บิ๊กเต่า ออกหมายเรียกเมียศรีสุวรรณ ให้ปากคำ 15 ก.พ. นี้
บิ๊กเต่า เผยออกหมายเรียก ภรรยา ของนายศรีสุวรรณ เข้าให้ปากคำคดีตบทรัพย์ 15 ก.พ.นี้ คดีนี้มีผู้เสียหายหลายวง เตรียมขยายผล
คอนเทนต์แนะนำ
วันนี้ (8 ก.พ.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมคณะทำงานคดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าว่า คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้เกี่ยวข้องอีก 2 คนที่ตำรวจจะขอออกหมายจับ แม้พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและแชตไลน์จะแสดงให้เห็นว่าเป็นตัวการร่วม แต่คณะทำงานเห็นว่าเป็นเป้าหมายรอง จึงจะออกเป็นหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาก่อน
ขณะนี้ออกหมายเรียกแล้ว 1 หมายคือ ภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งสาเหตุที่ออกเป็นหมายเรียก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้หญิง มีปัญหาสุขภาพ อีกทั้งตำรวจสามารถติดต่อได้ผ่านทางทนาย เบื้องต้นจะเรียกมาให้ข้อมูลในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ส่วนอีกคนเป็นบัญชีม้า ซึ่งเจ้าตัวประสานจะเข้าให้ข้อมูลเร็วๆ นี้
สำหรับพยาน 2 คนที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เคยนำข้อมูลมามอบให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบก่อนหน้านี้ จะเข้าให้ปากคำในวันที่ 12 ก.พ.นี้ด้วย
คดีนี้มีวงผู้เสียหายหลายวงที่ถูกผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งตำรวจเตรียมจะขยายผลเปิดวงผู้เสียหายที่ 2 และ 3 โดยวงที่ 2 เป็นคดีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เดินทางไปสอบปากคำนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกองตรี ธนกฤต เล่าว่า ถูกกลุ่มผู้ต้องหาติดต่อเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ลักษณะเดียวกับอธิบดีกรมการข้าว แต่นายกองตรี ธนกฤตไม่เล่นด้วยและพยายามชี้แจง รวมถึงประสานให้เข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในขณะนั้นเพื่อรับฟังคำชี้แจง แต่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ฟังและยังคงเรียกรับผลประโยชน์ แต่ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
ส่วนวงที่ 3 ยืนยันว่า ปัจจุบันตำรวจมีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว แต่ยังต้องรอผู้เสียหายเข้าให้ปากคำก่อน ซึ่งผู้เสียหายได้ประสานว่าจะเข้าให้ข้อมูลเร็วๆ นี้ จากรายงานข่าวคาดว่าเป็นวงของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ส่วนกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนที่มีการพาดพิงไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงนั้น ยังไม่อยากให้ข้อมูลและขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังคงเป็นกลุ่มเดิม ไม่มีตัวละครใหม่ หลังรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วจะส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งหากคนที่ถูกนายเสกสกลอ้างถึงต้องการเข้าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก็สามารถเข้าให้ข้อมูลได้เช่นกัน
ส่วนกรณีที่นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้ปรึกษาเรื่องความปลอดภัยหลังเชื่อว่าถูกคุกคามนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือไม่ แต่ตำรวจยินดีให้ความร่วมมือหากมีการร้องขอให้คุ้มครองพยาน.
Advertisement
