ผู้ช่วยสัปเหร่อเขียนจดหมายขอโหสิกรรม ญาติเผยลางบอกเหตุก่อนจากไป พบเต่าสีดำตัวใหญ่เดินขึ้นจากน้ำมาหยุดอยู่ใต้ถุนบ้านเชื่อเป็นเจ้าปู่มาดูดูสารทุกข์ของครอบครัวตน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 น. พ.ต.ท.เจษฎา ว่องไว สว. สอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งได้ว่ามีชายอายุ 40 ปี เสียชีวิตบนบ้านพัก เลขที่ 199/1 ซ.สุขสำราญ ชุมชนหนองบัว 1 ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี ตำรวจเขตงานนิโย และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ในห้องนอนบนบ้านพบศพนายพนม สงวนนามสกุล หรือป้อม อายุ 40 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ลาโลกกับวงกบประตูห้องนอน สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมลายเทาขาว นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ ตรวจสบตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายและต่อสู้ เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจมาประมาณ 5-8 ชั่วโมง
ตรวจสอบบนโต๊ะพับข้างที่นอนผู้ตาย พบข้อความเขียนด้วยลายมือผู้ตายลงบนปกสมุดด้านในว่า “ขอโทษเด้อครับทุกๆ คน แหน่ได๋ ผมผิดพลาดไปเว้านำบ่ดี ทุกๆ อย่างอโหสิกรรมให้ผมแหน่เด้อครับ!” ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้อาสากู้ภัยนำไปเก็บรักษาไว้ที่สุสานบ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี เนื่องจากทางครอบครัวยากจน หากมีเงิน จะนำศพขึ้นมาทำบุญบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นางไพจิตร สงวนนามสกุล อายุ 67 ปี แม่ผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกชายมาคิดสั้นแบบนี้ ผู้ตายเป็นโสด มีอาชีพเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อวัดบ้านหนองบัว เขตเทศบาลนครอุดรธานี และเป็นลูกชายคนกลางจากลูกทั้งหมด 5 คน ผู้ตายติดเหล้าหนัก และ 2-3 วันที่ผ่านมามีอากาซึมเศร้า ชอบขอเงินแม่และญาติพี่น้องไปซื้อเหล้ามาดื่ม หากไม่ได้ดื่มเหล้าก็จะต่อว่าคนในบ้าน หาว่าแม่พ่อญาติพี่น้องไม่รัก หากแม่ไม่รักตอนเขายังเล็กมีคนมาขอไปเลี้ยงแม่ก็ไม่ให้ไป ก็เพราะว่ารักลูก
ช่วงเช้าวันที่ผ่านมา ตนก็บอกลูกอยู่ว่าอย่ากินเหล้ามาก เพราะจะทำให้ล้มป่วย ผู้ตายก็ไม่เถียงแม่ เพราะปกติจะเถียงและต่อว่าแม่ประจำ ตนคิดว่าลูกคงคิดได้ตามที่แม่บอก และมีความเชื่อว่าคนใกล้ตายจะทำตัวดี
เมื่อคืนที่ผ่านมาก็เช่นกัน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จ ก็มานั่งขอโทษแม่และญาติทุกคนที่ถูกเขาต่อว่าให้ ก่อนผู้ตายจะขึ้นไปเปิดเพลงฟังบนบ้าน กระทั่งเช้าเวลาประมาณ 07.30 น. สัปเหร่อที่วัดมาตามไปทำงาน เพราะมีศพจะนำมาฌาปนกิจที่วัด เมื่อขึ้นไปบนบ้านก็พบลูกชายตนผูกคอตายแล้ว ก่อนเกิดเหตุมีอีกาบินร้องผ่านหลังคาบ้านติดต่อกัน 3 วัน ซึ่งตนมีความเชื่อว่าหากมีอีกามาส่งเสียงร้องใกล้บ้าน จะต้องมีคนเสียชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกชายของตน เพราะเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ในชุมชนก็มีคนป่วยเสียชีวิต และจะฌาปนกิจที่วัดในวันนี้ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. (18 ก.ค.66) มีเต่าตัวสีดำขนาดใหญ่ เดินขึ้นจากริมหนองบัวมาหยุดที่ใต้ถุนบ้าน สามีตนที่ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นคนเห็น ขณะนั่งอยู่บนแคร่ ซึ่งอยู่บริเวณใต้ห้องนอนของลูกชาย โดยตนเชื่อว่าเป็นเจ้าปู่ที่ดูแลปกปักษ์รักษาชาวบ้านหนองบัว มาเยี่ยมดูสารทุกข์สุกดิบครอบครัวของตน เพราะครอบครัวของตนอยากจน ท่านคงจะมาให้โชคตามความเชื่อ และคงไม่เกี่ยวกับการตายของลูกชายของตน จึงขังไว้ในห้องน้ำ แล้วจะนำไปปล่อยในวันพระหน้า”
Advertisement