ศาลเชียงใหม่อนุญาตประกันตัว "ปริญญ์" หลังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอ้างฝ่ายหญิงสมยอม พนักงานสอบสวนมั่นใจพยานหลักฐานเชื่อก่อเหตุจริง
ความคืบหน้าล่าสุด (3พ.ค.65) กรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลสถานที่ก่อนหน้านี้มีหญิงสาวอายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีว่าถูกนายปริญญ์กระทำอนาจารในรีสอร์ทแห่งหนึ่งย่านตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64
เบื้องต้นนายปริญญ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล โดยพนักงานสอบสวนทำเรื่องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่และคัดค้านการประกันตัวผ่านระบบออนไลน์ ในขณะที่ทนายความของนายปริญญ์ทำเรื่องขอประกันต่อศาลเช่นกัน ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวนได้มีการควบคุมตัวนายปริญญ์ไว้อยู่ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้ศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุญาตให้ประกันตัวนายปริญญ์ตามที่ทนายความของนายปริญญ์ยื่นคำร้อง โดยมีหลักประกันเป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาทจากนั้นเมื่อเวลาประมาณ14.45 น. นายปริญญ์ได้เดินทางออกสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่โดยมีสีหน้าเรียบเฉยและขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีดำป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ณ-6575 กรุงเทพฯ ออกไปทันที ทั้งนี้แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามสอบถามเกี่ยวกับคดีแต่นายปริญญ์ไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่พันตำรวจเอกภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่เปิดเผยว่า วันนี้นายปวิญญ์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายขัง อย่างไรก็ตามทางทนายความของนายปริญญ์ได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาลและได้รับอนุญาตโดยในทางคดีนั้น จากนี้จะดำเนินการไปขั้นตอนกระบวนการกฎหมาย
สำหรับการสอบปากคำนายปริญญ์ ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำครบถ้วนในทุกประเด็นไว้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว คาดว่าไม่น่าจะต้องมีการเชิญตัวมาสอบปากคำอีก ซึ่งระหว่างให้ปากคำนายปริญญ์มีท่าทีเรียบเฉย ส่วนใหญ่ทางทนายความเป็นผู้ให้ข้อมูลโดยข้อมูลจะเหมือนกับคดีอื่นๆ ที่ระบุว่าเป็นการสมยอมของฝ่ายหญิง
ส่วนการดำเนินการจากนี้ไป ทางตำรวจจะมีการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนารัดกุมยิ่งขึ้น โดยพยานหลักฐานที่ผู้ต้องหานำมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อหักล้างนั้นนั้นเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ทางพนักงานสอบสวนมีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมมาได้ก่อนหน้านี้ว่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาก่อเหตุจริงขณะเดียวกันจะไม่มีการรวมคดีนี้กับคดีอื่นแต่อย่างใดเพราะเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ศาลไม่อนุมัติหมายจับ "ปริญญ์" ให้เรียกมารับทราบข้อหาแทน
-ไฮโซลูกนัท หอบกระเช้าขอโทษ ผกก.ลุมพินี ปมด่ากราดวันค้นคอนโด ปริญญ์
-พฐ. บุกตรวจหลักฐานสำนักงาน "ปริญญ์" หลังผู้เสียหาย 3 รายเข้าแจ้งความ
Advertisement