮอนด้าให้เขาโดยเป็นชื่อของตน แต่เขาก็เอาไปจำนำ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้หลอกเอารถมาสด้าสี่ประตู กับรถไถนา ของตนไปขาย โดยอ้างโน้นอ้างนี่ เพื่อจะไปใช้หนี้นอกระบบเงินกู้รายวัน กลัวพวกนายทุนมาทุบตี เลยต้องไปตัดให้หมด รวมทั้งหมดเงินกว่า 3 ล้านบาท ขายบ้านเอื้ออาทรและที่ดิน 7 ไร่ให้เขาไปอีก เวลาเขาเดือดร้อนอะไรมาก็จะโทรมาออดอ้อนตลอด เขาพูดจาดี อ่อนหวาน สุดท้ายตนก็เลยซื้อรถเก๋งฮอนด้าให้เขาอีกคัน เขาเปิดร้านชื่อรินทร์เสริมสวย ที่บ้านเอื้ออาทร ซอย 9 โดยอาทิตย์สองอาทิตย์ตนจะไปหาเขาครั้งหนึ่ง สุดท้ายไปหาเขา ก็พบกับบ้านที่ว่างเปล่า ข้างบ้านบอกว่าเขาย้ายไปหลายวันแล้ว ไปกับหนุ่มคนใหม่ และเมื่อวานนี้ ยังโพสต์ต่อว่าผมต่างๆ นานา ตนหมดตัวแล้วจริงๆ เขาจึงตีจาก
นายสันต์ทัศ กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าโศกว่า ตนทุ่มเทให้มากมาย พอตนหมดตัวก็ไม่อยากอยู่ด้วยกัน ขณะนี้ตนรู้สึกเข็ดกับชีวิตที่ผ่านมา ตนจะตั้งหน้าทำงานของตนต่อไปแต่ขอเงินคืนด้วยตนไม่เหลืออะไรแล้ว ตนขี่รถซาเล้งขายเสื้อผ้ามือสองไปตามตลาดนัด เพื่อมีรายได้เลี้ยงชีพของตนไป ตนเข็ดแล้วจริงๆ ตอนนี้บ้านที่ผมอยู่นี้ ทางธนาคารก็มีหนังสือแจ้งจะมายึดบ้านอีก เพราะศาลตัดสินแล้ว เดือดร้อนมากจริงๆ จึงต้องออกมาขอความเป็นธรรมบ้าง ตนก็อยากจะให้เขามาร่วมใช้หนี้ที่ได้ก่อร่วมกันมา ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ทราบดีแต่ก็ไม่ยอมช่วย แถมยังตีจากตนไปหาคนใหม่ทิ้งให้ตนรับกรรมอยู่ผู้เดียว
Advertisement