บช.น.เผยความคืบหน้าคดี “เบนท์ลีย์” ขับชนบนทางด่วน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ลั่นพร้อมทำให้เกิดความโปร่งใส
วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. กล่าวชี้แจงกรณี นายสุทัศน์ นักธุรกิจ ขับรถเบนท์ลีย์ชนท้ายรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ เสียหลักไปชนรถดับเพลิง อปพร.บางรัก เสียหาย 3 คัน มีผู้บาดเจ็บ 6 คน บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมาที่เผยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้ความสำคัญ และกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรลงไปควบคุมดูแลเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าวด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและสังคม จึงขอเรียนให้ทราบ ถึงความคืบหน้าของการดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าวใน 2 ประเด็นหลัก ดังนี้
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 จากการที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อเท็จจริง และหลักฐานเพิ่มเติม จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับรถ Bentley ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ)” และนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้พิจารณารับฝากขังตามคำร้อง
เนื่องจากคดีดังกล่าว ยังมีพี่น้องประชาชนในสังคมมีความสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ และการใช้วิจารณญาณของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ผู้บังคับการตำรวจจราจรจึงได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 โดยมอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจจราจรเป็นประธานคณะกรรมการ และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 15 วัน ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว และขอเรียนย้ำว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการและเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป
Advertisement