ผมมีหลักคิดของผมแค่ว่า ถ้าสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ หรือสิ่งที่ผู้คนผิดหวังในตัวผม ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากการที่ผมไปทำร้ายหรือทำลายความปกติสุขในชีวิตของใคร ผมมีสิทธิ์ที่จะเป็น หรือมีสิทธิ์ที่จะเลือกมันได้
วันหนึ่ง แม้ต่อให้ผู้คนเลิกติดตามและเลิกสนใจผมกันหมด ผมก็คิดว่า นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร และมันสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา ผมจะยอมรับนะครับ และผมไม่เสียใจ
ในการมีชีวิต ผมสนใจแค่ว่า ผมทำอะไรผิดต่อคนอื่นหรือเปล่า ผมสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับชีวิตของใครบ้างไหม ซึ่งแม้ถึงตอนนี้ ผมก็ยังยืนยันกับตัวเองว่า ผมไม่ได้ทำอะไรที่ว่านั้น
ชีวิตผม ผมไม่ได้ต้องการ แค่การทำอะไรก็ได้เพื่อให้ถูกใจคนอื่น หรือทำตามที่คนอื่นต้องการ เพื่อแลกกับงานหรือแลกกับเงิน ผมดีใจนะครับ ถ้าผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผมเอง แม้ชีวิตที่ว่านี้ จะทำให้ผมต้องกลับบ้าน (ซึ่งก็อยากกลับมากแล้วเต็มที) เพื่อไปอยู่กับพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ผมรักตามอัตภาพอย่างที่ควรจะเป็น
ปล. ผมตอบกับทุกคนที่ถามผมเหมือนกันหมดว่า ผมไม่ได้ต้องการทำงานในวงการ ที่ผมยังรับงาน (ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่มีงานให้รับ) และเลือกอยู่กรุงเทพ เพราะผมเห็นว่า ได้อยู่ใกล้แม่ เพราะแม่เองก็ยังต้องรักษาตัวที่กรุงเทพเหมือนกัน ผมพูดกับแม่ทุกครั้งว่า หายแล้วกลับบ้านเรานะ ไปทำอะไรก็ได้เล็กๆ แต่ได้อยู่บ้านด้วยกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติอดีต พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน เจ้าของไลฟ์สดธรรมะที่มีผู้ชมสูงสุด
- สรุปดราม่า ทิดไพรวัลย์ ลาออกพิธีกร นินทาประเทศไทย ก่อนเดินออกกลางรายการ
- เดือด! ไพรวัลย์ ขอชี้แแจง ด่าเฉพาะคนที่ด่าก่อน เปล่าพูดโจมตีคนทำศัลยกรรม
Advertisement