"ม.แม่โจ้" ชวนยิ้มชิม "เมนูกัญชา" ฟรีจาก 47 ร้านอาหารคาว-หวาน คนแห่ร่วมงานแน่น
วันนี้(20 ก.พ.64) ที่โรงปลูกกัญชาทางการแพทย์ 16,700 ต้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายสำเริง ไชยเสนรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันเปิดงานโครงการ แม่โจ้ชวนยิ้มชิมกัญ(ชา) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดขึ้นเพื่อสาธิตการนำชิ้นส่วนกัญชาได้แก่ใบต้น และรากที่ใช้ได้อย่างถูกกฎหมายมาปรุงอาหาร
ภายในานมีร้านอาหารทุกระดับทั้งสตรีทฟูด และร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมกว่า 47 ราย ได้สาธิตการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลายทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมการปรุงอาหารและชิมฟรีตลอดงาน จำกัดคนละไม่เกิน 5 เมนูด้วยการแจกคูปอง โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมเพียง 500 คน ตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกัน โควิด-19
ทั้งนี้ในช่วงพิธีเปิดงานนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ร่วมกันสาธิตการปรุงอาหารเมนูข้าวผัดกะเพราหมูใบกัญชาและไข่เจียวกัญชาด้วย
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติรับผิดชอบดำเนินการ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยจากโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาเพื่อทางการแพทย์ในระบบอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรม ที่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการที่จะนำชิ้นส่วนของกัญชานอกจากช่อดอกมาใช้ประโยชน์ และทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยมีโรงพยาบาลอภัยภูเบศรเป็นต้นแบบในเรื่องการนำมาใช้ปรุงเป็นเมนูอาหาร และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและยา(อย.)ด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบและทำให้ทราบถึงคุณสมบัติที่ดีของกัญชาในการนำมาใช้ปรุงอาหาร ตลอดจนเป็นการประเมินผลข้อมูลที่นำไปสู่การวางหลักเกณฑ์ทั้งวิธีการและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพื่อหน่วยงานรับผิดชอบจะประกาศบังคับใช้เป็นกฎระเบียบตามกฎหมายต่อไป
สำหรับร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนั้นมีทุกระดับ ตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หรือสตรีทฟูดทั่วไป ร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่ม โดยทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะสนับสนุน ใบกัญชาสดให้ร้านละ 200 กรัม พร้อมปริมาณแนะนำการใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารเฉลี่ยจานละ 1 ใบ รวมทั้งชิ้นส่วนของต้นและรากอีกจำนวนหนึ่งตามความเหมาะสมและตามสูตรอาหารของแต่ละร้าน โดยการจัดงานครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวด้วย เพราะมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับจากผลงานวิจัย ที่พร้อมใช้ชิ้นส่วนของกัญชาสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกันศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโชผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวย้ำว่า แม้ว่าขณะนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขจะปลดล็อกให้ชิ้นส่วนกัญชาทั้งใบต้นและรากสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้นั้นต้องนำมาจากแหล่งที่ผู้ปลูกได้รับการอนุญาตให้ปลูกถูกต้องตามกฎหมายด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
หากมีการได้มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามกระบวนการก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนได้เช่นนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่ม ส่วนในกรณีหากมีผู้ประกอบการจะนำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางเพื่อจำหน่ายนั้นจะต้องมีการแจ้งและขอนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ด้วย
Advertisement