แพรี่กลัวไม่เชื่อ! เปิดภาพ พระฉันบวบ แบบเต็มปากเต็มคำ ลั่นยอมรับเถอะจะได้จบ
"แพรรี่ ไพรวัลย์" กลัวไม่มีใครเชื่อเปิดภาพ พระกินบวบ แบบเต็มปากเต็มคำ ลั่น ไม่อยากให้ภาพแบบนี้อยู่ในโซลเชียล ยอมรับแล้วเปลี่ยนชุดเถอะจะได้จบ
คอนเทนต์แนะนำ
วันที่ 29 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพรรี่ ไพรวัลย์ หรือ อดีตพระพระมหาไพรวัลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีของ พระมหารูปหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรม ฉันบวบ ของชายหนุ่ม โดยล่าสุด แพรี่ได้ปล่อยภาพหลักฐานออกมาพร้อมระบุข้อความว่า
ไม่เชื่อดิฉันกันเลยหรอคะ ภาพไม่งดไม่งาม จะให้ดิฉันแชร์จริงๆ หรอคะ ดิฉันไม่อยากให้ภาพแบบนี้อยู่ในโซลเชียลเลยนะคะ ไม่ได้สงสารพระ แต่สงสารเด็กในรูปค่ะ ยอมรับเถอะนะคะ เปลี่ยนชุดซะ หรือไม่ก็กลับวัดไปประชุมเปิดอกยอมรับกับชาวบ้านอย่างตรงไปตรงมา จะได้จบนะคะ
ซึ่งก่อนหน้านี้ แพรรี่ ถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปเดียวกันนี้หลายครั้งต่อกัน โดยระบุว่า "ตาเถร! ตายแล้ว มีคนส่งรูปพระฉันบวบมาให้ดิฉันดู ทราบว่าเป็นถึงรองเจ้าตำบลด้วย เป็นพระวัดหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ชอบปลุกเสก ออกพระออกเหรียญให้คนบูชา ตายแล้วววววววววววว"
ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าตัวก็ได้โพสต์ข้อความอีกว่า "พระมหารูปหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์นะคะ ที่เป็นรองเจ้าคณะตำบล ชอบปลุกเสก ขายวัตถุมงคล เลี้ยงเด็กหนุ่ม ดิฉันให้เวลาท่าน 3 วันในการสละผ้าเหลือง ถ้าไม่สละ ดิฉันจะเอาภาพฉันบวบของท่านไปให้สื่อนะคะ จบ" นอกจากนี้ แพรรี่ ไพรวัลย์ ยังได้ปักหมุดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมระบุข้อความว่า "ตื่นเช้ามาผัดบวบ เพื่อรอตักบาตรพระคุณเจ้าค่ะ"
พร้อมกับทิ้งท้ายว่า "สงสารหลวงปู่พัฒน์จังเลยเจ้าค่ะ มีพระลูกศิษย์ใกล้ชิดที่เป็นอลัชชี เอาชื่อท่านไปแอบไปอ้าง สร้างวัตถุมงคล เสร็จแล้วได้เงินมาก็เอาเข้าย่ามเข้ากระเป๋าตัวเอง ทั้งซื้อเด็ก ทั้งออกรถใหม่ป้ายแดง จบ"
อย่างไรก็ตาม แพรรี่ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า ดิฉันเป็นคนไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมใครนะคะ แต่ผิดก็คือผิด ขอแค่ยอมรับ เปลี่ยนชุดออกมา เป็นฆราวาส กลับตัวกลับใจ ทำมาหากินสุจริต ดิฉันจะชื่นชมค่ะ สังคมพุทธควรเป็นแบบนี้ เราต้องแยกของเสียออกจากของดีค่ะ รักษาพระศาสนาเอาไว้ ไม่รักษาพระที่ทำผิด นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ข่มผู้ที่ควรข่มค่ะ ข่มคนที่เก้อยาก (ไม่ละอายใจ) ไม่อย่างนััน พระศาสนาก็มัวหมอง พระที่เป็นลัชชีก็จะอยู่ไม่ได้ ส่วนพระที่เป็นอลัชชีก็จะย่ามใจ พระศาสนาเกลื่อนกล่นไปด้วยเดียรถีย์ และคำสอนที่ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย ถึงเวลาที่พระควรจะเป็นพระ และพระศาสนายังคงเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางสติปัญญาและจิตใจจริงๆ ได้แล้วค่ะ จบ !
Advertisement
