กยศ.แจงกรณี นักศึกษาพยาบาลยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ เหตุตรวจพบความไม่สอดคล้องของข้อมูล ยืนยันถ้ามีคุณสมบัติครบสามารถกู้เงินได้ทุกคน
จากกรณีที่มีกลุ่มตัวแทนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ยื่นหนังสือร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ว่ายังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษานั้น
ล่าสุดวันที่ 28 พ.ย. 66 นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขอชี้แจงว่าสถานศึกษาดังกล่าว มีผู้กู้ยืมเงินในปีการศึกษา 2564 จำนวน 9,199 ราย ปีการศึกษา 2565 จำนวน 14,937 ราย และปีการศึกษา 2566 มีผู้ยื่นขอกู้ยืม จำนวน 23,136 ราย ซึ่งผู้กู้ที่ได้ยื่นขอกู้ยืมเงินในปี 2566 ได้รับการอนุมัติให้กู้ยืมเงินแล้ว จำนวน 16,313 ราย คงเหลือยังไม่อนุมัติให้กู้ยืม จำนวน 6,823 ราย เนื่องจากได้ตรวจสอบพบว่า ในกลุ่มที่ยังไม่อนุมัตินี้เป็นผู้ที่มีงานทำ 2,644 ราย ซึ่งไม่เป็นไปตามคุณสมบัติของการกู้ยืม
กยศ.ตรวจพบความไม่สอดคล้องของข้อมูลหลายประการ เช่น ผู้กู้ยืมบางรายแจ้งว่าไม่ทราบข้อมูลของบิดามารดา และเมื่อ กยศ.ขอข้อมูลเพิ่มเติมบางรายแจ้งว่าไม่สะดวกในการเตรียมเอกสาร นอกจากนั้นผู้รับรองรายได้บางรายมีการรับรองรายได้ให้กับครอบครัวของผู้กู้ยืมจำนวนมากที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดกัน และเมื่อกยศ.ติดต่อไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ให้ไว้ แต่ติดต่อไม่ได้
นายชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กยศ.ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ยืมเงินคือ 1. มีสัญชาติไทย 2. ศึกษาหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินงานกับกองทุน 3. เป็นผู้ขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในการเข้าศึกษาที่สถานศึกษาเพียงแห่งเดียวในคราวภาคการศึกษาเดียวกัน 4. มีผลการเรียนดีหรือผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลของสถานศึกษา 5. มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาขั้นร้ายแรงหรือไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย
และ กยศ.ได้กำหนดลักษณะต้องห้าม ดังนี้ 1. ไม่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาใดสาขาหนึ่งมาก่อน 2. ไม่เป็นผู้ปฏิบัติงานและรับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำในหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนในลักษณะเต็มเวลา เว้นแต่จะได้กำหนดเป็นอย่างอื่นในคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาลักษณะหนึ่งลักษณะใด 3. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 4. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 5. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับกองทุน เว้นแต่ได้ชำระหนี้ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและรอการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมจากทางสถานศึกษา ทั้งนี้ กยศ.ได้แจ้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งเป็นต้นสังกัดของสถานศึกษาให้ทราบแล้ว โดย กยศ.และเจ้าหน้าที่ของกระทรวง อว. จะลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบและรับฟังคำชี้แจงของสถานศึกษาในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม กยศ.ขอยืนยันว่า ผู้กู้ยืมที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามและดำเนินการตามระเบียบที่กองทุนกำหนดจะมีสิทธิได้กู้ยืมอย่างแน่นอน
Advertisement