น้าสาวเปิดใจความฝัน “ดอกเข็ม” อยากเรียนนิเทศศาสตร์ หวังต่อยอดงานสายประกวด รักสวยรักงาม ตั้งใจฝึกภาษามาตลอด อยากเป็นมิสแกรนด์
กรณีเกิดอุบัติเหตุ รถทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพฯ-นาทวี ของบริษัทศรีสยามเดินรถ จำกัด พุ่งชนต้นไม้ข้างทาง เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 331-332 หมู่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขาล่องใต้นั้น มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 14 คน โดย 2 คนคือนางละมัย พูนเอียด อายุ 55 ปี และ น.ส.กัลยกร พูนเอียด หรือ “น้องดอกเข็ม” อายุ 18 ปี สองแม่ลูกชาว ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช รวมอยู่ด้วย
ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับทางด้าน นางสาวณิชชารีย์ คงใหม่ น้าสาวของทางน้องดอกเข็ม และเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตหรือแม่ของน้องดอกเข็ม โดยทางเจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของคนครอบครัว ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเพิ่งจะได้มีโอกาสพูดคุยกับหลานสาวและพี่สาว เพราะได้มีการประสานและพูดคุยกันมาตลอด อยู่ทุกช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโต ก่อนหน้านี้ทางหลานสาวได้มีการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการสมัครเข้ามามหาวิทยาลัย ซึ่งเขาตั้งใจอยากจะเข้าคณะเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งตนเองก็ได้มีการแนะนำและให้คำปรึกษา จนกระทั่งวันที่เขาเดินทางขึ้นมาเพื่อยื่นแฟ้มสะสมผลงาน ตอนนั้นเขาเองตั้งใจจะเดินทางมาเพียงคนเดียว เนื่องจากไม่อยากให้ทางพ่อหรือแม่ต้องมาลำบากและหยุดขายของ แต่ด้วยความที่แม่ของเขาค่อนข้างรักและเป็นห่วง และตั้งใจว่าหากลูกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว สภาพแวดล้อมรวมไปถึงที่พักอาศัยจะเป็นอย่างไร ทางพี่สาวเลยได้เดินทางมาด้วย
ปกติหากน้องดอกเข็มจะเดินทางมาที่กรุงเทพ เจ้าตัวมักจะเดินทางโดยเครื่องบิน สลับกับรถทัวร์เป็นบางครั้ง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เดินทางมาพร้อมกับแม่ และมีการจองตั๋วนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าโซนที่นั่ง 5-6 ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณด้านหน้าคอนโซลรถ ซึ่งในช่วงจังหวะที่มีข่าวออกมาทางพ่อของน้องยังไม่เชื่อว่าลูกสาวกับภรรยาจะนั่งมาในรถคันดังกล่าว เนื่องจากรถคันดังกล่าวนั้นเป็นสายกรุงเทพ- นาทวี เพราะปกติแล้วหากเขาเดินทางกลับมาลงบริเวณจุดจอดรถป่าพะยอม ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร เขาเองมักจะจองตั๋วสายกรุงเทพ-พัทลุง แต่เชื่อว่าวันดังกล่าวผู้โดยสารคงเยอะและรถคงเต็ม เลยทำให้ต้องจองตั๋วรถทัวร์สายดังกล่าว เผยครอบครัวทุกคนโศกเศร้า และยังทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้ เนื่องจากประเด็นหลักน้องเองเพิ่งจะเริ่มต้นอนาคตที่ดีกับการเรียน และตั้งใจจะทำงานสายนิเทศศาสตร์
“น้องพูดเล่นว่าอยากเป็นมิสแกรนด์ พูดเชิงจริงเชิงเล่น แต่รู้ว่าหากมีโอกาสเขาคงจะเดินตามความฝันในสายงานประกวดด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเขาเองเป็นคนที่รักสวยรักงามและมักจะดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เขามีความสามารถทั้งเรื่องของการเต้น ภาษาและกิจกรร มอื่นๆ จนกระทั่งเขาสามารถสอบเข้าห้องพิเศษทักษะภาษาได้ตามที่เขาหวัง พยายามฝึกและเรียนรู้ด้วยตัวเองมาตลอด ”
Advertisement